เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 21
ประกันนั่งดูทีวีในห้องรับแขกที่บ้าน สะอิ้ง เอากาแฟเข้ามาเสิร์ฟ ก่อนหลบไปยืนอยู่ใกล้ๆ
หาข้อมูลให้เสี่ยอุดร พวงศรีเดินหัวเราะร่าอารมณ์ดีเข้ามา ประกันจิบกาแฟมองไป
“หัวเราะอะไรหรือใกล้บ้า ไปคุ้มคลั่งอะไรมาอีกแล้วล่ะ”
“ปากเหรอนั่นน่ะ”
พวงศรีหันไปมองเอาเรื่องประกัน ก่อนหันไปมองสะอิ้ง
“อ้าว เสร็จธุระแล้วก็ไป จะมายืนเจ๋ออยู่ทำไมกันยะแม่สะอิ้ง”
“สะอิ้ง ยืนรอ เผื่อคุณๆ จะต้องการอะไร จะได้เรียกใช้สะดวกน่ะค่ะ”
“ไม่มีอะไรต้องใช้ ไปทำงานของตัวเองได้แล้ว อย่าอู้”
“ค่ะ”
สะอิ้งจำใจเดินไป ประกายฟ้าเดินเข้ามา พวงศรีกระซิบกระซาบแผนการให้ประกายฟ้ากับประกันฟัง ประกายฟ้าเซ็ง
“หะ ให้รออีกตั้งหลายวันหนูถึงจะได้เจอพี่ภูมิ มันจะเวิร์คเหรอคะแม่”
“เวิร์คสิ เพราะตอนนี้สมองแม่แล่น แผนมันแน่นไปหมด มันถึงเวลาที่เราต้องใช้วิชาถึงเนื้อถึงตัว ใช้ความสวย ความเซี้ยะให้เป็นประโยชน์ ถ้าคุณภูมิไม่สปาร์ครัก ก็ให้มันรู้ไปฎ
“แม่น่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ฟ้าอายนะ”
เสียงแตรรถดัง ประกันเดินไปชะเง้อดู ตกใจ
“เฮ้ย เสี่ยอุดรมา”
“หนูไม่ขอเกี่ยวข้องกับคนๆ นี้นะคะแม่”
ประกายฟ้ารีบเดินออกไปทันที พวงศรียิ้มเจ้าเล่ห์
ศจีกับเจือจันทร์ นั่งอยู่ในบ้าน ระพีถือกล่องไปรษณีย์เดินเข้ามา
“ของใครเหรอคะพี”
“ของผมกับคุณไง”
“ยังไงคะ งง”
“นี่คือเอกสารทางบัญชีที่ผมให้เด็กที่รีสอร์ท แอบซีร็อกแล้วส่งมาให้”
“หือ ร้ายนักนะ ดูสิคะแม่ นี่ขนาดยังไม่แต่งงาน พียังมีความลับกับศจีเลย”
“แล้วเราฟังเหตุผลของเขาหรือยัง ว่ามันคืออะไร”
“คุณแม่พูดถูกเลยครับ”
“แม่ก็อีกคน เข้าข้างเขามากกว่าลูกสาวตัวเองอีก”
“เอ๊า เป็นงั้นไป งั้นทำความเข้าใจกันไป แม่จะไปเตรียมทำกับข้าวดีกว่า”
เจือจันทร์อมยิ้ม เดินออกไป
“ศจีแซวเล่นนะคะพี มาค่ะ มาดูกันเลยดีกว่า”
ระพีแกะแล้วดึงเอกสารออกมา
ประกันกับพวงศรีเดินไปรับหน้าเสี่ยอุดรหน้าบ้าน
“สวัสดีค่ะเสี่ย แหม เมื่อกี้ยังบ่นคิดถึงกันอยู่เลย”
“ใช่ ใช่ เสี่ยนี่อายุยืนจริงๆ พูดปุ๊บก็มาปั๊บเลย”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณ”
“ว่าแต่เสี่ยหายไปไหนมาตั้งหลายวัน ศรีก็นึกว่าโกรธเคืองอะไรกันรึเปล่า”
“เปล่าครับ ช่วงนี้มัวยุ่งเรื่องงานเลยไม่ค่อยมีเวลา แล้วนี่หนูฟ้าล่ะครับ”
พวงศรีหันไปขยิบตาให้ประกัน อ้าปากจะปฏิเสธ แต่ไม่ทัน เสี่ยอุดรยื่นโบชัวร์ให้
“วันนี้ผมกะว่าจะพาเขาไปดูคอนโดแถวทองหล่อ ผมเห็นว่ามันทำเลดีและถูกมาก แค่ยูนิตละยี่สิบล้านเอง ถ้าหนูฟ้าชอบ จะได้ซื้อให้ แต่ถ้าเขาไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร งั้นผมลากลับเลย”
พวงศรีกับประกันหน้าตื่น รีบตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“อยู่ครับ”
“อยู่ค่ะ”
เสี่ยอุดรแอบยิ้มสะใจ ประกันกับพวงศรี ลนลานวิ่งไปคว้าตัวเสี่ยอุดร ดึงให้นั่ง
“เชิญนั่งก่อนนะครับเสี่ย”
“ค่ะ นั่งรอแป๊บ เดี๋ยวศรีจะไปตามมาให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”
เสี่ยอุดร ยิ้มสะใจก่อนนั่งลง
ประกายฟ้ากดดูไลน์ของตัวเองที่ถูกบล็อคไว้
“พี่ภูมิเป็นอะไร ทำไมไม่เหมือนเดิม สงสัยโดนเมียคุมแน่ๆ”
พวงศรี เดินยิ้มร่าถือโบชัวร์เข้ามา
“เขากลับไปแล้วเหรอคะแม่”
“ยัง เขามารอพบแก และแกจะต้องไปกับเขา”
“อ๊าย ไม่เอา หนูไม่ไป”
“ดูสะก่อน คอนโดหรูยี่สิบล้าน เขาให้ไปเลือกเอาเลย โปรโมชั่นของเสี่ยอุดรครั้งนี้ แรงมาก ขอบอก ถ้าไม่ไปก็ถือว่าโง่มาก”
ประกายฟ้าหน้าตื่น
“มันหรูมากเลยค่ะแม่ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ห้างอักษรเอ็มด้วยนะคะเนี่ย”
“ก็นั่นน่ะสิ แม่ถึงไม่อยากให้ลูกพลาดโอกาสดีนาทีทองครั้งสุดท้าย ก่อนที่เราจะโผไปหาคุณภูมิ อย่างเป็นทางการ เราต้องสวาปามให้เรียบ”
ประกายฟ้าครุ่นคิด
ระพีกับศจี เรียงเอกสารวางเป็นหมวดหมู่ เจือจันทร์ถือถาดผลไม้ กับน้ำเข้ามาเสิร์ฟให้
“พักกินผลไม้กันก่อนเถอะลูก เห็นนั่งหน้าเครียดมานานแล้วนะ”
“ก็จะไม่ให้เครียดได้ยังไงล่ะคะแม่ เอกสารพวกนี้มันเมคมาทั้งนั้น โดยเฉพาะบิลเบิกค่าน้ำมัน บิลซื้อของใช้ในรีสอร์ท ที่ซื้อซ้ำๆ”
“ใช้คนมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ถ้าเจอคนดีไว้ใจได้ ก็โชคดีไป”
“ดูแค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าไม่ดีไว้ใจไม่ได้ ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ แล้วพีจะเอายังไงคะ”
“ผมต้องการจับให้ได้แบบคาหนังคาเขา ไม่งั้นพ่อจะไม่มีวันเชื่อเรา เพราะพ่อหลงน้ากองแก้วมาก ตอนนี้ผมให้คนตามหาคนที่ถูกน้ากองแก้วไล่ออกไป ผมว่าเขาต้องรู้อะไรดีๆ แน่”
“ถ้างั้นเราก็ต้องหาหลักฐานให้ชัดเจนก่อน อย่าทำอะไรผลีผลามนะลูก”
“ครับ งั้นศจีเตรียมวางระบบบัญชีไว้ก่อนเลย เสร็จงานหมั้น เราจะรีบลงไปจัดการเรื่องนี้ ส่วนทางโน้นผมจะให้คนของผม คอยเป็นหูเป็นตาให้ไปก่อน”
“ได้ค่ะพี แม่คะวันนี้อย่าลืมโทรนัดคุณย่าด้วยนะคะ”
“แม่โทรให้แล้วจ้ะ พรุ่งนี้ท่านให้ไปพบได้เลย”
“หะพรุ่งนี้ ทำไมคุณย่าใจร้อนจัง”
“ใจร้อนอะไร เราทำงานเยอะจนลืมไปแล้วรึไงว่าอีกไม่กี่วัน ก็จะถึงวันหมั้นแล้ว”
“จริงด้วย มัวแต่ทำงานเพลิน จนลืมวันลืมคืนไปเลย ดีนะที่เคยไลน์ไปบอกคุณย่าไว้แล้ว ไม่งั้นมีเคืองแน่”
“งั้นพรุ่งนี้ เรารีบไปหาคุณย่าท่านเถอะนะครับ”
ทุกคนหันไปสบตา ยิ้มให้กัน
รามนรีเดินเข้ามาหลบมุม มองซ้ายมองขวา หยิบโทรศัพท์มากดโทรออกหาป้าผ่อง ป้าผ่องทำอาหารเย็นอยู่ เสียงโทรศัพท์ดัง จึงปิดเตาแก๊ส กดรับ
“สวัสดีจ้ะ”
“ป้าผ่อง นี่หนูเล็กเองนะจ๊ะ”
“คุณหนูเล็ก นี่คุณหนูเล็กจริงๆ เหรอคะ”
กองแก้วเดินเข้ามายกกับข้าว ได้ยินหลบแอบฟัง
“เบาๆ สิคะ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า หนูเล็กก็เดือดร้อนกันพอดี”
“ค่ะ ค่ะ ตอนนี้ปลอดภัยไม่มีใครอยู่ค่ะ”
“หนูเล็กรู้จากพี่พี แต่ก็ไม่มีเวลาโทรหาป้าสักที ดีใจมากๆ ที่ป้ากลับมา แล้วพ่อเป็นยังไงบ้างคะ”
“ก็สบายดีเหมือนเดิมค่ะ ว่าแต่คุณหนูเถอะ เป็นยังไงสบายดีไหมคะ”
“สบายดี และมีงานทำค่ะ ป้าไม่ต้องห่วงนะคะ แล้วอย่าบอกใครว่าหนูเล็กโทรมา กลัวนายผสานมันจะตามมาเจอ”
“ไม่ต้องห่วง ป้าจะไม่บอกใครแน่ อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ นะ ป้าเป็นห่วงนะคะ”
“ค่ะป้า งั้นแค่นี้นะคะ”
รามนรีวางสาย ป้าผ่องยิ้มโล่งใจ ก่อนเก็บโทรศัพท์ใส่ถุง เอาเหน็บเอวไว้ ไปเปิดแก๊สทำกับข้าวต่อ กองแก้วเพ่งมองถุงโทรศัพท์ ตาวาว
เสี่ยอุดรพาประกายฟ้าไปเดินห้างซื้อของจนหนำใจ ก่อนพามาที่คอนโด เอาอกเอาใจประกายฟ้าเต็มที่
ช่วงยืนรอลิฟท์ที่ชั้นล่าง ประกายฟ้าเอะใจ สงสัย
“เสี่ยคะ สำนักงานขาย เขาไม่ได้อยู่ชั้นล่างหรอกเหรอคะเสี่ย”
“อ๋อ ที่นี่เขาโซลเอ้าท์ไปนานแล้ว เหลือแค่ห้องที่เขาล็อคไว้สำหรับวีไอพี และมีโลเคชั่นดีที่สุดแค่ไม่กี่ห้อง เพื่อนเสี่ยเขาให้ขึ้นไปดูได้เลยจ้ะ”
“อ๋อค่ะ ว่าแต่เสี่ยนึกยังไง ถึงอยากจะซื้อคอนโดให้ฟ้าคะ”
“ไม่มีเหตุผลอื่นเลยครับ นอกจากรักมาก”
“ก็ดีค่ะ ฟ้ากำลังนึกอยากจะได้คอนโดอยู่พอดี”
“อยากได้ก็เลือกเอาเลย เพราะผมจะตามใจหนูฟ้า จนกว่าจะพอ”
ประตูลิฟท์เปิดออก เสี่ยอุดรประคองประกายฟ้าพาเข้าไปในลิฟท์
จนไปถึงห้องหรู เสี่ยอุดรเปิดประตูห้องด้วยท่าทีสุภาพอ่อนโยน ก่อนเปลี่ยนเป็นร้าย ผลักประกายฟ้าเข้าไป ปิดประตูล็อคไว้ทันที ประกายฟ้าตกใจ หันมองหน้าเสี่ยอุดร ที่ไม่เหลือเค้าความสุภาพอีกต่อไป
“นี่มันอะไรกันคะเสี่ย”
“ฉันต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายถามเธอ”
“นี่เสี่ยพูดอะไร ฟ้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ทำกันขนาดนี้ ยังจะกล้าบอกว่าไม่รู้เรื่องอีกเหรอ คิดว่าผมโง่นักหรือไง ที่จะไม่รู้ว่ากำลังถูกพวกคุณหลอก”
ประกายฟ้าหน้าถอดสี แต่ทำใจดีสู้เสือ
“หลอกอะไร ฟ้าไม่รู้เรื่องจริงๆ”
“เหรอ แล้วเรื่องเจ้าคุณปู่คุณย่าบ้าบออะไรนั่น ก็จะบอกว่าไม่รู้งั้นสิ ทำตัวเป็นสิบแปดมงกุฎทั้งตระกูล”
ประกายฟ้ายิ้มแหย ใจคอไม่ดี พยายามหาทางเอาตัวรอด เอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“พ่อกับแม่ต่างหากที่เป็นคนสั่งให้ฟ้าทำ ฟ้าต้องจำยอม”
“ขนาดพ่อแม่เธอยังไม่ไว้หน้า เธอยังกล้าที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอด เธอนี่มันไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ”
เสี่ยอุดรย่างสามขุมเข้าไปหาประกายฟ้า
“นั่นเสี่ยจะทำอะไร ก็บอกแล้วไงว่าฟ้าไม่ได้ทำ ถอยไป ฟ้าจะกลับ”
ประกายฟ้าผลักเสี่ยอุดร วิ่งหนีไปที่หน้าประตู จะดึงลูกบิด แต่ไม่ทัน เสี่ยอุดรดึงตัวประกายฟ้ามาล็อคไว้
“เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เพราะมันถึงเวลาที่เธอต้องหยุดเรื่องโกหกหลอกลวง และต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำกับฉัน”
เสี่ยอุดรเหวี่ยงประกายฟ้าลงไปบนเตียง ประกายฟ้ายกมือไหว้วิงวอน
“อย่านะคะเสี่ย อย่าทำอะไรฟ้าเลย ฟ้าขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
เสี่ยอุดรยิ้มสะใจ ก่อนโถมตัวเข้าใส่ ประกายฟ้าพยายามต่อสู้ขัดขืนสุดชีวิต แต่ไม่อาจต้านทานแรงของเสี่ยอุดรได้
กองแก้วแอบซุ่มดูป้าผ่องที่หน้าประตู เห็นป้าผ่องใส่ผ้าถุงกระโจมอก เดินออกมาจากห้อง กองแก้ว แอบย่องตามไป ป้าผ่องเอากระเป๋าโทรศัพท์วางไว้ หยิบแชมพูเดินเข้าไปในห้องน้ำ กองแก้วมองโทรศัพท์ตาวาว ยิ้มดีใจ รีบพุ่งออกไป ป้าผ่องเปิดประตูออกมาเอาสบู่ที่ลืมไว้ กองแก้วตกใจ หลบได้ทัน ป้าผ่องเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ กองแก้วรีบเปิดถุงผ้าเอาโทรศัพท์มากดดูเบอร์ แล้วรีบเก็บไว้ที่เดิม วิ่งหน้าตั้งออกไป เจอวิรัชพอดี
“จะรีบไปไหนกันคุณ”
“อ๋อ เอ่อ แก้วกำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่นะค่ะ”
“วิ่งบนบ้านเนี่ยนะ”
“แหม ออกกำลังกายสมัยนี้มันไม่มีข้อจำกัดแล้วล่ะค่ะ ออกตรงไหนยังไงก็ได้ มาค่ะ มาวอร์มอัพด้วยกันนะคะ”
กองแก้วรีบกลบเกลื่อนจับวิรัชทำท่าออกกำลังกาย
ประกายฟ้านอนร้องไห้อยู่บนเตียง ข้างเสี่ยอุดร ที่ทำเป็นนอนหลับหมดแรง เธอควานหาผ้ามากระโจมอกปกปิดร่างกาย ก่อนรีบลุกออกไปห้องน้ำ เสี่ยอุดรแอบลืมตามองยิ้มสะใจ ประกายฟ้าย่องออกมาจากห้องน้ำ เห็นเสี่ยอุดรยังนอนหลับรีบหยิบกระเป๋าย่องออกไป
“นั่นคุณจะไปไหน”
ประกายฟ้าสะดุ้งเฮือก ก่อนตั้งสติ หันมาเผชิญหน้า
“แล้วทำไมต้องย่องเบา เอาแบบธรรมดาก็ได้”
“ฉันจะกลับ”
“เอาอย่างนี้ดีไหม ถ้าหนูสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี เสี่ยจะให้โอกาส จะรับผิดชอบหนูให้ได้อยู่อย่างสุขสบาย”
“ไม่ต้องมาให้โอกาสฉัน เพราะคนอย่างฉัน ไม่ต้องการโอกาสจากคนที่มันย่ำยีฉัน คนที่ทำให้ฉันเจ็บ”
“แล้วทำไมไม่คิดบ้าง ว่าปัญหาทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะใคร ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภไม่รู้จักพอของตัวเอง”
“พล่ามพอรึยัง และฉันจะบอกคุณว่าฉันไม่แคร์ แล้วเรื่องเมื่อกี้ ฉันก็จะนึกว่าให้หมามันกิน”
“ก็ได้ ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น และขอเตือน ว่าอย่าเย่อหยิ่งนักเลย เพราะผู้หญิงที่สวยแค่หน้าตา แต่จิตใจไม่สวย มันก็คงจะไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่ผมเคยซื้อได้ด้วยเงิน พอได้แล้วก็งั้นๆ มันไม่เร้าใจ ไม่มีอะไรใหม่แล้วจ้ะ”
ประกายฟ้ากำมือแน่น
“ถ้าอยากจะกลับไปก็เชิญ แต่ผมไม่ไปส่งนะ”
ประกายฟ้าโมโห กรี๊ดใส่ ก่อนเดินกระแทกเท้า กระแทกประตูดังโครม เดินออกไป เสี่ยอุดรหัวเราะสะใจ
ผสานยกน้ำหนัก ออกกำลังกายอยู่ในบ้าน
จอสถือถาดอาหารบำรุงสุขภาพ เดินเข้ามาวางให้ เสียงโทรศัพท์ดัง ผสานรับสาย
“ว่าไงครับน้าแก้ว”
“เมื่อกี้ นังตัวดีมันโทรมาหายัยป้าแม่บ้าน ฉันเลยได้เบอร์มันมา เดี๋ยวจะไลน์ไปให้คุณผสานนะคะ”
ผสานดีใจมาก
“ดีครับดี รีบส่งมาเดี๋ยวนี้เลย ผมจะรอ”
“ค่ะๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”
กองแก้ววางสาย ก่อนกดส่งไลน์ให้ผสาน ผสานเปิดไลน์ ก่อนโทรหาสารวัตรบิ๊ก
“เฮ้ยไอ้บิ๊ก ฉันมีเบาะแสคนหาย มีเวลาออกมาเจอกันบ้างไหมวะ”
“ได้เพื่อนได้”
“งั้นเย็นนี้ ไปเจอกันที่เดิมนะ”
ผสานกดวางสาย หันไปมองจอส
“มึงเชื่อกูไหมไอ้จอส ว่างานนี้มันแน่”
“ครับนายหัว ดูท่าคงจะน่าสนุกแน่นิ”
ผสานยิ้มสะใจ
ประกันกับพวงศรีนอนกระดิกเท้าดูโบชัวร์ คุยกันอย่างมีความสุข
“ดูดี๊ดูดีนะ ไอ้คอนโดยี่สิบล้านเนี่ย”
“ทำเลตรงนั้น ยิ่งนานวันยิ่งแพง เสี่ยเขาหัวการค้า เขาตาถึงจริงๆ”
สะอิ้งเดินถือจานผลไม้มาวางไว้ให้
“ป่านนี้เสี่ยคงจะพาน้องฟ้า ไปซื้อคอนโดกันจนเสร็จแล้วมั้ง”
“ไปนานขนาดนี้ ก็คงเสร็จแล้วล่ะ”
สะอิ้งคิดในทางลามก เอามือปิดปากกลั้นขำ
“แกขำอะไรของแกแม่สะอิ้ง”
“เปล่าค่ะ ก็แค่สงสัย ว่าทำไมไปนานจัง เย็นแล้วสะอิ้งขอตัวกลับบ้านเลยนะคะ”
“ย่ะ”
ประกันกับพวงศรีนอนกินผลไม้ สะอิ้งเบ้ปากใส่ ประกายฟ้าเปิดประตู วิ่งร้องไห้โฮสวนเข้ามา ชนสะอิ้งจนล้มลงไป ประกันกับพวงศรีลุกพรวดขึ้นมามอง ประกายฟ้าร้องไห้วิ่งถลาเข้ามากอดแม่
“แม่ ไอ้เสี่ยนั่นมันข่มขืนหนู”
ประกันมองลูก กัดกรามกรอด ก่อนเดินออกไป พวงศรีกอดลูกไว้ พูดอะไรไม่ออก ประกันตากร้าวกดโทรศัพท์หาเสี่ยอุดร เสี่ยอุดรเพิ่งแต่งตัวเสร็จ กำลังจะออกไป เสียงโทรศัพท์ดังจึงกดรับ
“คุณทำอะไรกับลูกสาวผม”
“คุณก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว จะมาถามผมทำไม”
“ผมไปจะแจ้งความ ว่าคุณข่มขืนลูกสาวผม”
“นี่คงอยากจะได้ตังค์ อยากจะแบล็คเมล์ผมอีกแล้วล่ะสิ แหม คุณพ่อนี่ ทำบ่อยจนติดเป็นนิสัย โอ้ว ไม่สิ คงจะเป็นสันดานมากกว่า”
“นี่ ผมโทรมา เรื่องคุณข่มขืนลูกสาวผม ไม่ได้ให้มาด่าผม”
“ทำไมจะด่าไม่ได้ ในเมื่อที่ผ่านมา ผมถูกพวกคุณรวมหัวกันหลอกทำให้ผมเสียหาย น่าจะเยอะกว่าค่าพรหมจรรย์ของลูกสาวคุณอีก”
“พูดอย่างนี้มาชกกันดีกว่า ไอ้เสี่ยบ้าเอ๊ย”
“โทษที ผมชอบใช้สมองไม่ชอบใช้ความรุนแรง แล้วตอนนี้สมองก็สั่งให้ผมบอกคุณว่า ให้เตรียมเงินไว้ใช้หนี้ และเตรียมคืนรถมาให้ผมด้วย”
“ได้ไง รถเป็นชื่อยัยฟ้า แล้วคุณก็ทำให้ยัยฟ้าเสียหาย ผมไม่คืน”
“ถ้าคิดว่าเจ๋งว่าแน่ก็ลองดู ว่าจะสู้ความโหดของลูกน้องผมได้ไหม”
เสี่ยอุดรหัวเราะร่า ก่อนตัดสายทิ้ง ยิ้มสะใจ ประกันโมโห ก่อนเปลี่ยนเป็นหน้าจ๋อย
“จะเสือกโทรไปทำไมให้งานเข้าวะกู แล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้หนี้วะเนี่ย”
ประกันถอนใจ
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 21 (ต่อ)
ผสานกับจอส นั่งสั่งอาหารและเครื่องดื่มเต็มโต๊ะ สารวัตรบิ๊กเดินเข้ามา
“เชิญเพื่อนเชิญ”
“สวัสดีท่านครับสารวัตร”
“เป็นไง สบายดีไหมจอส”
“สบายดีครับ”
“ไง จะเป็นจะตายเพราะยัยหนูเล็กจริงๆ เลย มีอะไรก็ว่ามา”
ผสานเปิดไลน์ให้สารวัตรบิ๊กดู
“นี่เบอร์เขาที่เพิ่งติดต่อมาเมื่อตอนกลางวัน”
“เออดี ถ้าเขาเปิดเครื่องให้เราจับสัญญาณได้ เราจะได้รู้พิกัดเขาจากจีพีเอสอีกทาง ว่าแต่แก เอาแน่เหรอผู้หญิงคนนี้”
“เออสิวะ”
“งั้น ขอเตือนให้แกเลิกใจร้อน อย่าใช้ความรุนแรง อย่าทำอะไรผิด ไม่งั้น ฉันจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
“เออน่า ตอนนี้ฉันเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ อะไรที่ไม่ดีฉันเลิกหมดแล้ว”
จอสมองหน้าผสาน
“ดี งั้นฉันจะทำทุกอย่างให้ตรงไปตรงมา จะตามหาเขาให้เร็วที่สุด”
ผสานจับมือกับสารวัตรบิ๊ก ยิ้มสะใจ
ภูมิกับรามนรีช่วยกันจัดอาหารวางไว้ที่โต๊ะ
“ไม่คิดว่าการได้ทำอะไรด้วยตัวเอง มันทำให้เรารู้สึกดีจริงๆ”
“ใช่ แล้วมันยังทำให้เรารู้ว่า เรามีคุณค่าขึ้นด้วยนะ”
“ต้องขอบคุณอีกครั้งที่คุณยอมเหนื่อยช่วยสอนผม”
ภูมิกับรามนรีเห็นสราญกับภัทรเดินเข้ามา หันไปส่งซิกยิ้มให้กัน ก่อนทำงานต่อ สราญยิ้มร่ากวาดตามองอาหาร
“อุ้ยตาย น่ากินจัง”
สราญหุบยิ้มเมื่อหันไปเห็นหน้ารามนรี เภาพาย่าเดินเข้ามา
“อ้าว คุณแม่ก็มาด้วย ตกลงนี่มันงานอะไรกันแน่เนี่ย”
“งานอะไร ตาภูมิก็แค่อยากจะโชว์ฝีมือทำอาหารให้เรากิน”
สราญตาโตหน้าเหวอ ไม่อยากจะเชื่อ
“หะ ตาภูมิเนี่ยนะ ทำอาหาร หนูคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่เชื่อ”
“แต่ผมเชื่อ คนเราถ้าตั้งใจ มันเปลี่ยนแปลงกันได้นะคุณสราญ”
“ใช่ ในเมื่อเขาตั้งใจ ทำไมไม่ให้เครดิตลูกบ้าง เขาทำดี เราต้องว่าดีสิ แล้วที่เขาทำได้อย่างนี้ ก็เพราะเขามีเมียดีอย่างแม่เดือน”
สราญสะบัดใส่รามนรี แต่ไม่กล้าว่าต่อหน้าย่า
“เชิญทานข้าวกันดีกว่านะครับ”
ภูมิตักอาหารให้พ่อกับแม่ และย่าอย่างตั้งใจ ก่อนหันไปส่งยิ้มให้รามนรี สราญมองหมั่นไส้
เช้าวันรุ่งขึ้น ภูมิเปิดประตู ถือถาดแก้วนมเดินเข้ามาในห้อง เห็นรามนรีนอนหลับอยู่
“นี่คุณ ตื่นได้แล้วตื่น”
“ขอนอนอีกหน่อยได้ไหม ฉันง่วง”
“ไม่ได้ ก็คุณเป็นคนสอนผมว่า ให้ตื่นแต่เช้า สมองจะได้ไบรท์ สดใสสุดๆ”
รามนรีงัวเงียลืมตาตื่น
“วันนี้มีคุณประชุม ฉันเตรียมชุดไว้ให้แล้วนะคะ วันนี้ฉันไม่ไปส่งคุณที่รถนะ เพราะฉันต้องรีบไปทำกับข้าวให้คุณย่า คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ”
“ครับผม แล้วคุณก็อย่าลืมดื่มนมที่ผมเอามาให้นะ”
ภูมิวิ่งเข้าไปฉวยโอกาสหอมแก้มรามนรี ทำหน้าทะเล้นใส่ ก่อนคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งหนีหายไปในห้องน้ำ รามนรีอมยิ้ม
“ไม่น่าเชื่อ ว่าคุณจะทำได้ คุณดีขึ้นมากจริงๆ”
ประกันกับพวงศรี นั่งปรึกษากันหน้าเครียด
“เฮ้อ ไม่รู้ยัยฟ้าจะซีเรียสอะไรกันนักกันหนา แทนที่จะมาหาทางแก้ปัญหากัน”
“ก็นั่นน่ะสิ เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ แล้วจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อเขายังไม่พร้อม”
ประกายฟ้าเดินเข้ามา
“หนูพร้อมที่จะทำทุกทาง เพื่อให้ได้แต่งงานกับพี่ภูมิ หนูจะไม่แคร์อะไรทั้งนั้น”
“โอ้ว ต้องให้ได้อย่างนี้ อภิชาตบุตรีของพ่อ”
“และหนูก็จะหางานที่มั่นคงทำ”
“ดีมากเลยลูก และถ้าลูกพร้อม แม่ก็พร้อม”
พวงศรีกดโทรศัพท์หาสราญ
“สวัสดีค่ะคุณพี่ ต้องขอโทษที ที่ศรีกับลูกต้องตัดใจหายไปอังกฤษโดยไม่ได้ร่ำลา แล้วเรื่องที่เกิดกับเราสองแม่ลูก ศรีก็ไม่อยากจะพูด”
“นึกแล้วเชียว ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับคุณน้องแน่ๆ เล่าให้คุณพี่ฟังเดี่ยวนี้ค่ะ”
“น้องฟ้าเขาเสียใจ ที่ถูกลูกสะใภ้คุณพี่ร้องห่มร้องไห้ขอร้องให้เลิกยุ่งกับสามีเขา”
“อุ้ยตาย มันกล้าทำขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ค่ะ น้องฟ้าไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งสามีใคร แล้วไหนคุณย่าดูท่าจะไม่ปลื้มอีก เขาเลยยอมเจ็บและเก็บมันไว้คนเดียว ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เขาไม่ยอมพูดจากับใคร เอาแต่ร้องไห้คิดถึงพี่ภูมิ ศรีสงสารลูกมากเลยค่ะคุณพี่”
สราญสงสารจนน้ำตารื้น พวงศรีหันไปยิ้มร่าให้สองพ่อลูก ก่อนหันมาทำหน้าเศร้าต่อ
“ที่บินกลับมาเพราะน้องฟ้าอยากจะมาหางานที่มั่นคงทำ จะได้ลืมเรื่องราวที่อยู่ในใจ ลืมคุณภูมิให้ได้ ว่าแต่คุณพี่มีงานที่ไหนดีๆ แนะนำบ้างไหมคะ”
“เดี๋ยวคุณพี่จะให้หนูฟ้า ไปทำงานที่รัตนคามกับตาภูมิ”
พวงศรีหันไปยิ้มร่า พยักเพยิดให้สองพ่อลูก
“มันจะดีเหรอคะคุณพี่ ถ้าเมียเขารู้เข้า เราจะทำยังไงคะ”
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้พาหนูฟ้ามาตามนัดก็แล้วกัน เพราะในรัตนคาม ใครจะมาใหญ่เท่าสราญไม่มีอีกแล้ว”
“อ๊าย ดีค่ะดี คุณพี่เกิดมาใหญ่จริงๆ”
พวงศรีวางสาย ยิ้มร่า สบตาประกายฟ้ากับประกัน ยิ้มเจ้าเล่ห์
รถแท็กซี่ของสนามบินแล่นเข้ามาจอดด้านหน้าบ้านเดือนฉาย เดือนฉายยิ้มสดใส ลากกระเป๋าใบใหญ่เดินยิ้มร่าเข้าไปในบ้าน ดึงผ้าขาวที่คลุมข้าวของไว้ออกไป เดือนฉายหยิบตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ภูมิซื้อให้มากอดไว้แนบอก นึกถึงอดีต วันเกิดของเธอเมื่อหลายปีก่อน ตอนเริ่มคบกันใหม่ๆ ภูมิยืนมองหน้าเดือนฉาย ก่อนเอาตุ๊กตาหมีอ้วนกลม กางแขนแล้วเข้าไปกอดและหอมแก้มเดือนฉาย เดือนฉายลืมตา ยิ้มดีใจ กอดตุ๊กตาไว้
“มันน่ารักมากเลยค่ะภูมิ”
“แน่นอน เจ้าหมีอ้วน มันต้องน่ารักเหมือนเจ้าของอยู่แล้วครับ”
เดือนฉายยิ้มสดใส ย่นจมูกใส่ภูมิ
“หมีอ้วนจะเป็นตัวแทนของผม ที่จะอยู่ใกล้ๆ คุณตลอดเวลา และสัญญาว่าจะไม่ไปไหน”
“ขอบคุณค่ะ”
เดือนฉายยิ้มหวานกับอดีต
“ดีใจไหมหมีอ้วน ที่ฉันกลับมาหาแกแล้ว”
รามนรีนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เก้าอี้สนาม รอภูมิกลับจากทำงานเหมือนทุกวัน ภูมิขับรถเข้ามา บีบแตร เปิดกระจกโบกมือทักทายยิ้มให้รามนรี หญิงสาวยิ้มสดใส มองภูมิขับรถผ่านไปอย่างมีความสุข เสียงโทรศัพท์ดัง
“เบอร์ใครกัน
รามนรีครุ่นคิด
“หรือว่าเบอร์ใหม่ คุณไท”
รามนรียิ้มสดใส ก่อนกดรับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ”
“หนูเล็ก นี่พี่เดือนเอง ตอนนี้พี่กลับมาเมืองไทยแล้วนะจ๊ะ”
รามนรีตกใจ ก่อนหันไปมองภูมิ รู้สึกใจหาย ทำอะไรไม่ถูก
“ฮัลโหลๆ หนูเล็ก”
“ค่ะพี่เดือน ขอโทษที เมื่อกี้สัญญาณมันไม่ค่อยดี ก็เลยต้องเดินมาอีกที่น่ะค่ะ”
“อ๋อจ้ะ พี่เห็นเงียบไป นึกว่าสายหลุดไปแล้วซะอี”
“พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“เพิ่งมาถึงวันนี้ ก็รีบโทรหาหนูเล็กคนแรกเลย”
“ขอบคุณ ที่ยังคิดถึงกันนะคะ”
“ไม่คิดถึงได้ไง อย่าลืมสิว่าเราคือพี่น้องกัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความผูกพันของเรา ก็จะไม่มีวันเปลี่ยน”
รามนรียิ่งรู้สึกผิดและละอายใจ
“ค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ขอให้พี่เดือนเชื่อว่าหนูเล็กยังรักและหวังดีกับพี่เดือนเสมอ”
เดือนฉายยิ้มหวาน
“ปากหวานจริงๆ เลยเรา นี่พรุ่งนี้พอจะมีเวลามาเจอกันบ้างไหม พี่มีของมาฝาก และอยากจะให้หนูเล็กไปทำธุระสำคัญเป็นเพื่อนพี่หน่อย”
“ได้สิคะ สำหรับพี่สาวคนนี้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่พี่มีธุระอะไรเหรอคะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเจอกันก็รู้เอง แล้วเจอกันนะ แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ”
รามนรียืนถอนใจหน้าเศร้า มองเหม่อ ครุ่นคิด ภูมิถือถุงอาหารพะรุงพะรัง เดินเข้ามาหารามนรีแต่ไม่เห็น
“อ้าว เมื่อกี้ยังยืนอยู่นี่ แล้วตอนนี้หายไปไหนเนี่ย”
ภูมิกวาดตามองมองหารามนรี รามนรีถือโทรศัพท์ ยืนงง ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับชีวิต ภูมิเดินยิ้มร่าเข้ามา
“นี่คุณ มายืนหลบอะไรอยู่ตรงนี้”
รามนรีตกใจสะดุ้งเฮือก
“นี่คุณเป็นอะไร ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”
“เปล่าค่ะ เปล่า ฉันก็แค่คิดอะไรเพลินๆ”
“โอเค งั้นเราเข้าบ้านกันเถอะ วันนี้ผมซื้ออาหารเจ้าอร่อยที่สุดในโลกมาฝากคุณ”
“ไหนบอกจะทำเอง”
“ผมประชุมเลิกช้ากว่ากำหนดตั้งครึ่งชั่วโมง กลัวคุณจะหิว ก็เลยให้แมสเซนเจอร์ไปซื้อของอร่อยมาให้ เป็นไง ผมเป็นสามีที่ดีพอไหม”
รามนรีเมินหน้าหนี ท่ามกลางความสับสนที่เกิดขึ้นในใจ ภูมิยิ้มโอบไหล่ รามนรีพยายามทำทุกอย่างให้ปกติ จำใจเดินตามภูมิไปงงๆ
กลางคืน เดือนฉายเก็บเสื้อผ้าและข้าวของออกจากกระเป๋าใบใหญ่ คัดแยกของไปจัดเก็บไว้ในตู้ จนเสร็จ หันไปหยิบกรอบรูป ของชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ในกระเป๋า ขึ้นมามองยิ้มปลื้ม
“รออีกไม่นาน เราก็จะได้เจอกัน และจะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะคะภูมิ”
เดือนฉายจูบภาพถ่ายคู่กับภูมิ ก่อนเอาไปวางไว้ที่หัวเตียง
รามนรียืนกอดอกยืนมองพระจันทร์ หน้าเศร้า ภูมิเดินเข้ามายืนเคียงข้าง
“กำลังมองหาอะไร หรือว่าหากระต่ายในจันทร์ครับคุณผู้หญิง”
“ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะคะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้านะ”
“ก็ไม่มีคุณ ผมนอนไม่หลับนี่ อยากรู้จังว่าผมต้องทำยังไงน้า คุณถึงจะมองมาที่ผม เหมือนมองพระจันทร์”
รามนรีถอนใจ พูดไม่ออก ก่อนสูดลมหายใจ ตัดใจพูด
“คุณภูมิ คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าเรื่องหลอกๆ ของเรา มันทำให้เกิดเรื่องราวตั้งมากมาย ฉันว่า.มันถึงเวลาที่เราควรจะหยุดมัน ฉันต้องไปแล้”
ภูมิหุบยิ้ม ใจหาย
“ผมจะไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้น ก็ไหนคุณบอกจะช่วยผมแก้ปัญหา แล้วจะมาทิ้งกันไปได้ไง”
“ก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะแก้ปัญหาให้คุณได้ทุกเรื่อง และบางเรื่อง ฉันอาจจะเป็นคนสร้างปัญหาเพิ่มมาให้คุณก็ได้”
“ไม่เป็นไร ผมพร้อมที่จะยอมมัน”
“คุณลืมไปแล้วรึไง ว่าคุณยังมีคุณเดือนฉาย แล้วตอนนี้คุณก็พร้อม ที่จะไปสร้างครอบครัวที่ดีกับเขา เราต้องหยุดปัญหาที่มีทั้งหมด”
“แต่เขายังไม่กลับมา และผมก็ยังไม่อยากให้เขากลับมา”
“ทำไมคุณพูดอย่างนั้น หรือว่าคุณมีใคร หรือแอบมีใจให้คุณประกายฟ้าไปแล้ว”
“ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น ถ้าเดือนฉายกลับมา ผมจะพาคุณไปหาเขา ไปบอกเขาว่าเรารักกัน”
“ไม่ได้ คุณจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าคุณกล้าทำ คุณจะไม่มีวันได้เห็นหน้าฉันอีก”
ภูมิอ้าปากจะพูดต่อ รามนรียกมือห้าม
“นับจากวันนี้ ห้ามคุยเรื่องนี้กับฉันอีก”
รามนรีกลั้นน้ำตาไว้ ก่อนรีบเดินผละออกไป ภูมิมองหญิงสาว ไม่เข้าใจ
ตอนเช้า ไผทนั่งทำงานอยู่ ภูมิเดินหน้าเครียดเข้ามาหา
“เฮ้ย ขอกาแฟดำเพียวๆ มาจิบแก้เซ็งสักแก้วสิ”
“ไม่เติมน้ำตาลหน่อยล่ะ คนอย่างแกอ่อนหวานมันไม่ดี เดี๋ยวหลีหญิงไม่ออกนะ”
“ไม่เอา นาทีนี้ไม่ต้องการหลีใคร ไม่ต้องการความหวาน ขอขมๆ บ้างก็น่าจะดี”
“นี่ตกลง แกจะเฮลท์ตี้ หรือแกประชดใครอยู่วะ”
ภูมิหันไปมองตาขวาง ไผทกดโทรศัพท์ออก
“เหมียว ขอกาแฟดำเพียวๆ ให้คุณภูมิ ที่นึงนะ”
“ฉันไม่เข้าใจญาติผู้ใหญ่ของแกจริงๆ รักฉันก็บอกว่ารัก สารภาพทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่เอาอะไรสักอย่าง นอกจากผลักฉันไปให้เดือนฉายคนเดียว”
“นี่ขนาดแกเปิดทางให้ เขายังไม่ยอมเอาสิ่งที่เขาเสียไปมาต่อรอง เพื่อจะได้เป็นเจ้าของแก อย่างน้อยเขาก็มีสำนึก ที่จะไม่แย่งของใคร ไม่เหมือนคนสมัยนี้”
“ก็เพราะฉันรู้ว่าเขาไม่เหมือนใคร ฉันถึงกล้าพูดได้เต็มปากว่า ฉันรักเขา”
เหมียวถือถ้วยกาแฟเข้ามา
“กาแฟดำ มาแล้วค่ะคุณภูมิ”
“ขอบใจนะ
เหมียวจะเดินออกไป รุ้งเปิดประตูเดินเข้ามา
“คุณภูมิขา คุณสราญให้มาตามไปพบที่ห้องค่ะ”
ภูมิหันไปมองหน้าไผท งงๆ
ภูมิเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเอง เจอสราญ ประกายฟ้า พวงศรี ประกัน นั่งรออยู่ ประกายฟ้ายิ้มดีใจปรี่เข้าไปหอมแก้มภูมิ กอดแขน เอาหน้าซบ
“พี่ภูมิ พี่ภูมิขา ฟ้าคิดถึงจังเลยค่ะ”
รุ้งยกน้ำเดินเข้ามาเสิร์ฟ มองประกายฟ้าไม่พอใจ ภูมิพยายามเอาตัวออกห่างประกายฟ้า
“มีอะไรเหรอครับคุณแม่”
“คืองี้จ้ะ แม่จะให้หนูฟ้า เขามาทำงานที่นี่”
“อ๋อ ถ้างั้นก็ให้อยู่ฝ่ายต่างประเทศก็ได้ เห็นฝ่ายบุคคลบอกขาดคนอยู่”
“แต่แม่ต้องการให้หนูฟ้า เป็นเลขาภูมิ”
รุ้งหน้าเหวอ ภูมิพยายามส่งสายตาห้าม
“คุณแม่”
สราญยิ้มเจ้าเล่ห์ ห้ามภูมิพูด แล้วพยักหน้าผายมือเชิญออกไปด้านนอก
“คุณน้องขา พี่ขอตัวพาลูกชายไปปรับทัศนคติสักแป๊บนะคะ เดี๋ยวมาค่ะ”
สราญพาภูมิเดินออกไป รุ้งรีบตามออกไป ภูมิโวยวาย
“คุณแม่ ไปพูดอย่างนั้นได้ยังไง มีอะไรทำไมไม่ปรึกษาผมก่อนล่ะครับ”
“ทำไมต้องปรึกษา ในเมื่อบริษัทนี้ฉันเป็นคนก่อร่าง สร้างมันมากับมือ”
“แต่แม่ครับ”
“ไม่มีแต่ ยังไงแกก็ต้องรับหนูฟ้า มาเป็นเลขาหน้าห้องตามที่ฉันสั่ง”
“ทำอย่างนี้มันไม่ดี ไม่แฟร์กับเดือนเขาเลยนะครับคุณแม่”
“แต่ฉันว่าดี และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ มันจะได้ไสหัวไปไกลๆ แกเสียที ฉันรำคาญ”
“คุณแม่”
“แก ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ อย่าลืม ว่าแกก็มีส่วนผิดที่ทำให้คนดีๆ อย่างหนูฟ้าต้องผิดหวัง ฉันเป็นคนพาเขามา ฉันต้องรับผิดชอบ”
“แต่เขาไม่ได้ดีอย่างที่คุณแม่คิดเลยนะครับ”
“ทำไม เขาไม่ดียังไง ไหนว่ามาสิ”
ภูมิน้ำท่วมปาก พูดไม่ออก
“ไม่มีใช่ไหมล่ะ แกก็ฟังแต่เมีย ที่คอยแต่จะหาเหตุมาใส่ร้ายหนูฟ้า กลับเข้าไปคุยกับเขา แล้วเดี๋ยวแม่จะตามไป”
ภูมิมองแม่ ถอนใจเหนื่อยหน่าย
จบตอนที่ 21