xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สอบไอเอสเข้าไทย ติงไม่ใช่อยากรู้ทุกเรื่อง หวั่นกระทบความมั่นคง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” เผยสอบอยู่ข่าวไอเอสเข้าไทย ย้ำเรื่องลับมีผลกระทบต้องระวัง ไม่ใช่อยากรู้ไปทุกเรื่องจนความขัดแย้งเข้าบ้าน รับมีแผนตั้งรับมานานแล้ว แลกเปลี่ยนข้อมูลต่างประเทศ บ่นซื้ออาวุธให้เกิดความแข็งแรงก็ผิด แล้วจะมาเรียกร้องอะไร รับไฟใต้ดีขึ้น แต่คนไม่ร่วมก็ไม่ร่วม การศึกษาแก้ไขหมดแล้ว ย้อนแต่ก่อนปรับไม่ได้แบบนี้

วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีกระแสการมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือไอเอส เข้ามาในพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่ากำลังตรวจสอบสอบอยู่ เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องลับ เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประเทศอื่นและประชาคมโลกเราต้องระวัง บางทีบางเรื่องถ้าพูดออกมาก็ไม่เกิดประโยชน์ จะทำให้ผู้ก่อเหตุสามารถหลบหนีไปได้เรื่อย และจะทำให้เราเขาไปอยู่ในกระบวนการขัดแย้งเสียเอง และก็จะเกิดที่บ้านเรามากขึ้น ซึ่งเรามีการให้ความร่วมมือในด้านการข่าว ด้านการป้องกัน การจัดหาระบบเทคโนโลยีต่างๆ ตนอยากให้ทุกคนมองอย่างนี้ ไม่ใช่อยากรู้ไปทุกเรื่อง บางเรื่องก็ต้องมีความลับ ลับมาก ลับที่สุด บางเรื่องต้องใช้ในเชิงบริหาร ทำอย่างไรไม่ให้ประเทศวุ่นวาย ตื่นตระหนก นี่คือประเด็นของตน ไม่ใช่ประชาชนทุกคนต้องรู้ทุกเรื่อง

“บางเรื่องเป็นเรื่องของการบริหารประเทศ ให้ประเทศไปได้ เป็นนโยบายด้านความมั่นคง ก็ต้องทำให้มั่นคง ไม่ใช่ลับทั้งหมด แต่มีลับเป็นขั้นๆถ้าถามว่าจับได้หรือยัง ก็จับได้ แล้วเป็นไอเอสหรือเปล่า แล้วเอายังไง จะเอาได้หรือไม่ให้ชัดเจนหรือ ใช่หรือไม่ใช่ แล้วถ้าใช่จะได้อะไรขึ้นมา แล้วจะเสนออะไรต่อ บ้านเราเริ่มมีกระบวนการะแบบนี้เข้ามาแล้ว แล้วจะได้อะไรขึ้นมาอีก ความขัดแย้งก็เกิดขึ้น คราวนี้ก็เกิดบ้านเรา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนกรณีกลุ่มไอเอส รัฐบาลมีแนวทางปรับยุทธวิธีใดตั้งรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขามีแผนอยู่หรือไม่ เขาทำไปตั้งนานแล้ว เขาทำอยู่แล้ว มาตรการความมั่นคงนั้นมีหลายอย่าง เพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการ กำลังพล เพิ่มเทคโนโลยี เพิ่มอุปกรณ์ พัฒนาการศึกษา เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่มีทุกระดับ ทุกประเทศ การร่วมมือด้านการข่าวกรอง ที่มีการประชุมตลอดเวลา และข้อมูลเขาก็มีแต่จะเอามาแฉทุกอันได้หรือไม่ ไม่ใช่ต้องมาปรับแผนทุกวัน ซึ่งหลักการของแผนคือความร่วมมือ คน เครื่องมือ ยุทธโทปกรณ์ กฎหมาย และความร่วมมือกับนานาประเทศที่มีการดำเนินการมาตลอด ตามยุทธศาสตร์ชาติ แต่ปัญหาอยู่ที่การปฏิบัติ เพราะทุกคนก็ไม่ไว้ใจหมด ข้าราชการก็เสมอตัว ทำดีไม่ได้ชม ทำผิดนิดเดียวก็โดนด่า นอกจากนี้ จะมีการสั่งซื้อเครื่องมือ เช่นเครื่องมือตรวจสอบใบหน้า ตรวจสอบลายนิ้วมือ ก็มีการวิจารณ์กันไปว่าแพงไปหรือไม่ ซึ่งต้องดูที่ขั้นตอนว่าถูกหรือไม่ กฎหมายว่าอย่างไร พอจะคิดอะไร ซื้ออาวุธอะไรก็ผิดหมด แล้วจะมาเรียกร้องอะไรจากตน แทนที่จะเอาเงินมาซื้อของเหล่านี้ให้เกิดความแข็งแรง ไม่ให้เงินรั่วไหลออกไป

เมื่อถามว่า แสดงว่าสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ดีขึ้นใช่ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าถามว่าดีขึ้น มันก็ดีขึ้น ดีขึ้นจากสถิติ จากความร่วมมือ จากการที่ประชาชนเข้ามาให้ข่าว ให้ความร่วมมือมากขึ้น แต่คนที่ไม่ร่วมมันก็คือไม่ร่วม ซึ่งคนพวกนี้มีเจตนาอยู่แล้ว แต่เราต้องทำอย่างไรให้สังคม ให้คนที่ดี คนที่มุ่งหวังให้สังคมสงบสุข ทั้งคนไทยและมุสลิมมาช่วยกัน เราจะรบกันต่อไปได้หรือ ซึ่งในส่วนของการศึกษาในพื้นที่ ก็มีการเดินหน้าแก้ไข ทำทั้งหมด ให้ ศอ.บต.ลงไปทำ ทั้งงานพัฒนา กิจกรรมการศึกษา การบังคับใช้กฎหมาย การปรับปรุงกลยุทธ์วิธีต่างๆ การปรับแผนยุทธศาสตร์แต่ละปีๆมีหมดแล้ว

“ปรับมาตลอด แต่ก่อนปรับไม่ได้อย่างนี้ เพราะอะไร เพราะ ศอบต.อยู่กับนายกรัฐมนตรีใช้มั้ย ทหารอยู่ใน กอ.รมน.ทหารอยู่กับนายกฯ แต่นายกฯ สั่งไม่ได้เพราว่าไม่รู้ยุทธวิธีทหาร แต่วันนี้ผมเป็นคนเดียว มันก็ดี ทำไมไม่ไปเปรียบเทียบก่อนหน้านี้ กับวันนี้อะไรมันดีขึ้น อะไรมันแย่ลง” นายกฯ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น