รองนายกฯ เผยที่ประชุมเตรียมการประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ให้ยึดเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ และลดการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ คาดวันลงคะแนน 31 ก.ค. 59 ส่วนการรณรงค์คัดค้านสามารถทำได้ แต่ต้องไม่บิดเบือน ข่มขู่ หรือก่อความไม่สงบ
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการหารือการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย และตัวแทนคณะกรรมการ กรธ. รวมทั้ง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (มหาชน)
ต่อมาเวลา 18.00 น. นายวิษณุ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 เรื่องหลักเกณฑ์การประกาศผลประชามติจะแก้ไข โดยให้ยึดเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ และปรับหลักเกณฑ์การแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญให้จากร้อยละ 80 ครัวเรือน ให้ลดจำนวนลงมาเพื่อประหยัดงบประมาณ
นอกจากนี้ มีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวางและส่งไปยังท้องถิ่น ชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียด้วย ซึ่งทำให้สามารถปรับลดงบประมาณที่ กกต. เสนอมาจากจำนวน 4,200 ล้านบาท เหลือประมาณ 3,400 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ กกต. ไปร่างหลักเกณฑ์การควบคุมความสงบเรียบร้อยในการลงประชามติ จากนั้นให้เสนอมายังรัฐบาลเพื่อพิจารณาว่าจะออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557
ส่วนวันลงประชามติกำหนดคร่าว ๆ คือ วันที่ 31 ก.ค. 2559 หรือบวกลบ 7 วัน และขยายเวลาการลงประชามติจาก 08.00 - 15.00 น. เป็น 08.00 - 16.00 น. ขณะเดียวกันที่ประชุมเห็นว่าสามารถรณรงค์ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องไม่เป็นการหลอกลวง บิดเบือน ข่มขู่ หรือต่อต้านก่อให้เกิดความไม่สงบ ข้อเสนอทั้งหมดนี้จะนำเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายใน 1 - 2 วันนี้ จากนั้นจะส่งเรื่องให้กฤษฎีการ่างแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช. เห็นชอบและส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า สำหรับบัตรการลงคะแนนจะสามารถทำได้ในใบเดียวกันหากมี 2 คำถาม เพราะคำถามประชามติมีแค่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย แตกต่างจากบัตรเลือกตั้ง ส.ส.