ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นศ.ม.อ.ปัตตานี เตรียมจัดเวที “สว่างภายใต้เงาดำ” หยุด! มหันตภัยร้ายโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ก่อนรวมตัวเคลื่อนไหวใหญ่เดินขบวนรณรงค์เชิญชวนคนปัตตานีร่วมทำกิจกรรมในวันที่ 22 มกราคมนี้
วานนี้ (20 ม ค.) ที่มหาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี เครือข่ายนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี เพื่อความเป็นธรรม ร่วมกับเครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ (PERMATAMAS) เตรียมจัดเวทีเสวนาสว่างภายใต้เงาดำ “บทบาทนักศึกษาและประชาชนกับมหันตภัยร้ายโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา” โดยเวทีจะจัดขึ้นในวันที่ 22 ม.ค. ที่ตึก 58 ห้อง 58303 เวลา 13.30-14.30 น. หลังจากจบเวทีเสวนาจะมีกิจกรรมเดินขบวนรณรงค์หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา โดยทางเครือข่ายจัดงานได้ทำการรณรงค์เชิญชวนนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานรินทร์ ปัตตานี และประชาชนเข้าร่วมเวทีเสวนา และเข้าร่วมทำกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าว
ดร.สมพร ช่วยอารีย์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา โดนเสนอว่าให้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาในรัศมี 100 กิโลเมตร ไม่ใช่แค่ 5 กิโลเมตร เพราะขนาดของโรงไฟฟ้าที่ใหญ่มากถึง 2,200 เมกะวัตต์ เช่นนี้ จึงเป็นการศึกษาที่จะช่วยป้องปรามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพได้อย่างแท้จริง
จากข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือได้นั้น ชี้ว่าผลกระทบทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก ของว่าที่โรงไฟฟ้าถ่านหินกินรัศมีมากกว่า 5 กิโลเมตรแน่นอน ซึ่งต้องกระทบพื้นที่ในเขต อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คนปัตตานีไม่ได้ถูกนับรวมให้แสดงความคิดเห็นต่อการจะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
อีกทั้งในทางนโยบายการสร้างสันติสุขของ กอ.รมน. เองก็ระบุว่า การพัฒนาใดๆ จะต้องเป็นที่ยอมรับกันทุกฝ่ายเพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง แต่สิ่งที่โรงไฟฟ้าถ่านหินพยายามเร่งรัดจะก่อสร้างขึ้นให้ได้นั้นช่างย้อนแย้งลักลั่นต่อนโยบายการสร้างสันติสุขชายแดนใต้ของ กอ.รมน. เหลือเกิน
หากมองในโลกในแง่ดี กอ.รมน.อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าที่โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพานั้นกระทบบั่นทอนบรรยากาศการพูดคุยเพื่อสันติสุขโดยตรง และเป็นภัยแทรกซ้อน โหมโรงไฟใต้ยิ่งหนักขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากมองโลกในแง่ร้าย กอ.รมน.อาจจะรู้เห็นเป็นใจกับที่โรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อหวังได้รับผลประโยชน์ร่วมด้วย จนไม่แคร์ว่าจะส่งผลกระทบบั่นทอนต่อกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้แต่อย่างใดเลย
คำตอบที่ชัดเจนก็มีแต่เพียง กอ.รมน.เท่านั้นที่จะตอบข้อสงสัยนี้ได้ เพราะ 3 จังหวัดกับอีก 4 อำเภอใน จ.สงขลา อยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายพิเศษทางความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่ง กอ.รมน.เป็นเจ้าภาพหลักในการบริหารจัดการพื้นที่นี้อย่างเป็นทางการ
