ปธ. บอร์ด สสส. เผยที่ประชุมบอร์ด เห็นชอบ “หมอวีระพันธ์” นั่งรองประธานคนที่ 2 พร้อม 6 ผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ เตรียมเสนอ ครม. แต่งตั้งสัปดาห์หน้า พร้อมมอบ ผจก. หารือกรมสรรพากร หาข้อยุติมาตรการภาษี บรรเทาความเดือดร้อนภาคีฯ แจงผลการประเมิน สสส. เกณฑ์ดี แต่ขาดการสื่อสารสังคมรับรู้
วันนี้ (19 ก.พ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สสส. ครั้งที่ 2/2559 ว่า คณะกรรมการสรรหารองประธานคณะกรรมการกองทุนฯ คนที่ 2 และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. ที่มี ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากองทุนฯ เป็นประธาน ได้ดำเนินการตามกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทดแทน 7 คน ที่พ้นตำแหน่งไป ได้สรุปรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาจำนวน 14 คน จากผู้สนใจสมัครเข้ามารับการสรรหาถึง 124 คน เพื่อเสนอให้บอร์ด สสส. คัดเลือกด้วยวิธีการลงคะแนนลับให้เหลือ 7 ท่าน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว คัดเลือกให้ นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม และขับเคลื่อนการป้องกันอุบัติเหตุการจราจรของ จ.ขอนแก่น จนทำเป็นต้นแบบการจัดการอุบัติเหตุทางถนนของทั่วประเทศ ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการกองทุนฯ คนที่ 2
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ได้พิจารณาคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ อีก 6 ท่าน ได้แก่ 1. นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านสร้างเสริมสุขภาพ 2. นางสุวรรณี คำมั่น อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการพัฒนาชุมชน 3. นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการศึกษาด้านการสื่อสารมวลชน เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านสื่อมวลชน 4. รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการกีฬา 5. นายสรรพสิทธิ์ คุมประพันธ์ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านศิลปวัฒนธรรม และ 6. นายสัมพันธ์ ศิลปะนาฏ รองประธานผู้จัดการ บริษัท เอชจีเอชที (ประเทศไทย) จำกัด เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการบริหาร หลังจากนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
“ผมได้ลงนามแก้ไขระเบียบข้อบังคับของ สสส. ตามที่คณะกรรมการพิจารณาเสนอความเห็นในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลำดับรองของ สสส. ที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งขึ้น ได้เสนอปรับแก้ไขทั้งสิ้น 15 ฉบับ และได้รายงานไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบผ่านคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) เพื่อพิจารณายกเลิกมาตรการควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณของ สสส. แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอ และคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าหากท่านนายกฯ พิจารณาเห็นชอบ ก็จะส่งผลให้การใช้จ่ายงบประมาณของ สสส.จะกลับเป็นปกติ ไม่ต้องนำเสนอ คตร. พิจารณาก่อนอนุมัติงบ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบในส่วนนี้ได้ นอกจากนั้น ได้มอบให้ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ไปหารือร่วมกับกรมสรรพากร ถึงสถานการณ์เรียกเก็บภาษีอากรจากการทำงานสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อทำความเข้าใจหรือปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคีฯ 4,184 โครงการในปัจจุบัน” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบรายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุน สสส. ประจำปีงบประมาณ 2558 ที่ประเมินโดยคณะกรรมการประเมินผลกองทุนฯ ตามที่ ครม. แต่งตั้งขึ้น โดยมี รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน พบว่า การประเมินผลตามตัวชี้วัดองค์กรทั้งในด้านผลสัมฤทธิ์ ด้านการเงิน ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านปฏิบัติการ ด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน มีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 4.33 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ซึ่งต้องยอมรับว่า สสส. มีผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ดี มีจุดแข็งในเรื่องของการสื่อสารรณรงค์ให้สังคมเห็นความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพ แต่ยังขาดการสื่อสารให้สังคมได้รับรู้รูปแบบและกระบวนการทำงานขององค์กร เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ และผลสำเร็จของ สสส. ดังนั้น คณะกรรมการประเมินผลฯ จึงเสนอให้ สสส. หาแนวทางสื่อสารกระบวนการทำงานขององค์กรเพื่อสร้างความเข้าใจกับสังคม นอกจากนั้น ควรขยายผลงาน หรือนวัตกรรมที่สำคัญของ สสส. ไปสู่หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่หลักในการพัฒนาสุขภาวะเพื่อขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
วันนี้ (19 ก.พ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สสส. ครั้งที่ 2/2559 ว่า คณะกรรมการสรรหารองประธานคณะกรรมการกองทุนฯ คนที่ 2 และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. ที่มี ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากองทุนฯ เป็นประธาน ได้ดำเนินการตามกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทดแทน 7 คน ที่พ้นตำแหน่งไป ได้สรุปรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาจำนวน 14 คน จากผู้สนใจสมัครเข้ามารับการสรรหาถึง 124 คน เพื่อเสนอให้บอร์ด สสส. คัดเลือกด้วยวิธีการลงคะแนนลับให้เหลือ 7 ท่าน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว คัดเลือกให้ นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม และขับเคลื่อนการป้องกันอุบัติเหตุการจราจรของ จ.ขอนแก่น จนทำเป็นต้นแบบการจัดการอุบัติเหตุทางถนนของทั่วประเทศ ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการกองทุนฯ คนที่ 2
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ได้พิจารณาคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ อีก 6 ท่าน ได้แก่ 1. นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านสร้างเสริมสุขภาพ 2. นางสุวรรณี คำมั่น อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการพัฒนาชุมชน 3. นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการศึกษาด้านการสื่อสารมวลชน เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านสื่อมวลชน 4. รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการกีฬา 5. นายสรรพสิทธิ์ คุมประพันธ์ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านศิลปวัฒนธรรม และ 6. นายสัมพันธ์ ศิลปะนาฏ รองประธานผู้จัดการ บริษัท เอชจีเอชที (ประเทศไทย) จำกัด เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการบริหาร หลังจากนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
“ผมได้ลงนามแก้ไขระเบียบข้อบังคับของ สสส. ตามที่คณะกรรมการพิจารณาเสนอความเห็นในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลำดับรองของ สสส. ที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งขึ้น ได้เสนอปรับแก้ไขทั้งสิ้น 15 ฉบับ และได้รายงานไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบผ่านคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) เพื่อพิจารณายกเลิกมาตรการควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณของ สสส. แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอ และคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าหากท่านนายกฯ พิจารณาเห็นชอบ ก็จะส่งผลให้การใช้จ่ายงบประมาณของ สสส.จะกลับเป็นปกติ ไม่ต้องนำเสนอ คตร. พิจารณาก่อนอนุมัติงบ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบในส่วนนี้ได้ นอกจากนั้น ได้มอบให้ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ไปหารือร่วมกับกรมสรรพากร ถึงสถานการณ์เรียกเก็บภาษีอากรจากการทำงานสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อทำความเข้าใจหรือปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคีฯ 4,184 โครงการในปัจจุบัน” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบรายงานการประเมินผลการดำเนินงานกองทุน สสส. ประจำปีงบประมาณ 2558 ที่ประเมินโดยคณะกรรมการประเมินผลกองทุนฯ ตามที่ ครม. แต่งตั้งขึ้น โดยมี รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน พบว่า การประเมินผลตามตัวชี้วัดองค์กรทั้งในด้านผลสัมฤทธิ์ ด้านการเงิน ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านปฏิบัติการ ด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน มีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 4.33 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ซึ่งต้องยอมรับว่า สสส. มีผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ดี มีจุดแข็งในเรื่องของการสื่อสารรณรงค์ให้สังคมเห็นความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพ แต่ยังขาดการสื่อสารให้สังคมได้รับรู้รูปแบบและกระบวนการทำงานขององค์กร เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ และผลสำเร็จของ สสส. ดังนั้น คณะกรรมการประเมินผลฯ จึงเสนอให้ สสส. หาแนวทางสื่อสารกระบวนการทำงานขององค์กรเพื่อสร้างความเข้าใจกับสังคม นอกจากนั้น ควรขยายผลงาน หรือนวัตกรรมที่สำคัญของ สสส. ไปสู่หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่หลักในการพัฒนาสุขภาวะเพื่อขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
