ขยายผลคดีจับกุมเด็กบุรีรัมย์ 2 คนขายปืน-ระเบิดผ่านเฟซบุ๊ก รวบแก๊งค้าอาวุธพร้อมของกลางระเบิดเอ็ม 79 เกือบ 100 ลูก กระสุนปืนนานาชนิด เตรียมส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ “ศรีวราห์” เร่งตรวจสอบแหล่งที่มาเชื่อมโยงเหตุการณ์ทางการเมืองหรือไม่ พร้อมมอบ บก.ป.ดำเนินคดีฟอกเงิน
วานนี้ (7 ม.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.พงศ์วรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. ร่วมแถลงผลการจับกุม นายชัชชัย กาวมณี อายุ 55 ปี ชาว จ.เชียงราย นายธนวรรธนช์ วงศ์สิรเจริญ อายุ 20 ปี ชาว จ.เชียงราย นายรัฐกฤษฎิ์ สิรวิชญ์ชัยกร อายุ 34 ปี ชาว จ.เชียงราย ได้ที่จังหวัดเชียงราย และจับกุมนายสุวินัย หรือดิว งามสุข อายุ 23 ปี ชาว จ.ชลบุรี และนายสุพล ฝั้นกิติ อายุ 19 ปี ชาว จ.ลำปาง ได้ที่จังหวัดลำปาง พร้อมของกลาง ลูกระเบิด M-79 จำนวน 98 ลูก, ยางครอบหัวระเบิด, กระสุนปืนอาก้า 10 นัด, ปืนพกสั้นขนาด .38 ประดิษฐ์เอง 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุนขนาด 9 มม., กระสุนขนาด .380 จำนวน 50 นัด, กระสุนปืน .38 หัวตัด 50 นัด, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 50 นัด ,ลูกแสงพลุสัญญานปืนปากกา 21 นัดและยาบ้าจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.ชยพลกล่าวว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้เป็นผลการดำเนินการต่อเนื่องจากการขยายผลการจับกุมเยาวชน 2 คนที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีพฤติการณ์ค้าอาวุธสงครามและระเบิดผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยหาซื้ออาวุธจากประเทศเพื่อนบ้านนำมาขายให้กับลูกค้า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สั่งซื้อพบว่ามีการสั่งซื้อมาจากที่จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงราย จึงติดตามขยายผลจับกุมจนพบอาวุธของกลางจำนวนมาก
จากการสอบสวนนายสุวินัย ผู้ต้องหาให้การว่า นายพงษ์ดนัย ต๊ะเวที ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนีเป็นผู้สั่งการโดยจ้างให้ทำหน้าที่รับของผ่านทางไปรษณีย์เท่านั้น ก่อนที่นายพงษ์ดนัยจะมารับของอีกต่อหนึ่ง โดยยืนยันว่าไม่รู้ว่าของภายในพัสดุคืออะไร ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท ส่วนยาบ้าที่ตรวจพบนั้นซื้อมาจากเพื่อนในจังหวัดลำปางเพื่อนำมาเสพ
ส่วนนายธนวรรธนช์ ผู้ต้องหาอีกรายให้การสารภาพว่ามีหน้าที่สั่งซื้ออาวุธสงคราม โดยได้รับคำสั่งจากนายรัฐกฤษฎิ์ หัวหน้าและเป็นครูฝึกในสนามยิงปืน ขณะที่นายรัฐกฤษฎิ์กล่าวว่า มีเพื่อนจ้างให้ดำเนินการสั่งซื้อ ก่อนให้นำมาเก็บไว้ในสนามยิงปืน โดยทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง ด้านนายชัชชัย ผู้ดูแลสนามยิงปืนให้การภาคเสธโดยอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แค่ทำงานในสนามยิงปืนและทราบว่ามีการส่งของกันเท่านั้น
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเครือข่ายนี้สั่งอาวุธมาจากที่ใด และนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ใด แต่ยังไม่พบว่ามีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนวิธีการจัดส่งผู้ต้องหาใช้กระดาษฟอยล์ห่ออาวุธสงครามก่อนใช้หนังสือพิมพ์ห่อทับอีกรอบและบรรจุใส่กล่องส่งไปรษณีย์มาจึงทำให้ตรวจสอบไม่พบ ทั้งนี้ทางกองทัพได้กำชับให้บริษัทไปรษณีย์เข้มงวดในการตรวจสอบพัสดุ พร้อมกำชับให้ตำรวจ บก.ป.ดำเนินคดีฟอกเงินด้วย อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่าอาวุธดังกล่าวถูกนำมาใช้ในการก่อเหตุความไม่สงบหรือเหตุการณ์ทางการเมืองหรือไม่