อดีต ส.ส.ปชป.ชี้ปลดของกลางนาฬีกาโคตรแพงออก เหมือนทำลายหลักฐาน แนะ “บิ๊กตู่” ใช้ ม.44 ฟัน “สุวิจักขณ์” ที่สร้างความเสียหายต่อราชการ พร้อมดำเนินคดีนักการเมืองที่เอี่ยว ขณะเดียวกันทวงถาม ป.ป.ช.ความคืบหน้ากรณีรัฐบาล “ปู” จ้าง “มติชน” รับงานโรดโชว์สุดฉาว
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปลดนาฬิกาที่จำนวน 412 เรือน ราคาเรือนละ 7.5 หมื่นบาท รวมวงเงินเกือบ 15 ล้านบาทซึ่งมีปัญหาการทุจริตลงจากที่มีการติดตั้งเอาไว้ว่า ถือเป็นความสำเร็จในการตรวจสอบการทุจริตที่คนของพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ดำเนินการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ แต่ในเรื่องนี้ยังไม่มีการดำเนินการกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง ที่น่าสนใจคือทางบริษัท อิควิปแมน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลได้ทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยกนาฬิกาของกลางทั้งหมดให้แลกกับการขอคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพมูลค่า 74 4,554.15 บาท แต่สำนักงานเลขาธิการสภาฯไม่กล้ารับนาฬิกาดังกล่าวมาไว้เป็นกรรมสิทธิ์โดยใช้วิธีปลดนาฬิกาลงแทน ถามว่าทำไมถึงมีการปล่อยให้เอาของกลางที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนไป ถือเป็นการพยายามทำลายของกลางหรือไม่
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งไล่นายสุวิจักขณ์ หรือวัชระชัย นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาในยุคที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานรัฐสภา ออกจากราชการ เพราะสร้างความเสียหายให้แก่ราชการ อยู่ต่อไปก็เสียเงินภาษีประชาชนที่จ้าง และขอให้ตรวจสอบเพื่อเอาผิดต่อนักการเมืองที่เกี่ยวข้องทุกคนด้วย ไม่ว่าผลสอบออกมาจะเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองไหน
นายวัชระยังทวงถามความคืบหน้ากรณีที่ร้องให้มีการตรวจสอบโครงการ “Roadshow” สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่าจ้างบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดโครงการงบประมาณ 100 ล้านบาทในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส รวมถึงกรณีที่มติชนจำหน่ายหนังสือ “จับเข่าคุยทักษิณ” ในช่วงที่มีกฎอัยการศึก และมีเนื้อหาหมิ่นเหม่ต่อ ม.112 ด้วย เพราะตนร้องต่อ ป.ป.ช.ไปแล้วเกือบ 2 ปี แต่เรื่องก็เงียบหาย จึงขอให้ออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าด้วย