TRUE เผยที่ประชุมบอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุน 6 หมื่นล้าน โดยจะออกหุ้นใหม่ 1.5 หมื่นล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 4 บาท ขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น กำหนดราคาขายใน 31 มี.ค.นี้ มั่นใจการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และรองรับการเติบโตทางธุรกิจเพื่อประโยชน์ระยะยาว
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 29 ม.ค. มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีก 6 หมื่นล้านบาท โดยจะออกหุ้นใหม่ 1.5 หมื่นล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 4 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)
แต่เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน คณะกรรมการบริษัทจึงไม่ได้กำหนดราคาเสนอขายเป็นราคาตายตัว แต่กำหนดเป็นวิธีการคำนวณโดยราคาเสนอขายเท่ากับผลลัพธ์ของ 0.9 คูณด้วย ราคาเฉลี่ยการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.-30 มี.ค.59 ซึ่งบริษัทจะแจ้งข้อมูลราคาเสนอขายที่คำนวณได้ให้แก่ผู้ถือหุ้นทราบ โดยประกาศผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 31 มี.ค.นี้
สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 158,431,712,600 บาท จากเดิมที่ 98,431,712,600 บาท
โดยการเพิ่มทุนดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และรองรับการเติบโตทางธุรกิจเพื่อประโยชน์ระยะยาวของบริษัท และผู้ถือหุ้น โดยบริษัทจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมมาใช้ลงทุนในธุรกิจดังต่อไปนี้ ได้แก่ ธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน ราว 8 พันล้านบาท ธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ราว 3.2 หมื่นล้านบาท และใช้ลงทุนในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอื่นๆ ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ขณะที่บริษัทกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 เพื่ออนุมัติการเพิ่มทุน และการจัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในวันที่ 8 เม.ย.59 พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทยังจะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญ คือ ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม (ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่) ย่าน 1800 MHz และ 900 MHz โดยบริษัท ทรู มูฟ ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
ทั้งนี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่า TUC จะได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 MHz เมื่อได้ดำเนินการตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตที่กำหนดในหนังสือแจ้งการเป็นผู้ชนะประมูล ซึ่งออกโดย กสทช.ภายในเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะประมูล ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.พ.นี้
ขณะที่ TUC เป็นผู้ชนะการประมูลใบอนุญาตย่าน 900 MHz ด้วยราคาประมูล 76,298 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนในเฟสแรกเพิ่มเติมสำหรับโครงข่ายโทรคมนาคมภายใต้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และ ย่าน 900 MHz อีกราว 32,631 ล้านบาท และเมื่อรวมกับราคาประมูลแล้ว มีมูลค่าของรายการคิดเป็นเงินประมาณ 108,929 ล้านบาท
โดยในส่วนของเงินค่าประมูลนั้น กสทช.กำหนดให้ TUC แบ่งชำระเป็น 4 งวด ได้แก่ งวดที่ 1 ชำระเงินประมูลคลื่นความถี่เป็นเงิน 8,040 ล้านบาท พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร เพื่อค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะประมูล งวดที่ 2 จำนวน 4,020 ล้านบาท พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคารเพื่อค้ำประกันการชำระเงินในงวดที่ 3 และ 4 ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 2 ปีนับจากวันที่ได้รับใบอนุญาต งวดที่ 3 จำนวน 4,020 ล้านบาท พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคารเพื่อค้ำประกันการชำระเงินงวดที่ 4 ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 3 ปีนับจากวันที่ได้รับใบอนุญาต และงวดที่ 4 จำนวน 60,218 ล้านบาท ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต
สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่จะใช้เพื่อชำระเงินค่าใบอนุญาต และการลงทุนขยายโครงข่ายดังกล่าวจะมาจากการเพิ่มทุน เงินสดจากการดำเนินงาน สินเชื่อจากสถาบันการเงิน หรือตราสารหนี้ เช่น หุ้นกู้ โดยไม่มีเงื่อนไขที่กระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้น