เลื่อนประชุมบอร์ด สสส. จาก 15 ม.ค. เป็น 22 ม.ค. หลังนักกฎหมายชี้ไม่ครบองค์ประกอบการประชุม เตรียมชง ครม. เลือกผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ถูกปลดเป็นรองประธานบอร์ดคนที่ 2 ด้าน ขสช. จ่อนำโครงการรับทุน สสส.ยื่นสภาทนายความตีความ หลังสรรพากรประกาศรีดภาษี จับตาสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ แช่แข็งงบในการประชุมบอร์ดนัดหน้า
การประชุมคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (บอร์ด สสส.) ซึ่งมีกำหนดวันที่ 15 ม.ค. 2558 โดยมีวาระในการนำเสนอเรื่องการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ และการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ และอาจจะมีการแต่งตั้งผู้จัดการ สสส. คนใหม่ แทน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ที่ลาออกไป ซึ่งขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (ขสช.) ได้มีการแถลงว่าจะจับตาการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ มาตรการแก้ปัญหาเรื่องการปลดล็อกงบประมาณโครงการวงเงิน 5 ล้านบาท และกรณีกรมสรรพากรมีประกาศเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปีมูลนิธิที่รับทุน สสส. เนื่องจากตีความว่าเป็นการรับจ้างทำของนั้น
วันนี้ (13 ม.ค.) ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ โฆษก สสส. กล่าวว่า การประชุมบอร์ด สสส. วันที่ 15 ม.ค. นี้ต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากมีการให้ความเห็นจากนักกฎหมายว่าการออกคำสั่งของ คสช. ตามมาตรา 44 ที่ปลดกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. ทั้ง 7 ท่านเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา อาจมีองค์ประกอบไม่ครบตาม พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 เนื่องจากขาดรองประธานคณะกรรมการกองทุนฯ คนที่ 2 แม้ว่าจะมีจำนวนคณะกรรมการฯ ครบองค์ประชุมก็ตาม จากข้อจำกัดดังกล่าว พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ด สสส. จึงให้นำรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฯ เสนอต่อที่ประชุม ครม. วันที่ 19 ม.ค. เพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นรองประธานบอร์ด สสส. คนที่ 2 เพื่อให้ครบองค์ประกอบและสามารถจัดประชุมบอร์ด สสส. ได้ในวันที่ 22 ม.ค. นี้ เพื่อให้การทำงานของ สสส. ดำเนินงานต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแต่งตั้งรองประธานกองทุนคนที่ 2 จะต้องเลือกมาจากกรรมการในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่ 2 คนที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ คือ นางทิชา ณ นคร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา และนายชำนาญ พิเชษฐพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ทั้งนี้ วาระในการประชุมบอร์ด สสส.ครั้งต่อไปยังคงเป็นเรื่องการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ และแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิเช่นเดิม
นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการเครือข่ายองค์กรงดหล้า กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวแต่ก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ต้องเลื่อนประชุมบอร์ด สสส. ว่า เป็นเรื่องของทางเทคนิคทำให้ไม่สามารถประชุมได้ โดยวันที่ 15 ม.ค.นี้ ขบวนการส่งเสริมสุขภาพภาคประชาชน ขสช. จะยังไม่เดินทางไปที่ สสส. แต่วันที่ 14 ม.ค. จะเดินทางไปที่สภาทนายความเพื่อปรึกษาในเรื่องข้อกฎหมายการจัดเก็บภาษีให้วินิจฉัยการตีความการของกรมสรรพากรและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ให้มูลนิธิที่รับทุน สสส.ต้องเสียภาษี เป็นไปโดยชอบหรือไม่ ซึ่งจะให้พิจารณาจากสัญญาโครงการต่าง ๆ ส่วนเรื่องของการตรวจสอบผู้ทรงคุณวุฒิที่ถูกปลดด้วย ม.44 ว่า ชอบธรรมหรือไม่ รวมทั้งประเด็นการปลดล็อกการอนุมัติงบประมาณโครงการต่าง ๆ ของ สสส. และการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิว่าเป็นไปตามกลไกและมีคุณสมบัติตามข้อเรียกร้องของ ขสช. หรือไม่นั้น จะมีการจับตาในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไป
นายคำรณ ชูเดชา เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจกรมสรรพากร ว่า เพราะอะไรถึงมาตรวจสอบภาษีองค์กรที่รับงบจากสสส. เนื่องจากองค์กรเหล่านี้มีการจ่ายภาษีเงินได้ทั้งส่วนบุคคล ทั้งส่วนองค์กรมาตลอด จึงทำให้คิดว่าการตรวจครั้งนี้ไม่ชอบมาพากล และมีการตีความเกินกฎหมายเรื่องการเก็บภาษีองค์กรเหล่านี้ เนื่องจาก สสส. และสำนักงานอัยการสูงสุดเคยตีความว่า องค์กรหรือมูลนิธิที่รับงบ สสส. เป็นการทำงานแทน ไม่ใช่รับจ้างทำงาน จึงไม่ต้องจ่ายภาษีต่างหาก เพราะ สสส.มีการจ่ายภาษี ณ ที่จ่ายแล้วร้อยละ 1
“กรมสรรพากรต้องการให้เราเอาสัญญาทำงานกับ สสส. ไปตีตราสาร เพื่อให้เข้าข่ายต้องจ่ายภาษี เหมือนรับจ้างทำงานให้ สสส. โดยหากรับงบมา 1,000 บาท ต้องจ่ายภาษี 1 บาท ซึ่งไม่ถูกต้อง ขัดกับการตีความของ สสส. จึงน่าคิดว่า พ.ร.บ.สสส.ทำงานผ่านมา 14 ปี ไม่เห็นมีปัญหา แต่กลับมามีตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายสุขภาพด้านแรงงานได้ไปยื่นหนังสือร้องต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ด สสส. ให้ช่วยเรื่องนี้ แต่หากยังไม่มีความคืบหน้าจะไปสอบถามด้วยตัวเองกับอธิบดีกรมสรรพากรในสัปดาห์หน้า และในวันที่ 14 ม.ค. จะไปปรึกษากับสภาทนายความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รวมทั้งแนวทางการฟ้องศาลปกครอง บอร์ด สสส. ในเรื่องงบอุดหนุนที่ยังแช่แข็งอยู่” นายคำรณ กล่าวและว่า ส่วนการเลื่อนประชุมบอร์ด สสส.เพราะองค์ประชุมไม่ครบนั้น ตนเข้าใจ แต่จะสอบถามสภาทนายความอีกที
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่