รองนายกฯ เผย คกก.ป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เห็นชอบให้ผู้บังคับบัญชาติดตามคดีลูกน้องเอี่ยวค้ามนูษย์ ใครละเลยมีโทษทางวินัย ขณะเดียววกันลงนามแก้ระเบียบปลดล็อคใช้จ่ายโครงการ สสส.แล้ว รอนายกฯ พิจารณา พร้อมเคาะสรรหาบอร์ดใหม่ 7 คนพรุ่งนี้
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้บังคับบัญชาต้องติดตามการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และให้รายงานขึ้นมาภายใน 30-60 วัน โดยตั้งแต่ปี 2556-2558 มีเจ้าหน้าที่รัฐประกอบด้วยพลเรือน ทหาร และตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวน 8 คดี 35 คน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกกล่าวหาได้ติดตามการดำเนินคดี หากปล่อยปละละเลยผู้บังคับบัญชาจะมีโทษทางวินัยเองฐานปล่อยปละละเลย มาตรการดังกล่าวถือเป็นการกระตุ้นผู้บังคับบัญชาการให้คอยสอดส่องดูแลการถูกดำเนินคดีของผู้ใต้บังคับบัญชา
ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ไม่ว่าเป็นผู้กระทำเอง ให้การสนับสนุน หรือพบปะสังสรรค์กับผู้กระทำความผิดเป็นประจำจะมีโทษเป็น 2 เท่า ซึ่งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวจะมีการรวบรวมแล้วรายงานไปยังหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาเรื่องการจัดอันดับในการค้ามนุษย์ของไทยต่อไป
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณายกเลิกคำสั่งที่ให้ระงับการจ่ายเงินแก่องค์กรภาคีมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านบาทว่า ตนได้ลงนามในการแก้ระเบียบและข้อบังคับ สสส.จำนวน 15 ฉบับ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเบิกจ่ายงบประมาณเรียบร้อยแล้ว และกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งเรื่องไปให้นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณายุติหรือยกเลิกการควบคุมการใช้จ่ายโครงการ ซึ่งหากระเบียบดังกล่าวผ่านแล้วการใช้จ่ายงบประมาณของ สสส.จะกลับมาเป็นปกติ ไม่จำเป็นต้องให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตรวจสอบการใช้งบก่อนเบิกจ่ายเหมือนที่เป็นอยู่
พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ. ตนจะเป็นประธานประชุมบอร์ด สสส.เพื่อสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คนใหม่ ซึ่งจะมีความชัดเจนในวันดังกล่าว หลังจากได้รายชื่อแล้วจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบ ส่วนข้อสงสัยว่าบอร์ด สสส.ชุดเก่าที่พ้นจากตำแหน่งตามคำสั่งหัวหน้า คสช.จะกลับมาเข้ารับสรรหาใหม่ได้หรือไม่นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นกลับมาแล้วแต่ยังไม่ชัดเจน แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีปัญหา เพราะเท่าที่ทราบบอร์ด สสส.ชุดเก่าไม่ได้กลับเข้ามารับการสรรหา