พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ หรือบอร์ด สสส. ครั้งที่ 1/2559 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสรรหาเสนอแต่งตั้ง ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการ สสส. ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ สสส. คนใหม่
นอกจากนั้นที่ประชุมได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหารองประธานคณะกรรมการกองทุนฯ คนที่ 2 และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ สสส. เพื่อดำเนินการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ทดแทน 7 ท่านที่พ้นตำแหน่งไป โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ จำนวน 7 ท่าน ได้แก่ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากองทุนฯ เป็นประธานกรรมการสรรหา นางประภาศรี บุญวิเศษ ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายระพีพันธุ์ สริวัฒน์ อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางทิชา ณ นคร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ รศ.ดร.ภก.วิทยา กุลสมบูรณ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ และผู้จัดการ สสส. หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ทำหน้าที่เลขานุการฯ
"ที่ผ่านมามีเสียงร้องเรียนจากภาคีฯ สสส. และเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายจับตามองว่า การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ในครั้งนี้ อาจเกิดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง หรือกลุ่มธุรกิจเหล้าบุหรี่ ดังนั้น ผมต้องขอฝากให้คณะกรรมการสรรหาฯ ทำอย่างไรให้การสรรหาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ โปร่งใส ปราศจากข้อครหา และสามารถพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม ปราศจากการแทรกแซง หรือแม้ผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อความสง่างามของคณะกรรมการกองทุนฯ สสส." พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
สำหรับขั้นตอนพิจารณาสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ นั้น จะมีการประกาศเปิดรับการเสนอชื่อทางสื่อมวลชนและเว็บไซต์ เพื่อให้หน่วยงานหรือบุคคลที่สนใจเสนอรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าสู่กระบวนการสรรหาฯ โดยคณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาและสรุปรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาจำนวนไม่น้อยกว่า 2 เท่าของตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง เพื่อนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ คัดเลือกโดยวิธีการลงคะแนนลับ จากนั้น จะนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อแต่งตั้งต่อไป ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่ที่มีการประกาศแต่งตั้ง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กระบวนการสรรหาครั้งนี้เป็นไปอย่างถูกต้องและเกิดความชัดเจนในประเด็นทางกฎหมาย ที่ประชุมบอร์ด สสส. จึงเสนอให้ส่งคำหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นกรณีเร่งด่วนว่า คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ที่พ้นตำแหน่งไปแล้วตามคำสั่ง คสช. ที่ 1/2559 จะสามารถเข้าสู่กระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ใหม่หรือไม่ รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนด
นอกจากนั้นที่ประชุมได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหารองประธานคณะกรรมการกองทุนฯ คนที่ 2 และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ สสส. เพื่อดำเนินการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ทดแทน 7 ท่านที่พ้นตำแหน่งไป โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ จำนวน 7 ท่าน ได้แก่ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากองทุนฯ เป็นประธานกรรมการสรรหา นางประภาศรี บุญวิเศษ ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายระพีพันธุ์ สริวัฒน์ อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางทิชา ณ นคร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ รศ.ดร.ภก.วิทยา กุลสมบูรณ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ และผู้จัดการ สสส. หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ทำหน้าที่เลขานุการฯ
"ที่ผ่านมามีเสียงร้องเรียนจากภาคีฯ สสส. และเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายจับตามองว่า การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ในครั้งนี้ อาจเกิดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง หรือกลุ่มธุรกิจเหล้าบุหรี่ ดังนั้น ผมต้องขอฝากให้คณะกรรมการสรรหาฯ ทำอย่างไรให้การสรรหาบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ โปร่งใส ปราศจากข้อครหา และสามารถพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม ปราศจากการแทรกแซง หรือแม้ผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อความสง่างามของคณะกรรมการกองทุนฯ สสส." พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
สำหรับขั้นตอนพิจารณาสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ นั้น จะมีการประกาศเปิดรับการเสนอชื่อทางสื่อมวลชนและเว็บไซต์ เพื่อให้หน่วยงานหรือบุคคลที่สนใจเสนอรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าสู่กระบวนการสรรหาฯ โดยคณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาและสรุปรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาจำนวนไม่น้อยกว่า 2 เท่าของตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง เพื่อนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ คัดเลือกโดยวิธีการลงคะแนนลับ จากนั้น จะนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อแต่งตั้งต่อไป ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่ที่มีการประกาศแต่งตั้ง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กระบวนการสรรหาครั้งนี้เป็นไปอย่างถูกต้องและเกิดความชัดเจนในประเด็นทางกฎหมาย ที่ประชุมบอร์ด สสส. จึงเสนอให้ส่งคำหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นกรณีเร่งด่วนว่า คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ที่พ้นตำแหน่งไปแล้วตามคำสั่ง คสช. ที่ 1/2559 จะสามารถเข้าสู่กระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ใหม่หรือไม่ รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนด