บุรีรัมย์ - รองแม่ทัพภาค 2 จับอาวุธสงครามได้จำนวนมาก พร้อมผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน 2 รายสารภาพสั่งซื้อสินค้าจากชายแดนภาคตะวันออก จากนั้นมาประกาศขายต่อผ่านเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลแหล่งที่มาและผู้ติดต่อซื้อ หวั่นนำไปก่อเหตุรุนแรง
วันนี้ (17 ธ.ค.58) พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน รองแม่ทัพภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 จ.บุรีรัมย์ ,นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ได้ร่วมกันแถลงผลการตรวจจับอาวุธสงคราม ที่หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังกับหลายฝ่าย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 111 ม.8 บ.พึ่งต้น ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวรายหนึ่ง แต่ไม่ได้อยู่อาศัยมานานกว่า 6 เดือนแล้ว พบมีการนำอาวุธสงครามไปซุกซ่อนไว้ในห้องนอนภายในบ้านหลังดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบลูกระเบิด M 79 สภาพใหม่จำนวน 67 ลูก พร้อมยางครอบหัวระเบิด 101 ปลอก กระสุนปืนอาก้า AK 47 บรรจุในกล่องไปรษณีย์จำนวน 10 นัด ตู้เซฟ 1 ใบ และอุปกรณ์ในการเสพยาเสพติดจึงได้ยึดไว้เป็นของกลางพร้อมขยายผลตรวจยึดเพิ่มได้ที่บ้านของเยาวชนชายรายหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ด้วย
หลังจากเปิดตู้เซฟ พบอาวุธสงครามเพิ่ม ประกอบด้วยลูกระเบิด M79 รวมเป็นจำนวน 98 ลูก , ยางครอบหัวกระสุน M79 จำนวน 378 หัว , ปืนพกสั้น ขนาด .38 ประดิษฐ์เอง 1 กระบอก , ซองบรรจุกระสุนขนาด 9 มม. , กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 50 นัด , กระสุนปืนขนาด .38 หัวตัด 50 นัด , กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 50 นัด และลูกแสงพลุสัญญาณปืนปากกาอีก 21 นัด ที่เก็บไว้ในตู้เซฟในบ้านดังกล่าว
ส่วนผู้ต้องหาที่ครอบครองเครื่องกระสุนอาวุธสงคราม ที่ถูกจับกุมเป็นเยาวชนชายอายุ 17 และ 18 ปี เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวมาร่วมแถลงได้ เนื่องจากยังเป็นเยาวชนทั้งนี้พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ระบุว่า จากการสอบถาม 1 ในเยาวชนที่ถูกจับกุมให้ข้อมูลว่า ได้สั่งซื้ออาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนมาจากจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกโดยติดต่อซื้อขายกันผ่านเฟซบุ๊กแล้วมาประกาศขายต่อผ่านเฟซบุ๊กแล้วส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์
โดยลูกระเบิด M79 จะซื้อในราคา 900 บาท ขายต่อในราคา 1,700 บาท ซึ่งหลังเพื่อนที่เป็นเครือข่ายถูกจับ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็เกรงจะถูกจับจึงได้เคลื่อนย้ายเครื่องกระสุนจากบ้านพักในเขตเทศบาลเมืองไปไว้ที่บ้านเลขที่ 111 ซึ่งเป็นบ้านเพื่อนแต่ไม่มีคนอยู่อาศัยมาหลายเดือนแล้ว เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว
พล.ต.ศักดา กล่าวว่า สำหรับชื่อหรือฉายาแฝงที่ปรากฏบนกระดาษหนังสือพิมพ์ ในกล่องไปรษณีย์ที่ห่อกระสุนปืนอาก้า ข้อความว่า “จ่าหมู แห่งทุ่งพระนคร” นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบต้นตออีกครั้งว่าหมายถึงบุคคลใด ซึ่งหากเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะนำตัวมาสอบสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อหาแหล่งที่มาและผู้ที่สั่งซื้ออาวุธสงครามหรือเครื่องกระสุนจากเยาวชนดังกล่าวด้วย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเกรงจะนำไปก่อเหตุรุนแรง ส่วนเยาวชนทั้ง 2 ขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
