MGR Online - “พล.ต.ต.ชาญ” พร้อมตำรวจกองปราบฯ ตามล็อกสองผัวเมียสุดแสบหลอกประมูลทองผ่านเฟซบุ๊ก เหยื่อหลงกลร่วม 81 ราย โอนเงินหลายล้านบาทแล้วไม่ส่งของตามกำหนดก่อนปิดเฟซบุ๊กหนี เผยพฤติการณ์ลอกวิธีการหลอกมาจากเพจประมูลในเฟซบุ๊ก
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรพัฒน์ ธารีไทย รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.เมธา วงศ์อนันต์นนท์ รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตรโสภากุล สว.กก.3 บก.ป. ร่วมแถลงข่าวจับกุม น.ส.วาสนา กรรเชียง อายุ 31 ปี และนายลำพูน พยุง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม. 4 ตำบลและอำเภอโคกสำโรง จ.ลพบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ 426/2558 และ 427/2558 ลงวันที่ 26 พ.ย. ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 10 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 93 ม.1 ตำบลและอำเภอชัยบาดาล จ.ลพบุรี
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวว่า เมื่อเดือน มิ.ย.ปี 2558 น.ส.ศศิธร ศรีสุขอัยการ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมผู้เสียหาย 7 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ว่าถูกสองผัวเมียดังกล่าวหลอกประมูลทองรูปพรรณในราคาถูก ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “พลอยไพรินทร์” ซึ่งได้มีการประมูลกัน แต่เมื่อการประมูลเสร็จสิ้นผู้เสียหายได้โอนเงินให้ตามจำนวนที่ประมูลแต่กับไม่ส่งทองรูปพรรณแก่ผู้ที่ชนะประมูลตามที่ตกลงกันไว้ มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ต่อมาภายหลังชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าหลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งสองได้มากบดานอยู่ที่บ้านเช่าดังกล่าวจึงได้ทำการจับกุม อย่างไรก็ตาม จากการขยายผลทราบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวอีก 81 ราย มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท รวมทั้งผู้ต้องหาทั้งสองมีหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหาเดียวกัน อีกทั้งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่ทางกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6 ต้องการตัวอีกด้วย
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเมื่อราวเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมาได้เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อว่าพลอยไพรินทร์ขึ้น โดยจัดให้มีการประมูลทองรูปพรรณ ซึ่งทองรูปพรรณที่นำมาประมูลตนซื้อมาจากร้านทองที่รู้จัก โดยในช่วงแรกก็จะมีการโชว์ทองรูปพรรณหลายรูปแบบ รวมทั้งส่งสินค้าให้แก่ผู้ชนะประมูล ต่อมาภายหลังราคาทองสูงขึ้นกว่าที่ซื้อมาทำให้ขาดทุนอย่างต่อเนื่องทำให้ไม่ได้ส่งของให้ตามที่กำหนด และที่ผ่านมาก็พยายามที่จะเคลียร์เงินให้ผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ส่วนวิธีการหลอกลวงเหยื่อตนได้เลียนแบบมาจากเพจประมูลอื่นๆ
ด้าน น.ส.ศศิธร หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนเริ่มรู้จักเฟซบุ๊กดังกล่าวจากเพื่อนเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเพื่อนที่รู้จักแนะนำว่าเพจดังกล่าวจัดให้เปิดประมูลทองรูปพรรณในราคาถูกกว่าราคาร้านทองในท้องตลาดหลายเท่า ตนสนใจจึงเข้าร่วมการประมูลด้วย ช่วงแรกได้ประมูลแหวนทอง 1 สลึง และได้รับทองมาจริง แต่ล่าสุดตนเองได้ประมูลทองได้จำนวน 1 สลึง 10 เส้น 2 สลึง 1 เส้น และมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยชื่อบัญชีนายลำพูน พยุง แล้ว แต่ไม่ได้รับทองตามที่ตกลงกันไว้ และอ้างว่าร้านทองยังไม่ได้ส่งทองมาให้ ทำให้ตนสูญเงินกว่า 53,000 บาท และเมื่อทวงถามได้มีการบ่ายเบี่ยงและปิดเฟซบุ๊ก อย่างไรก็ตาม ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนนั้นเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ และอย่าได้หลงเชื่อกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพที่ก่อเหตุในลักษณะนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป