เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 14
ภัทรเดินออกไป ภูมิยืนอยู่
“ภูมิ พ่อขอร้อง อย่าบอกเรื่องนี้กับแม่นะ”
“ผมไม่รับปาก และผมก็ไม่เข้าใจ พ่อทำอย่างนี้กับแม่ได้ยังไง ทั้งๆ ที่พ่อไม่มีประวัติเรื่องนี้ พ่อเป็นคนดี และอยู่ในโอวาทแม่มาตลอด”
“แกเข้าใจคำว่าเก็บกดไหม”
“เข้าใจ แต่พ่อรู้ไหม ว่าถ้าแม่รู้เรื่องนี้ แม่จะเสียใจมากแค่ไหน”
“แล้วแม่แกเคยเข้าใจพ่อบ้างไหม เขาเคยมองพ่อเป็นสามีบ้างไหม ถ้าไม่ใช่คนขับรถ หรือตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ต้องคอยอยู่แต่กับเมีย เชื่อฟังเมีย”
“ไหนพ่อบอกว่ารักแม่นักหนา”
“ก็รัก แต่กำลังจะหมดรัก เพราะแม่แกไม่เคยรักคนอื่นเลยนอกจากตัวเอง”
“พ่อ คนที่พ่อกำลังพูดถึง เขาเป็นแม่ผมนะ”
“ภูมิ พ่อรู้ ว่าสิ่งที่พ่อทำมันผิด และไม่ได้คิดจะหาข้อแก้ตัว แต่แกไม่เป็นพ่อ แกไม่รู้หรอก ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน พ่อกล้าสาบานว่าที่ผ่านมาพ่อไม่เคยนอกใจแม่ ขอแค่ให้เขาเอาใจใส่ดูแลพ่อบ้างตามสมควร แต่พ่อก็ไม่เคยได้สิ่งนี้จากเขา นอกจากชี้นิ้ว แล้วให้พวกเราทำตามไม่ใช่เหรอลูก”
ภูมิถอนใจมองพ่อ
“จนพ่อมาเจอผู้หญิงคนนี้ เขาให้เกียรติพ่อ ทำให้พ่อได้รู้ว่า พ่อยังมีคุณค่าหลงเหลืออยู่บ้าง พ่อรู้ ว่าพ่อทำให้ภูมิเสียใจและผิดหวัง แต่พ่ออยากให้ภูมิเข้าใจและเห็นใจพ่อ เหมือนที่พ่อเคยเข้าใจและเห็นใจภูมิมาตลอด”
ภูมิครุ่นคิด ก่อนหันไปเห็นประกายฟ้า ยกมือทักทาย และกำลังเดินตรงเข้ามา จึงรีบตัดสินใจ
“พ่อ รีบหลบไปก่อนเร็ว”
ภัทรมองไปเห็นประกายฟ้า รีบพยักหน้าแล้วพาน้องไนส์เดินออกไป ประกายฟ้ามองตามภัทร ภูมิรีบวิ่งเข้ามาขวางหน้าประกายฟ้าไว้
“นั่นคุณลุง ใช่ไหมคะ”
“อ๋อ เออ ใช่ครับใช่”
“แล้วนั่นมาทำไม มากับสาวที่ไหนกันคะ”
“ใช่สาวที่ไหน นั่นเลขาของพ่อผม เขามาเลือกซื้อของไปงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของลูกค้าน่ะ”
“อ๋อค่ะ”
“อย่าไปสนใจ เรื่องคุณพ่อพี่เลย มาสนใจเรื่องของเราดีกว่านะ”
“ก็ได้ค่ะ ว่าแต่พี่ภูมิอยากจะกินอะไร หรือจะไปที่ไหนกันดีค่ะ”
“แม่พี่เพิ่งโทรมาเมื่อกี้ บอกให้พี่พาฟ้าไปกราบคุณย่าที่บ้าน ฟ้าจะสะดวกไหม”
“สะดวกสิคะ ฟ้าน่ะอยากจะไปทำความรู้จักกับคุณย่าให้มากกว่านี้อยู่แล้ว งั้นเราไปกันเลยนะคะ”
ประกายฟ้ากอดแขนภูมิเดินออกไป
ย่า บุญปลูก ถวิล นั่งอยู่ รามนรีเดินเข้ามากับเภา
“แม่สราญ เขาไปออกฤทธิ์ ออกเดชอะไรกับเธอรึเปล่า”
“เปล่านี่คะ”
“ไม่จริงมั้ง เมื่อกี้เภายังได้ยินเสียงคุณสราญบ่นคุณเดือนฉอดๆ อยู่เลย”
รามนรีมองปรามเภา
“อืม ถ้าไม่มีอะไร ก็ดีแล้ว”
“คุณย่าให้หา มีอะไรให้หนูรับใช้เหรอคะ”
“ก็ไม่มีอะไร นอกจากอยากจะบอกว่า นับจากนี้แม่เดือนจะต้องเจออะไรที่หนักหนาสาหัส แต่ก็ขอให้อย่าใจเสียและเสียใจ ขอให้หนักแน่นและอดทนไว้ แล้วเราจะผ่านมันไปได้เอง”
“พวกเราทุกคน จะคอยอยู่เคียงข้าง คอยช่วย และเอาใจช่วยคุณเดือนนะคะ”
“เภากับพี่หวิน ก็เหมือนกันค่ะ”
“ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ”
“วันนี้มีเมนูอะไร มาเอาใจย่าอีกล่ะ”
“วันนี้ มีเต้าเจี้ยวหลนกับผักสด แกงจืดเห็ดสามอย่าง แล้วก็ผัดบล็อคโครี่ แค่นี้ก็พอแล้วมังค่ะ เพราะอาหารเย็นเราไม่ควรกินมาก แต่ถ้าคุณย่าต้องการอะไรเพิ่มก็บอกได้เลยนะคะ เดี๋ยวหนูจะทำให้”
“แค่นี้ก็พอแล้วล่ะจ้ะ”
“งั้นหนูขอตัวไปเตรียมอาหารเย็นก่อนนะคะ”
“ไปเถอะลูก”
“ไปค่ะพี่เภา”
รามนรีกับเภาเดินออกไป ถวิลเอ่ยชม
“คุณภูมิโชคดี ที่ได้เมียดีอย่างคุณเดือน”
“อ้าว แล้วทีเมียแก ทำไมไม่ชมเขาบ้างล่ะ”
“ก็อยากอยู่ แต่ดูมันบ้าๆ บอๆ เลยไม่กล้าจะชม กลัวหน้าแตกน่ะพี่ปลูก”
บุญปลูกพยักหน้าเข้าใจ
ภูมิกับประกายฟ้า นั่งคุยกันกระหนุงกระหนิง รอสราญที่ห้องรับแขก
“มากันแล้วเหรอลูก”
“สวัสดีค่ะคุณป้า”
“ป้าอีกละ ต้องแม่สิจ๊ะถึงจะถูก”
“ขอโทษทีค่ะคุณแม่”
“งั้นเชิญสองสาวตามสบาย ผมขอตัวไปทำธุระข้างบนก่อนนะครับ”
“จ้ะลูก ไปพักผ่อนก่อนได้เลยจ้ะ เสร็จธุระจากคุณย่าแล้วแม่จะพาน้องมาหานะ”
“พี่ขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวเราค่อยเจอกันนะ”
“ค่ะพี่ภูมิ”
ภูมิเดินหน้าเครียดออกไป
“นี่ ต่อไปนี้จะทำอะไร เราต้องมีแผนการเป็นขั้นเป็นตอน ไม่งั้นมีหวัง กันนังนั่นไม่อยู่แน่”
“ค่ะคุณแม่ ว่าแต่หนูต้องทำอะไร ยังไงบ้างคะ”
“หนูต้องวิ่งเข้าชน พุ่งเข้าใส่คุณย่า ช่วงที่ท่านยอมเปิดใจให้เรา”
“ไม่มีปัญหา ฟ้าทำได้อยู่แล้วค่ะ”
“งั้นเราก็ลุยกันเลยลูก”
สราญกับประกายฟ้าปะมือกัน
บุญปลูกนั่งอ่านหนังสือพิมพ์หน้าบันเทิงให้ย่าฟัง
“ละครช่อง 8 มาแรงแซงทางโค้ง”
“อืม ท่าจะจริง”
“ดาราดัง อักษรย่อ ว แอบย่องขึ้นคอนโดไฮโซชื่อดัง แต่ทำมึน”
“อุ้ยตาย ใครกันนะแม่ ว. เนี่ย”
สราญเดินยิ้มร่าพาประกายฟ้าเข้ามา ก่อนเอาตัวบังประกายฟ้าไว้ ไม่ให้ย่าเห็น
“นั่นมันเป็นกลยุทธ์ของสื่อที่อยากจะขายข่าว จริงเท็จประการใดไม่มีใครรู้ อย่าไปสนใจการสร้างกระแสด้วยอักษรย่อเลยค่ะคุณแม่ ดูนี่ดีกว่า ดูสิ ว่าหนูพาใครมาเอ่ย”
ย่าแหงนหน้ามอง
“แท่น แทน แท้น”
สราญผายมือ ก่อนขยับออกห่างจากประกายฟ้า ประกายฟ้ายืนยิ้ม และยกมือไหว้ย่านอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
“อ้าว หนูนั่นเอง เชิญนั่งก่อนสิ แล้วนี่พ่อกับแม่ไม่ได้มาด้วยเหรอ”
“เปล่าค่ะ พอดีคุณป้าให้พี่ภูมิไปรับฟ้ามากราบคุณย่าก็เลยรีบมาก่อนน่ะค่ะ”
“หนูฟ้าเนี่ยเป็นเด็กดีมากเลยนะคะ หัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย น่ารักมากๆ เลย”
ย่าปรายตามองสราญ หมั่นไส้
“เรื่องพวกนี้ ขอให้ฉันเป็นคนตัดสินใจเอง เธอไม่จำเป็นต้องมาชี้นำ เดี๋ยวมันจะดูเหมือนเตี๊ยมกันมา”
สราญหน้าแตกยิ้มเจื่อน บุญปลูกมองสราญ กลั้นขำ
“แล้วนี่หนู เรียนอะไร ทำกับข้าวกับปลาเป็นไหมจ๊ะเนี่ย”
“เป็นสิคะคุณย่า หนูเรียนจบจากเมืองนอกมา ตอนอยู่ที่โน่นก็ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง คุณแม่เคยชมว่าหนูทำกับข้าวเก่ง และอร่อยมากค่ะ”
“เหรอ งั้นดีเลย วันหลังมาทำอาหารให้ย่ากิน ดูสิ ว่าจะสู้แม่เดือนเขาได้ไหม”
ประกายฟ้าหุบยิ้มหน้าเหวอ ก่อนหันไปเห็นบุญปลูกมองมา รีบทำหน้าให้ปกติ
“อ๋อ ได้ค่ะ ด้วยความยินดีเลยค่ะคุณย่า”
“ดีๆ แล้วนี่เจ้าภูมิมันหายหัวไปไหน”
“หายขึ้นไปบนบ้านแน่ะค่ะ”
“งั้นไปเป็นไร เดี๋ยววันนี้ก็อยู่กินข้าวกินปลากันก่อนแล้วกัน ย่าจะได้สั่งให้เขาทำกับข้าวมาเพิ่มให้”
“ดีเลยค่ะ คุณแม่จะได้มีเวลารู้จักตัวตนของหนูฟ้าไห้มากขึ้น”
“งั้นก็ไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวถึงเวลา ฉันจะให้เด็กไปตามก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณมากค่ะคุณย่า”
“หนูขอตัวก่อนนะคะคุณแม่ ไปหนูฟ้า”
สราญรีบพาประกายฟ้าเดินออกไป ย่าเบ้ปากใส่
“โถ่เอ๊ย คิดว่าคนอื่นจะรู้ไม่ทันรึไง ฉันล่ะเกลียดนัก อีพวกจัดฉากเนี่ย”
บุญปลูกอมยิ้มมองสะใจที่ย่ารู้ทันสราญ
รามนรีและทุกคนช่วยกันจัดเตรียมอาหาร บุญปลูกเดินเข้ามา
“วันนี้เรามีแขก ต้องจัดอาหารเพิ่มแล้วนะคะ”
“ใครเหรอพี่ปลูก”
“ก็คุณประกายฟ้า ลูกแม่พวงหรีด ไงล่ะ”
“แล้วเขามาได้ไง มากับใครล่ะพี่ปลูก”
“ก็จะกับใคร ถ้าไม่ใช่คุณภูมิของเรา”
รามนรีโมโหกำมือแน่น ระงับอารมณ์ เภาแค้นแทน
“หือ คุณภูมินะคุณภูมิ ทำอย่างนี้มันหยามศักดิ์ศรีเมียหลวงชัดๆ”
“หือ แม่เภา อย่าไปบิ๊วคุณเดือนเขาอย่างนั้นสิ เดี๋ยวคุณภูมิได้ยินก็เคืองแย่” ถวิลขัด
“ฉันไม่ได้บิ๊ว แต่ฉันพูดจริง นี่ถ้าเป็นพี่หวิน ได้ตายกันไปข้างหนึ่งแล้ว”
“นั่นปะไร ไม่รู้เวรกรรมอะไร ทำไมหวินมักจะโดนหนักกว่าคนอื่นเสมอ เฮ้อ”
ถวิลเซ็งสุดชีวิต นิดถือถาดแก้วน้ำ จะเดินไปบ้านภูมิ หยุดยืนแอบฟัง
“คุณภูมิ เขาอยากจะทำอะไรก็ทำไป ฉันไม่สนใจหรอก”
“ไม่สนได้ไงคะ นี่เขากล้ามาเหยียบจมูกเราถึงถิ่นเลยนะคะเนี่ย”
“ใช่ สนใจบ้างก็ดีนะคะคุณเดือน”
“ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะนะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
“นี่ต่อมหึงหวงของคุณเดือนหายไป รึมันไม่ทำงานกันแน่คะ”
เภาหันไปสบตาบุญปลูก เซ็งๆ รามนรีทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ในใจเต้นแรงและแค้นภูมิ ก่อนก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ นิดมองทุกคน แอบยิ้มสะใจ
สราญนั่งอยู่ที่โซฟากับประกายฟ้า นิดถือถาดน้ำเดินยิ้มร่าเข้ามา
“ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณสราญคุณฟ้า”
“ขอบใจจ้ะ”
“เมื่อกี้หนูได้ยินพวกนั้น คุยกันเรื่องคุณภูมิกับคุณฟ้าด้วยล่ะค่ะ”
สราญหน้าตื่น นั่งไม่ติดรีบถาม
“เหรอ เหรอ แล้วมันพูดว่ายังไง”
“มันพูดเหมือนมันยอมแพ้ บอกว่าคุณภูมิอยากจะทำอะไรก็ทำไป ไม่สนใจหรอก”
ประกายฟ้ายิ้มปลื้มยิ่งมั่นใจ
“ดีๆ แล้วมันว่าไงต่อ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร มีแต่อีพวกขี้ข้า คอยแต่จะยุให้จัดการคุณภูมิ แต่นางก็ไม่เล่นด้วยเลยค่ะ”
“ก็ฉันชู่มันไว้ มันก็คงจะกลัวฉันเอาเรื่องมันล่ะสิ”
“โห คุณสราญนี่เจ๋งจริงๆ เลย”
“ต้องกราบขอบพระคุณ คุณแม่มากที่อยู่ข้างฟ้ามาตลอด”
“ไม่เป็นไรจ้ะ นี่ดีนะที่เราได้รู้ความคิดมัน ต่อไปจะได้ทำอะไรง่ายขึ้น”
“ค่ะคุณแม่”
สราญ ยิ้มเจ้าเล่ห์ ประกายฟ้ามีความหวัง
ภูมินอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนเตียง คิดเครียดเรื่องพ่อ
รามนรีหลบสราญกับประกายฟ้าเปิดประตูเข้ามา ยืนมองหน้าภูมิ
“หือ ไอ้คนกะล่อน”
รามนรีโมโห คว้าหมอนข้างฟาดภูมิไม่ยั้ง ภูมิตกใจ ยกมือปัดป้องพัลวัน
“เฮ้ย หยุด อย่า”
“ไม่หยุด ฉันจะตีคุณให้ตาย จะได้หายเจ้าชู้”
ภูมิจับมือรามนรีกับหมอนมากอดแล้วล็อคไว้
“นี่คุณเป็นบ้าอะไรอยู่เรื่อยเลย”
“ก็คุณทำเกินไป คุณกำลังจะทรยศคุณเดือนฉาย และไม่เข้าข่ายสามีที่ดี ตามที่เราสัญญากัน ฉันมีหน้าที่ต้องจัดการ”
“ดูคุณจะหึงโหดมากขึ้นทุกวันเลยนะ ก่อนที่จะทำอะไร เคยคิดที่จะถามผมบ้างไหม ว่าผมมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำ มันไม่ใช่แค่เรื่องเจ้าชู้เพียงอย่างเดียวนะคุณ”
“คนอย่างคุณเนี่ยนะจะมีเหตุผลอื่น”
“คนเรา ไม่มีใครดีหรือร้ายได้ตลอดหรอกคุณ”
“แล้วคุณมีเรื่องอะไร ไหนว่ามาสิ”
“ผมบอกคุณไม่ได้ มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายของครอบครัวผม”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
ภูมิถอนใจเอามือกุมขมับ
“ถ้าคุณทุกข์ขนาดนั้น ก็น่าจะลองแบ่งปันมาให้ฉันช่วยบ้างก็ได้นะ ไหนๆ เราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ฉันในฐานะลูกจ้าง ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อคุณ และสัญญาว่าจะไม่บอกใครแน่นอน”
ภูมิมองหน้ารามนรี ชั่งใจ ก่อนโพล่งออกไป
“คุณพ่อผมมีกิ๊ก”
“หะ คุณพ่อมีกิ๊ก”
ภูมิรีบเข้าไปล็อคตัวรามนรีเอามือปิดปากไว้
“จะพูดทำไมเนี่ย”
รามนรียังตาโตตกใจไม่หาย
ย่าเดินเข้ามาในห้องครัว
“แล้วนี่แม่เดือนไปไหน”
“เตรียมอาหารเสร็จ ก็ไปหาคุณภูมิที่บ้านโน้นน่ะค่ะคุณท่าน”
“ดีแล้ว มามัวแต่เข้าครัวทำกับข้าว เดี๋ยวก็ได้โดนแม่นั่นงาบสามีไปพอดี แล้วดูท่า ไอ้เจ้าสามีก็จะสมยอม ใจกายอ่อนปวกเปียกไปกับเขาเสียด้วยสิ ฉันล่ะไม่รู้จะหายาอะไรมาให้ไอ้หลานคนนี้กิน มันจะได้หายเจ้าชู้เสียที”
“ของอย่างนี้ กินยาก็ไม่หาย มันต้องไปเกิดใหม่ หรือไม่ก็ต้องใช้เครื่องทุ่นแรง ถึงจะได้ผลค่ะคุณท่าน”
ถวิลหลบตาต่ำ
“ทำไมรุนแรงขนาดนั้น ไหนลองว่ามาสิว่าทำยังไง”
“ก็เริ่มจากเบาไปหาหนักค่ะคุณท่าน”
ย่ามองหน้าเภา ตั้งใจฟัง
“เริ่มจาก ตบ ตี จิก ข่วน ถ้าไม่ได้ผลก็ตามด้วยไม้หน้าสาม มีด แล้วก็ปืนค่ะ คุณท่าน”
“อุ้ยตาย ไอ้เราก็นึกว่ามีกลเม็ดเด็ดพรายอะไร อุตส่าห์ตั้งใจฟัง เผื่อจะให้แม่เดือนเอาไปใช้ปราบเจ้าภูมิมันบ้าง แต่มุกนี้ไม่ผ่าน ฉันไม่เอา และหล่อนก็ต้องเลิกใช้ความรุนแรงกับสามีทุกกรณี เช้าใจไหม คิดใหม่เถอะ”
เภาหลบตาหน้าจ๋อย
“ดีครับคุณท่าน เตือนให้หน่อยก็ดี เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ มือหนักอย่างกับช้างถีบ ผมจะช้ำในตายอยู่แล้วเนี่ย”
ทุกคนอมยิ้มขำ
รามนรีกับภูมิ นั่งเอาคางเกยเข่าหันหน้าชนกัน ภูมิเล่าเรื่องพ่อให้ฟัง
“ถ้าเป็นฉัน ก็คงจะช็อคพอๆ กับคุณ แล้วนี่คุณจะเอายังไง จะเก็บมันไว้ หรือบอกกับแม่ล่ะ”
“ผมยังคิดไม่ตก เพราะเท่าที่ฟัง ผมก็พอจะเข้าใจและเห็นใจพ่อ แต่ผมก็รักแม่ แล้วคุณว่าผมจะทำไงดี”
“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะนิ่งไปก่อน เพราะตีโพยตีพายไปก็เท่านั้นมันไม่มีอะไรดีขึ้นมา ดีไม่ดีจะหนักกว่าเดิมอีก เพราะสิ่งที่ทุกคนทำ ต่างก็มีเหตุผลของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น”
“ก็นั่นน่ะสิ งั้นผมเอาตามคุณว่าดีกว่า นิ่งไว้ก่อนยายสอนไว้ แล้วเราค่อยหาเวลาไปหาเจ้าไท ไปปรึกษามันอีกคนเพื่อความชัวร์”
รามนรีอมยิ้มปรายตามอง
“ก็ได้ แล้วทีนี้พอจะรู้รึยัง ว่าอารมณ์ของคนถูกทรยศหักหลัง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร อารมณ์มันก็ไม่ต่างกัน ลองนึกดู ถ้าคุณเดือนฉายได้รู้ได้เห็นพฤติกรรมคุณ เขาจะยิ่งช้ำใจเสียใจ มากกว่าคุณหลายร้อยเท่า”
“โอ๊ย ข้อนี้ผมรู้ดีอยู่แล้ว”
“แต่ก็ยังทำ คุณเสพติดความเจ้าชู้ พอๆ กับติดยาบ้ายาไอซ์เลยมั้งเนี่ย”
“ก็บอกแล้วไง ช่วงนี้ขอทำกำไรไปก่อน ก่อนที่เดือนฉายจะกลับมา แล้วคุณก็สัญญากับผมแล้ว ว่าจะไม่ยุ่งกับเรื่องของผม ยังจำได้ไหมจ๊ะภรรยาสุดเลิฟ”
ภูมิทำหน้าทะเล้นใส่ รามนรีมองหน้าเหี้ยม ชูมะเหงกให้ ภูมิหุบยิ้มหน้าจ๋อย
“ถ้าไม่อยากโดนก็อย่าทำอะไรที่มันมากเกินไป และตราบใดที่คุณไม่ให้เกียรติคุณเดือนฉาย เราก็จะได้เห็นดีกัน”
“ผมล่ะอยากจะรู้จัง ว่าเดือนฉายเขาทำบุญด้วยอะไร ถึงได้มีคนปกป้องเขามากมายขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกัน”
“ไม่รู้จักแล้วไง แปลกตรงไหนที่ฉันอยากจะปกป้องเขา ในเมื่อฉันเป็นคนมีเซ้นส์ เรื่องความดีและคนดี”
“ผมก็เป็นคนดีจะตาย เรื่องเจ้าชู้ก็พยายามลดอยู่ ทำไมคุณไม่เห็นความดีของผมบ้าง ว่าผมพยายามแค่ไหน”
“เพราะคุณไม่เคยมีความดี มีแต่ความเลว”
รามนรียิ้มเยาะยักไหล่ เดินหน้าเชิดออกไป
“แรงที่สุดในที่ชีวิตที่เคยโดนมาเลยกรู”
ภูมิมองตามรามนรี ก่อนรีบวิ่งตามไป
สราญกับประกายฟ้านั่งคุยกันอยู่ ภูมิเดินเข้ามากับรามนรี
สราญปรายตามองรามนรี ก่อนทำเป็นยิ้มร่าอารมณ์ดีให้ภูมิ มองผ่านรามนรีเหมือนไม่มีตัวตน
“อ๊าย มาแล้วเหรอลูก”
ประกายฟ้าเห็นรามนรี อึ้งมอง พยายามนึกว่าเคยเห็นที่ไหน รามนรีเห็นประกายฟ้ามองมา ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ สราญรีบไปดึงภูมิ เอาก้นชนรามนรีจนเซออกไป ก่อนพาภูมิเข้าไปนั่งใกล้ประกายฟ้า
“มาเร็วลูก มานั่งข้างๆ หนูประกายฟ้านี่”
รามนรีเห็นภูมิยิ้มหน้าระรื่น ก็ทำหน้าดุใส ภูมิหน้าเจื่อน รามนรีรีบเดินออกไป สราญหันไปสบตาประกายฟ้า ยิ้มสะใจ
รามนรีเดินหน้าหงิกเข้ามาในสวน ก่อนหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาหักระงับความแค้น
“ดูสิ นี่ขนาดพูดกันมาหยกๆ ผมดีจะตาย เรื่องเจ้าชู้ก็ลดอยู่ ลดกะผีอะไร อีตาคนนี้ผีเจาะปาก พูดอะไรเชื่อไม่ได้เลยจริงๆ”
รามนรียืนครุ่นคิด โมโห
ประกายฟ้านั่งกอดแขนภูมิ ทั้งสองส่งสายตาหวานฉ่ำกันตลอดเวลา ภัทรเดินยิ้มแหย หน้าเจื่อนเข้ามา ประกายฟ้ารีบผละจากภูมิ ยกมือไหว้ ภูมิมองสังเกตพ่อ
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
“สวัสดีจ้ะ”
“อ้าว คุณภัทร กลับมาแล้วเหรอคะ มาค่ะมานั่งนี่ก่อน นี่คุณเป็นอะไร ดูจ๋อยๆ เนือยๆ ไปนะ”
“อากาศมันร้อน ผมก็เลยรู้สึกเพลียๆ นิดหน่อย”
“จะไม่ให้เพลียได้ยังไงล่ะคะ ฟ้าเห็นคุณพ่อ เดินดูตู้เย็นกับเลขาตั้งนาน”
ภัทรหน้าเหวอหนัก สราญมองภัทรงงๆ
“ตู้เย็น อะไร เลขาอะไรกันเหรอคะคุณ”
ภัทรหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากภูมิ ที่ทำเป็นมองแล้วเมินใส่พ่อ
“อ๋อ เอ่อ เอ่อ”
“ผมวานให้คุณพ่อช่วยไปซื้อของขวัญวันขึ้นบ้านใหม่ให้ลูกค้าครับคุณแม่”
“อ๋อ เหรอ คงจะไปกับแม่รุ้งเลขาลูกล่ะสิ”
ภัทรยิ้มแหยไม่ตอบ ก่อนหันไปถอนใจโล่งอกอย่างแรง
“แล้วเรื่องงานเป็นไงคะคุณ”
“แนวโน้มดี แต่คงต้องไปคุยอีกที ผมกลัวจะถูกหลอกต้องเช็คให้ชัวร์”
“ถูกต้องที่สุด ดีค่ะดีต้องเช็คให้ชัวร์นะคะ”
ภูมิเหล่มองพ่อ ระอาใจ
“นี่ คราวหน้าก็พาฉันไป จะได้ช่วยเช็คให้ดีไหมคะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ให้ผมเป็นคนจัดการเอง คุณจะได้ไม่เหนื่อย”
“ภูมิต้องดูพ่อไว้ ว่าเขาเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดียังไง พ่อเป็นคนซื่อสัตย์และรักครอบครัวมาก ดูแลและเชื่อฟังแม่มาตลอด ถ้าภูมิได้แต่งงานกับหนูฟ้า ก็ต้องทำให้ได้อย่างพ่อ เข้าใจไหม”
ประกายฟ้าเขิน ยิ้มเอียงอาย ภัทรมองภูมิยิ้มแหย ภูมิฝืนยิ้ม นิดเดินเข้ามา
“คุณท่านให้มาเชิญทุกคนไปรับประทานอาหาร ได้แล้วค่ะ”
“ไปเรียนท่าน ว่าเดี๋ยวฉันตามไป”
นิดเดินออกไป ประกายฟ้ายังเกาะภูมิแจ แบบไม่เกรงใจใคร ภัทรรู้สึกเป็นห่วงลูกชาย
รามนรีมองบรรดาไม้ดอกไม้ใบทั้งที่อยู่ในกระถาง และในดิน รู้สึกสบายใจ และทำให้อารมณ์เย็นลง เธอบรรจงเอากรรไกรตัดไม้ดอกไม้ใบ เพื่อจะเอาไปใส่แจกันอย่างเพลิดเพลิน ย่ากอดอกยืนมอง
“ตัดดอกไม้ไปทำอะไรเหรอลูก”
“เอาไปใส่แจกันแต่งห้อง และวางไว้ที่โต๊ะอาหาร จะได้ดูสดชื่นขึ้นหน่อยค่ะคุณย่า”
“งั้นเดี๋ยวย่าให้ถวิลไปซื้อดอกไม้สวยๆ ที่ตลาดมาให้ดีกว่าไหม ไวดี”
“ไม่เป็นไร เอาของที่เรามีดีกว่าค่ะคุณย่า ไม่เปลืองตังค์ แถมยังทำให้คนที่ปลูกและรดน้ำรู้สึกดี ที่ได้เห็นความสวยงามของต้นไม้พวกนี้ค่ะ”
“อืม ดี เข้าใจคิดนะ”
รามนรีตัดดอกไม้จนเสร็จ
“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะคุณย่า เพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว”
“ไปเถอะลูก”
ย่าพึมพำเบาๆ
“หวังว่าตาภูมิจะมองเห็นว่าใครคือเพชรแท้ ใครคือเพชรเทียมนะ”
ย่าถอนใจ กังวล
ภายในห้องอาหารบ้านย่า มีแจกันที่รามนรีจัดวางไว้อย่างสวยงาม ตามจุด ทุกคนช่วยกันยกอาหารมาวางเรียงราย ภูมิเดินมาแอบยืนดูรามนรีอยู่อีกมุมของห้องอาหาร รามนรีรับหน้าที่เป็นคนจัดวางอาหารให้ดูเรียบร้อยสวยงาม บุญปลูกเอ่ยชม
“คุณเดือนนี่ ฝีมือดีหลายอย่างเลยนะคะเนี่ย”
“ใช่ ไปฝึกมาจากไหนคะ ถึงได้เก่งขนาดนี้” เภาชื่นชมอีกคน
“ก็รีสอร์ทที่บ้าน อุ้ย ที่บ้านเจ้านายเก่า เขาฝึกให้ทำก็เลยพอทำเป็นน่ะค่ะ”
“ไม่น่าเชื่อ ว่าดอกไม้ใบไม้ ที่เราปลูกไว้ในบ้านจะเอามาจัดแล้วดูดีได้ขนาดนี้ ที่ผ่านมาคิดว่าต้องซื้อมาเท่านั้นถึงจะสวยได้” ถวิลชื่นชม
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ แค่เรารู้จักปรับใช้ และเห็นในคุณค่าของมันก็ทำให้สวยได้”
“และไม่เปลืองเงินอีกด้วยค่ะ พอเพียง คือพอดีจริงๆ จริงไหมพี่หวินของเภา”
ถวิลพยักหน้า
“แต่เรามักจะมองข้าม ไม่เคยเห็นคุณค่าของมันใช่ไหมล่ะคะ”
ทุกคนพยักหน้าให้รามนรี รามนรียิ้มให้ ก่อนบรรจงจัดโต๊ะอาหารจนเสร็จ ภูมิมองหญิงสาวยิ้มปลื้ม ยิ่งรู้สึกดีกับรามนรี
ย่าเดินเข้ามา แอบมองภูมิ เห็นสายตาภูมิที่มองรามนรีก็เริ่มมีความหวัง
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 14 (ต่อ)
รามนรีเดินปาดเหงื่อไปตามทางเดินกลับไปบ้านภูมิ ก่อนชะงักเมื่อเห็นภูมิยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณคงจะเหนื่อยมากเลยใช่ไหม”
ภูมิมองรามนรีด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนเอาทิชชูซับเหงื่อให้ รามนรีเอามือปัด ขยับหนี
“เหนื่อยกายมันไม่เท่าไหร่ แต่เหนื่อยใจมากกว่า”
“คุณหมายถึงอะไร หมายถึงใคร รึว่าผม”
“ก็จะใครซะอีกล่ะ ถ้าพฤติกรรมคุณยังเป็นแบบนี้ ไม่ว่าฉัน คุณเดือนฉาย หรือแม้แต่คุณผไท ทุกคนก็ต้องมีชะตากรรมเดียวกันเพราะคุณ”
“โห จะคิดอะไรมากมาย ผมผู้ชายไม่ใช่ตุ๊ดก็ต้องมีหลุดกันบ้าง ก็แค่ขำๆ แล้วน้องฟ้าเขาไม่น่าจะซีเรียสกับผมหรอก”
“นั่นมันความคิดของคนมักง่าย ของผู้ชายเจ้าชู้อย่างคุณ แต่สำหรับฉัน คิดว่าเขากำลังหาเหยื่อ และขอเตือนให้คุณระวังตัวไว้ ระวังจะกลายเป็นเหยื่อของเขาเข้าสักวัน”
“คนอย่างผมเก๋าเกมเรื่องผู้หญิง ไม่เคยมีประวัติพลาดท่าเสียทีให้ใคร ไม่ได้แอ้มผมหรอก”
“งั้นก็ตามใจ แล้วฉันจะคอยดู”
รามนรีรำคาญ จะเดินไป
“แล้วนั่นคุณจะไปไหน ไปกินข้าวด้วยกันก่อนสิ”
“เชิญคุณตามสบาย ฉันไม่กิน”
“โธ่เอ๊ย คงจะหึงผมกับประกายฟ้าใช่ไหมล่ะ ถึงไม่กล้าสู้หน้าเขา”
ภูมิยืนหัวเราะเยาะรามนรี หญิงสาวกัดกรามกรอด กำมือแน่น
ย่ากับบุญปลูกนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก สราญกับภัทรพาประกายฟ้าเดินเข้ามา
“วันนี้พ่อภัทรไปไหนมา แม่ไม่เห็นหน้าทั้งวันเลย”
“ผมไปทำธุระเรื่องงานมาน่ะครับคุณแม่”
“ชีวิตพวกแกวันๆ ก็มีแต่งานๆๆ ไปโน่นมานี่ ตั้งแต่เจ้าภูมิมันเล็ก จนมันโตเป็นหนุ่ม ก็ยังไม่ยอมหยุดหย่อนกันบ้างเลย”
“ได้งาน ก็หมายถึงได้เงิน แล้วจะหยุดไปทำไมกันล่ะคะคุณแม่ จริงไหมหนูฟ้า”
“ก็จริงนะคะ คุณแม่”
ย่าปรายตามองหน้านิ่ง
“งั้นก็ตามใจ ที่พูดก็แค่อยากจะให้สติให้หยุดคิด ว่าคนเราเกิดมาก็แย่งกันหาแย่งกันใช้ จนลืมคิดถึงวันตาย บางคนก็หาไว้เสียมากมาย แต่ก็ไม่ได้ใช้ เพราะตายเสียก่อน แล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย”
“ผมก็คิดอยู่เหมือนกัน อีกไม่นานก็คงจะขอเกษียณตัวเองไปพักบ้าง”
“อุตะ อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้นสิคะ รอเจ็ดสิบแล้วคิดก็ได้ค่ะ”
“นี่เธอคิดจะใช้แรงงานลูกชายฉันยันเจ็ดสิบเลยรึแม่สราญ ใช้นานเกินไปรึเปล่า”
“ไม่นานหรอกค่ะ เพราะเราไม่ได้ใช้แรง แต่ใช้สมองทำงานค่ะคุณแม่ แล้วการเดินทางก็เหมือนการพักผ่อน เรามีความสุขกับสิ่งนี้ค่ะคุณแม่ จริงไหมคะคุณภัทร”
ภัทรยิ้มแหยมองแม่ ก่อนหันไปมองสราญ
“จริงก็ได้ครับ”
สราญยิ้มมีชัย ย่ามองค้อน เซ็งลูกชายที่คอยแต่จะกลัวเมีย
รามนรีเปิดประตูเข้าบ้านแล้วปิดดังปังด้วยความโมโห เดินมาที่โซฟา ชกโซฟาระงับอารมณ์
“นี่แน่ะๆ หาว่าฉันหึงนายกับแม่นั่น แล้วยังมาหาว่าฉันกลัวงั้นเหรอ”
รามนรีหยุดคิด
“เพื่อพี่เดือน เราจะหนีปัญหาไม่ได้ เราต้องสู้เพื่อพี่”
รามนรียิ้มเจ้าเล่ห์เชิดหน้าตาวาว
ตอนเย็น ย่านั่งหัวโต๊ะอาหาร ทุกคนเดินเข้ามานั่ง เภากับนิดเสิร์ฟข้าว บุญปลูกยืนมองความเรียบร้อย สราญกวาดตามองยิ้มพอใจ
“อืม คุณแม่ไปสั่งอาหารที่โรงแรมไหนมาคะเนี่ย ดูน่าทานมาก แล้วเดี๋ยวนี้บุญปลูกกับเภา พัฒนาฝีมือการจัดโต๊ะอาหาร จัดจานได้เริ่ดหรูดูดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย”
สราญยิ้มสดใส ก่อนตักอาหารให้ประกายฟ้า
“อันนี้ดูน่าทาน ลองชิมดูนะหนูฟ้า”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
สราญตักเข้าปาก ตาโต
“อุ๊ยตาย อาหารอร่อยมากๆ ค่ะคุณแม่ขา อร่อยจริงๆ”
ประกายฟ้าลองชิมอาหาร
“อืม อร่อยจริงๆ เลยค่ะ”
ภูมิเดินเข้ามา
“มาเร็วตาภูมิ มานั่งข้างหนูฟ้า แล้วรีบมาชิมให้ได้เลย นี่ฝีมือระดับเชฟมิชลินเชียวนะ อร่อยมากๆ ขอบอก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
ภูมิเดินไปนั่งข้างประกายฟ้า สราญรีบตักอาหารให้ภูมิอย่างเอาใจ ก่อนตักเข้าปากตัวเอง เคี้ยวตุ้ยๆ ย่ามองหมั่นไส้
“กินๆ เข้าไป เพราะอาหารทุกอย่างที่นี่เป็นฝีมือของแม่เดือนฉายทั้งนั้น”
สราญสำลักอาหารพุ่ง ภัทรรีบดึงทิชชูให้
“ใจเย็นๆ คุณ”
ย่าสะใจ
“หวังว่าหนูประกายฟ้า จะทำได้ดีกว่านี้”
ประกายฟ้ายิ้มแหยๆ
กองแก้วกับเกริกเกียรติมาหาความสุขกันที่โรงแรมอีกเช่นเคย
“วันก่อน พี่เครียดมาก ที่ถูกอีตาผสานจับได้ คิดว่าต้องแย่แน่ๆ”
“แล้วเป็นไงบ้างครับพี่”
“ผิดคาด มันไม่แย่ แต่กลับดีกว่าเดิมเสียอีก”
“ผมมั่นใจว่าคนดีอย่างพี่ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้หรอกครับ”
“แน่นอน แล้วคุณผสานเขาก็รวยมาก แค่พี่ทำตามแผนเขา เขาจะส่งเสริมให้เราได้อยู่ด้วยกัน และทำให้พี่มีเงินมีทอง”
“พี่โชคดีจริงๆ เลยนะครับเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ จากร้ายกลายเป็นดี แล้วก็ดีมากๆ ด้วย ทางข้างหน้าของเราสดใสชัวร์”
“แล้วเรื่องซื้อบ้านล่ะครับว่าไง หรือจะดร็อปไว้ก่อน”
“อุ้ย ไม่ต้องจ้ะไม่ต้อง เพราะตอนนี้พี่พร้อมที่จะสร้างรังรักของเราแล้ว”
เกริกเกียรติผุดลุกมามองหน้ากองแก้ว ด้วยความดีใจ
“จริงเหรอครับพี่”
กองแก้วพยักหน้ายิ้มเอียงอาย เกริกเกียรติยิ้มดีใจก่อนเข้าไปนัวเนีย
ทุกคนที่บ้านย่ากำลังจะลงมือกินอาหาร ย่ากวาดตามองหารามนรี
“เจ้าภูมิ แล้วนี่เมียแกหายไปไหน ทำไมไม่มากินข้าวด้วยกัน”
ภูมิอ้าปากจะพูดแต่ไม่ทัน
“ไม่มาก็ดีแล้วล่ะค่ะคุณแม่ ให้เขาพักผ่อนบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าเราใช้งานมากไป”
สราญหันไปสบตาประกายฟ้า ยิ้มให้กัน ก่อนต้องหุบยิ้ม เมื่อได้ยินเสียง
“หนูมาแล้วค่ะ"
รามนรีเดินเชิดเข้ามาหาภูมิ ก่อนดึงประกายฟ้าลุก
“เดี๋ยวเชิญคุณประกายฟ้าไปนั่งด้านโน้นดีกว่า จะได้ไม่ถูกใครครหาว่าจะมาตีท้ายครัวฉัน”
สราญหันไปสบตาประกายฟ้าหน้าเหวอ
“เชิญค่ะคุณฟ้า”
ภูมิอึ้งมองรามนรี ย่าหันไปสบตาบุญปลูกกับเภายิ้มสะใจ ประกายฟ้ารู้สึกเสียหน้า จำใจทำตาม สราญ ได้สติ รีบลุกขึ้นแล้วไปดึงประกายฟ้ามานั่งข้างภูมิแทนที่ตัวเอง ก่อนขยับไปนั่งอีกที่
“ไม่เป็นไร หนูฟ้ามานั่งที่แม่ก็ได้ เดี๋ยวแม่จะไปนั่งข้างคุณย่าเอง”
“หนูเพิ่งจะคิดได้ ว่าการปล่อยให้สามี ไปหาเศษหาเลยกับผู้หญิงคนอื่น มันไม่ควรทำ เพราะฉะนั้นสองคนนี้ต้องอยู่ให้ห่างกัน จริงไหมคะคุณย่า”
“อืม ก็จริงนะ”
สราญโกรธมาก บุญปลูกกับเภาหันไปยิ้มให้กัน ก่อนหันไปปรายตามองนิด ประกายฟ้าจับมือสราญ ให้กำลังใจ
บุญปลูกกับเภาหัวเราะสะใจลั่นห้องครัว
“มันสะใจอีเภาจริงๆ เมื่อได้เห็นคุณหนูประกายฟ้า ลูกแม่พวงหรีด ถูกคุณเดือนของเรา กรีดซะหน้าแหกไปเลย”
“ไม่ต่างกัน วันนี้มันจริงๆ ไม่เสียแรงที่เชียร์คุณเดือนมาตลอด แล้วก็ได้อย่างใจจริงๆ”
บุญปลูกกับเภาหัวเราะสะใจต่อ ถวิลปราม
“เฮ้ย เบาๆกันหน่อยสิ”
นิดเดินหน้าตึงเข้ามา
“หัวเราะบ้าหัวเราะบออะไรกัน”
“ก็มันทั้งขำทั้งสะใจ จะไม่ให้หัวเราะได้ไง ฉันไม่ใช่คนเก็บกดเหมือนแกนี่”
“คอยดูนะ ฉันจะฟ้องคุณสราญ”
“เชิญ ถ้าไม่กลัวคุณสราญตบปากแก ก่อนปากพวกฉันก็เชิญขี่ม้าสามศอกไปบอกเลย”
“ยังไงก็ขอให้คิดก่อนทำละกันนะนังนิด เพราะฉันจะไม่ยอมมานั่งใส่ยาให้แกอีกแล้ว”
นิดนิ่งคิด ก่อนยิ้มแหย หน้าเจื่อนแล้วรีบเดินหนีไป
ภูมินั่งมองรามนรีกับประกายฟ้า ที่ต่างแย่งกันตักอาหารมาป้อนเขา
“ทานอันนี้ก่อนนะคะพี่ภูมิ”
“อันนี้ด้วยค่ะ”
ภูมิอยากเอาใจ เลยกินเอาๆ จนเริ่มอิ่มมาก
“เดี๋ยวผมกินเองก็ได้ ไม่ต้องป้อนแล้วล่ะครับ”
รามนรีอยากแกล้ง
“งั้นเดี๋ยวฉันตักให้เองนะคะ”
สราญแอบสะกิดประกายฟ้า ให้ตักอาหารเอาใจภูมิ สู้กับรามนรี
“ฟ้าก็ตักให้นะคะพี่ภูมิ”
รามนรีกับประกายฟ้าแย่งกันตักอาหารให้ภูมิแบบไม่มีใครยอมใคร จนกองพะเนินเต็มจาน ภัทรมองภูมิ เห็นใจ
“พอแล้วล่ะมั้ง ถ้าเจ้าภูมิกินหมดนั่นมีหวังท้องแตกตายได้เลยนะหนูๆ”
สองสาวมองภัทร ยิ้มแหย ก่อนหันไปยิ้มหวานให้ภูมิ พูดพร้อมกัน
“กินให้หมดนะคะ”
ภูมิตาเหลือก มองอาหารในจาน ก่อนจำใจกิน ย่ามองสะใจ ระคนสมน้ำหน้าหลานชาย
ภูมิกลับมาที่ห้อง ทั้งท้องเสีย ทั้งอาเจียน รามนรียืนรอที่หน้าห้องน้ำ รีบเปิดประตูเข้าไปลูบหลัง และดูแลภูมิด้วยความห่วงใย รู้สึกผิด
“เป็นไง ไหวไหมคะคุณภูมิ”
“คุณไม่น่าหาเรื่องให้ผมเลย”
“หาเรื่องอะไร แล้วกินเข้าไปทำไมล่ะ เอาไง จะให้ฉันพาไปโรงพยาบาลไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น”
“งั้นดื่มน้ำหน่อยนะ”
ภูมิดื่มน้ำที่รามนรีป้อนให้ ก่อนยืนหอบตัวโยน
วิรัชนั่งหน้าหงิก กองแก้วถือกล่องอาหารเดินยิ้มร่าเข้ามาหอมแก้มเอาใจ
“คุณหายไปไหนมาตั้งนาน มือถือก็ติดต่อไม่ได้”
“บังเอิญแก้วเจอคุณผสาน ก็เลยคุยกันสักพัก แล้วก็ดันไปเจอเพื่อนเก่า เขาก็เลยชวนไปกินข้าวกัน แล้วแบตมันก็ดันมาหมดอีก ก็เลยไม่ได้โทรมาหาคุณ ขอโทษจริงๆ นะคะ”
“คราวหน้าห้ามทำอย่างนี้อีก รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน”
“โถๆๆ ขอโทษนะคะ คราวหน้าแก้วสัญญาว่าจะไม่ทำอีก นะคะ ไม่โกธรแก้วนะ ไปค่ะเดี๋ยวเราไปกินข้าวนะคะ”
วิรัชหน้าบึ้งมองหน้ากองแก้ว ก่อนคลี่ยิ้ม
“ไม่เป็นไร ผมอิ่มแล้ว”
กองแก้วมองงงๆ
“เพราะวันนี้ป้าผ่อง เขากลับมาอยู่กับเราแล้วนะคุณ”
กองแก้วตกใจ ก่อนรีบตั้งสติ
“อ้าว ก็ไล่ออกไปแล้ว ทำไมให้กลับมาอีกล่ะคะ”
“ก็ตอนนั้นผมโมโหที่เขาปล่อยให้ยัยหนูเล็กหนีไป แต่พอมาคิดอีกที ผมรู้สึกผิด แล้วเขาก็เป็นคนเก่าคนแก่ของแม่ยัยหนูเล็ก ผมก็เลยโทรไปขอโทษเขา ตามเขากลับมา”
กองแก้วเซ็ง พึมพำเบาๆ
“จะตามมันกลับมาทำไม”
“คุณพูดว่าอะไร ผมได้ยินไม่ถนัด”
“อ๋อ แก้วพูดว่า แก้วดีใจมาก ที่ป้าผ่องกลับมาค่ะ”
กองแก้วหันไปแสร้งทำเป็นหัวเราะดีใจกับวิรัช
“ได้ป้าผ่องกลับมาเอาฤกษ์เอาชัย แล้วต่อไป เราก็จะได้ยัยหนูเล็กกลับมา”
“ค่ะ”
“ต่อไป คุณก็จะได้ไม่ต้องวิ่งรอกไปไหนมาไหน จะได้อยู่ใกล้ๆ ผมตลอดเวลา”
วิรัชส่งสายตามองกองแก้ว ก่อนเข้าไปนัวเนีย กองแก้วขยะแขยง
รามนรีประคองภูมิเดินออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพหมดแรง
พามานั่งที่เตียง รีบคว้าอุปกรณ์ที่เคยวางขั้นกลางระหว่างเตียงโยนออกไป ก่อนประคองให้ภูมินอนลง ภูมิเหงื่อแตก และยังผะอืดผะอม ทำท่าจะอาเจียน รามนรีรีบเอายาดมจ่อที่จมูก และบีบนวดให้
“เดี๋ยวฉันจะไปเอาเกลือแร่มาให้ คุณหลับให้สบายไปก่อนนะ”
ภูมิหมดแรงผล็อยหลับไปอย่างว่าง่าย รามนรีอมยิ้มมอง
คืนนั้น สราญขับรถมาส่งประกายฟ้าที่บ้าน ประกายฟ้ารีบลงจากรถ แล้ววิ่งไปเปิดประตูให้ เพื่อเอาใจ
“เชิญค่ะคุณแม่”
“ขอบใจจ้ะ”
สราญก้าวออกมาจากรถหน้าเครียด ก่อนกวาดตามองไปรอบบ้านประกายฟ้า
“เดี๋ยวเชิญคุณแม่ด้านในดีกว่านะคะ”
ประกายฟ้าผายมือเชิญ
เภากับถวิล ช่วยกันทำความสะอาดครัวบ้านย่า รามนรีมาถึงหน้าประตู มองซ้ายมองขวาแล้วเข้ามาถาม
“พี่เภาคะ ขอถามอะไรหน่อยจะได้ไหมคะ”
“ได้สิค่ะ สำหรับคุณเดือนถามเยอะๆ ก็ได้ค่ะ”
“คุณสราญ แม่คุณภูมินี่ ตกลงแกเป็นคนยังไงกันแน่คะ”
เภาทำท่าขนลุก แล้วลดเสียงลงเป็นกระซิบ
“โอ๊ย สุดจะบรรยายค่ะ”
“ทำไมล่ะคะ”
“ก็คุณสราญแกแสบแซ่บปานนั้น เท่าที่คุณเดือนเห็นน่ะแค่ออเดิร์ฟ แกยังลงไม่เต็มองค์เลยนะคะ แล้วแกก็มีหลายองค์เกิ๊น”
“แล้วคุณประกายฟ้าล่ะคะ”
“นั่นเขาเป็นคู่หมายทางออนไลน์ ที่คุณสราญส่งรูปมาให้ทุกคนได้ดู แล้วก็ไปสัญญิงสัญญา เจรจาสู่ขอกับพ่อแม่เขาไว้ จะให้มาเป็นภรรยาคุณภูมิ แต่ถูกคุณเดือนชิงตัดหน้าไปก่อน นางถึงฟาดงวงฟาดงา อาละวาดจนวงแตก จนกรอบรูปแต่งงานของคุณเดือนแตกยับเยินไปด้วยไงคะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นเดือนขอตัวก่อนนะคะ”
รามนรีรีบเดินออกไป ถวิลตำหนิ
“ฉันว่าแกสาระแนมากเกินไปไหมนังเภา”
“สาระแน สาระแหน่อะไร ในเมื่อสิ่งที่ฉันพูดมันเรื่องจริงทั้งนั้น”
เภาเชิดใส่ถวิล
ประกันกับพวงศรี นั่งดูสารคดีอยู่ ประกายฟ้าพาสราญเดินเข้ามา
“แม่คะ คุณแม่พี่ภูมิ มาเยี่ยมค่ะ”
ทั้งสองหันขวับ หน้าเหวอ ไม่คิดว่าสราญจะมาถึงที่นี่
“อ้าว คุณพี่ มาได้ไงค่ะเนี่ย”
“ก็มีเรื่องร้อนใจน่ะสิคะ”
“แล้วคุณภัทรล่ะครับ”
“ขานั้นให้มาด้วยไม่ได้ ไม่งั้นมีหวังถูกคุณแม่ล้วงความลับกินตับไปหมดแน่”
“มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
“อ๊าย พูดแล้วขึ้น รู้สึกขัดจิตขัดใจกับอีนังสะใภ้เถื่อนนั่นจริงๆ”
“ผู้หญิงคนนี้ เขาไม่ธรรมดา เขากล้าว่าฟ้าต่อหน้าทุกคนเลยนะคะคุณแม่”
“มันว่าอะไรลูกแม่ หะ”
“มันไล่ฟ้าให้ไปนั่งห่างๆ พี่ภูมิ หาว่าฟ้าจะไปตีท้ายครัวมันค่ะแม่”
“มันก็จริงนี่ อุ้ย ไม่จริง นี่ มันกล้าว่าลูกแม่แรงขนาดนี้เลยเหรอ”
“ค่ะแม่”
“อย่าว่าแต่กับหนูฟ้า แม้แต่ฉันมันก็ยังแรงเลย”
“อุ้ยตาย อย่างนี้เอาไว้ไม่ได้ เราต้องจัดการมันนะคะคุณพี่”
“ก็ถึงได้รีบมาหาคุณน้อง มาให้ช่วยคิด ว่าจะทำยังไงกับอีเด็กนรกนี่ดี ถึงจะสาสมกับสิ่งที่มันทำ”
“แล้วทำไมคุณสราญไม่ไล่มันไปเลยล่ะครับ”
“อยากจะแย่ แต่ติดที่คุณแม่ถือหางมัน ท่านทั้งรักทั้งหลงมัน ถ้าแรงไป กลัวท่านจะไม่ยกสมบัติให้น่ะสิคะ”
“ว้า มีตัวกั๊กตัวกันอย่างนี้ ก็ไม่มันน่ะสิคะ”
“อืม มีข้อจำกัด เรื่องสมบัติอีก แต่ไม่เป็นไร เรามาช่วยกันคิด”
“ดีค่ะดี มีไอเดียอะไร ว่ามาได้เลยค่ะ”
ทุกคนสุมหัวกันวางแผนจัดการรามนรี
ขวดเกลือแร่วางอยู่ที่หัวเตียงภูมิ รามนรีนั่งกับพื้นเอาหน้าเกยเตียงหลับด้วยความเหนื่อยล้า ภูมิรู้สึกตัวงัวเงียกวาดตามองไป เห็นรามนรีหลับอยู่ข้างๆ เขามองหน้าหญิงสาวหลับตาพริ้ม ภูมิขยับตัวจะลุกขึ้น รามนรีรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามอง
“แอบมองผมทำไม”
รามนรีลุกขึ้นนั่ง
“ไม่ได้แอบสักหน่อย ตื่นแล้วก็มาดื่มเกลือแร่หน่อยนะคะ จะได้ไม่รู้สึกเพลีย”
รามนรียกแก้วเกลือแร่ไปป้อนให้ ภูมิส่งสายตาหวาน
“จะว่าไป คุณดูแลเทคแคร์คนเก่งยิ่งกว่าพยาบาลอีกนะเนี่ย ทำผมหายดีเลย แต่ผมว่าวันนี้คุณเล่นบทโหดใช้ได้เลยนะ”
“พอมีแรงก็เริ่มจะกวนละ ฉันจะขอบอกเอาไว้ ว่านี่แค่หนังตัวอย่าง ต่อไป ถ้าไม่ฟัง ยังเจ้าชู้ จะโดนหนักกว่านี้”
“ผมอยากจะรู้จัง ว่าเดือนฉายตัวจริง เขาจะหึงโหดอย่างคุณไหมน้า”
“เจอสามีกะล่อนปลิ้นป้อนอย่างนี้ ฉันว่าเขาน่าจะทำมากกว่าฉันแน่ๆ”
“ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเดือนฉายของผมเป็นคนเรียบร้อย จิตใจดี และมีเหตุผล ที่ผ่านมาขนาดผมมีกิ๊ก เขายังไม่ว่าอะไรเลย”
“เหรอ งั้นคุณก็รอให้เขากลับมา แล้วก็ลองทำให้เขาดู คุณจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง แล้วกรุณาอย่ามาจ้างฉันไปดูแล เพราะฉันจะไม่รับทำงานนี้แน่ จำไว้”
ภูมิทำตัวสั่นขนลุกซู่
“ไม่ดีกว่า ผมเป็นคนไม่ขอบลองของ แล้ววิถีของคนฉลาด จะทำให้เขารู้ทำไม”
“ไม่แน่จริงนี่นา”
“ขอบคุณมากนะที่ดูแลผมเป็นอย่างดี เดี๋ยวผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ ร้อนจัง”
รามนรีพยักหน้ายิ้มให้
ประกัน พวงศรี และประกายฟ้า นั่งคุยปรึกษากัน
“ดูรูปการแล้ว คุณสราญอยู่ข้างเราแน่นอน”
“คุณสราญน่ะมันชัวร์ ส่วนคุณภัทร ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะขานั้นไม่กล้าหือกับเมียอยู่แล้ว แต่ยัยคุณหญิงย่า ดูท่าจะยาก”
“นั่นหละคือปัญหาใหญ่ แล้วจะเอายังไง จะไหวเหรอลูก”
“ไม่ไหวก็ต้องไหวค่ะ ไม่ว่าจะยังไงหนูจะต้องเอาพี่ภูมิให้อยู่หมัดให้ได้”
“งั้นพรุ่งนี้เราสองแม่ลูกก็เดินตามแผน”
“อ้าว แล้วผมล่ะ”
“ก็อยู่ที่นี่รอฟังข่าว”
“แล้วถ้าเสี่ยอุดร เขามาล่ะ”
“คุณก็รับหน้าไปสิ”
“อีกละ”
“อุ้ยตาย เพิ่งนึกได้ ว่าเสี่ยอุดรเขาสั่งไว้ว่ารถสปอร์ตใกล้จะได้แล้ว แม่ว่าเดี๋ยวหนูโทรไปหาเขาหน่อยสิ เขาจะได้ไม่สงสัยเราไง”
“หนูไม่อยากได้อะไรจากเขาแล้ว เพราะถ้าหนูได้แต่งงานกับพี่ภูมิ มันคุ้มกว่า พี่ภูมิดีกว่า หล่อกว่า มีมากกว่าไอ้เสี่ยบ้านั่นตั้งหลายเท่า”
“ว้าย คิดอย่างนั้นไม่ได้นะลูก โบราณเขาว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก และกั๊กไว้ก่อน”
“ใช่ แม่เขาพูดถูก กั๊กไว้ก่อนแม่สอนไว้ จำไว้ให้ขึ้นใจเลยนะลูก”
“ถ้าหนูไม่ชอบเบนซ์ ก็ไม่เป็นไร เอามาให้แม่กับพ่อก็ได้นี่ลูก น่านะโทรไปหาเสี่ยเขาหน่อย รอเขาปล่อยของมาให้เราเยอะๆ แล้วค่อยหาทางชิ่ง”
“ก็ได้ค่ะ แต่ขอหนูอาบน้ำอาบท่าให้อารมณ์ดีกว่านี้ก่อนนะคะ”
“โอเคลูกโอเค ไปอาบน้ำให้ชื่นใจ แล้วรีบโทรไปหาเขาเลยนะ”
ประกันกับพวงศรีหันไปปะมือกันยิ้มดีใจ
ภัทรนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเตียงคุยโทรศัพท์กับกิ๊ก
“ชอบไหมตู้เย็นที่ป๋าซื้อให้”
ภัทรหัวเราะร่า
“ชอบมากเลยใช่ไหมล่ะ ที่คอนโดหนูยังขาดอะไร ก็บอกป๋ามาได้เลย เดี๋ยวป๋าจัดการให้ไม่ต้องห่วง”
สราญเปิดประตูเข้ามา ภัทรสะดุ้งเฮือกจนโทรศัพท์หล่นจากมือ
“นี่คุณเป็นอะไร เห็นฉันทำยังกับเห็นผี”
ภัทรกลบเกลื่อน รีบเดินไปหยิบมือถือมากดปิดเครื่อง แล้ววางไว้ไม่ให้สราญสงสัย
“ก็คุณเล่นเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง ผมก็ตกใจน่ะสิ”
“แล้วคุยกับใคร กับป๋าที่ไหน ฉันได้ยินเห็นเรียกป๋าๆ”
ภัทรหน้าเจื่อน รีบคิดหาทางเอาตัวรอด
“อ๋อๆ ผมกำลังคุยกับ กับ ป๋ากิ๊ก”
“คุณมีเพื่อนชื่อป๋ากิ๊กในสารบบด้วยเหรอ ทำไมฉันไม่คุ้นเลย”
“ก็คนที่ผมไปคุยมาวันนี้ไง เขาชื่อป๋ากิ๊ก”
“อ๋อ งั้นก็แล้วไป เดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ”
“จ้ะ จ้ะ ตามสบายเลยนะจ๊ะ”
“แล้วคุณอย่าเพิ่งหลับล่ะ ฉันมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”
“จ้ะได้จ้ะ ผมจะคอยนะ”
สราญยิ้มยั่วยวน
“คุณนี่ น่ารักที่สุดเลย”
ภัทรถอนใจโล่งอก ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ แต่ต้องสะดุ้งเมื่อสราญเดินถอยหลังกลับมา ภัทรรีบกลับไปนั่งที่เดิม
“ฉันลืมถามไปว่าเจ้าภูมิเป็นยังไง หายรึยัง ไม่งั้นฉันจะได้ไปดูลูกหน่อย”
“เมียตาภูมิ เขาดูแลจนหายดีแล้ว”
“พูดได้ไง ไม่กระดากปากบ้างรึไงกับคำว่าเมียตาภูมิเนี่ย ห้ามพูดคำนี้ให้ฉันได้ยินอีก ไม่งั้นมีเรื่อง”
“อ้าว ก็เขาเป็นผัวเมียกัน ผมเรียกอย่างนั้นมันผิดตรงไหนกันคุณ”
“ผิดตรงที่ฉันไม่พอใจ และไม่ยอมรับมัน เข้าใจ๋”
“งั้นก็เอาเป็นว่า คุณไม่ต้องเป็นห่วงเขา เอาเวลามาห่วงหนังหน้าตัวเองว่าจะเหี่ยวมากกว่าเก่าดีกว่าไหม”
สราญมองภัทร หน้าเหี้ยม ก่อนเดินเชิดออกไป ภัทรรีบวิ่งไปเอาโทรศัพท์มากดลบเบอร์กิ๊กทิ้ง มือไม้สั่น
เสี่ยอุดรขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน เปิดประตูออกมาจากรถ เสียงโทรศัพท์ดัง เห็นรูปประกายฟ้าก็ยิ้มดีใจ
“ทำไมเราใจตรงกันจัง เสี่ยกำลังจะโทรไปหาหนูอยู่พอดีเลย”
“เหรอคะ”
“หนูฟ้ารู้แล้วใช่ไหมว่ารถที่เสี่ยซื้อให้ กำลังจะได้แล้ว”
“รู้แล้วค่ะ ว่าแต่จะได้วันไหน ฟ้าจะได้เตรียมตัวรับของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะช่วงนี้เจ้าคุณย่า ให้ฟ้าไปหาบ่อยมาก”
“ไม่เป็นไร เสี่ยเข้าใจ ว่าแต่เจ้าคุณย่าให้หนูฟ้าไปหาทำไมเหรอ”
“ให้ไปฝึกเรียนรู้การเป็นกุลสตรีไทย และเรียนเย็บปักถักร้อยน่ะค่ะ”
“ดีๆ เหมือนเจ้าคุณย่าท่านจะรู้ว่าอีกไม่นานหนูฟ้าก็จะต้องมาเป็นเจ้าสาวของเสี่ยแล้ว”
ประกายฟ้าแอบแหวะใส่โทรศัทพ์
“ทำไมเงียบไป เขินใช่ไหมจ๊ะหนูฟ้า”
“คงงั้นมั้งคะ ช่วงนี้ฟ้าคงต้องรบกวนเสี่ยอย่าเพิ่งมาหา เพราะฟ้าไม่กล้าขัดเจ้าคุณย่า ถ้ามีอะไรแล้วเราค่อยโทรนัดกันอีกทีนะคะเสี่ย”
“ได้ แล้วเสี่ยจะโทรหาหนูฟ้านะ ช่วงที่เราไม่เจอกัน หนูฟ้าต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ”
“ค่ะเสี่ย”
“เสี่ยรักหนูฟ้ามากเลยนะ”
“ค่ะเสี่ย งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”
“นอนหลับฝันดี แล้วอย่าลืมฝันถึงเสี่ยคนนี้ด้วยนะจ๊ะ หนูฟ้า”
ประกายฟ้าโยนโทรศัพท์ทิ้งไปบนเตียงด้วยความรำคาญ
กลางคืน ย่ายืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองไปที่บ้านภูมิ ยิ้มพอใจ
“ไม่นึกเลยว่าหลานสะใภ้ที่ได้มาโดยไม่ตั้งใจคนนี้ จะทำให้ฉันมีความสุขได้มากมายเหลือเกิน”
“คุณเดือนฉายเป็นคนน่ารัก จิตใจดี คุณภูมิเลือกคนไม่ผิดจริงๆ ค่ะคุณท่าน”
“อืม มาถึงวันนี้ ฉันกล้าฟันธง ว่าหลานสะใภ้คนนี้แหละที่ฉันพอใจที่สุด”
บุญปลูกยิ้มเห็นด้วย ย่าเดินมานอน บุญปลูกห่มผ้าให้ ย่านอนหลับอย่างมีความสุข
สราญ นอนอยู่บนเตียง มีแตงกวาฝานบางๆ แปะอยู่ ภัทรมองสังเวชใจ
“คุยกันก่อน แล้วค่อยทำก็ได้นี่คุณ”
“ไม่ได้ ก็เมื่อกี้คุณยังบอกให้ฉันห่วงหนังหน้าอยู่หยกๆ แล้ววันนี้ก็มีแต่เรื่องเครียดๆ เพราะอีนังเด็กนั่นทั้งวัน”
“ก็ใครใช้ให้คุณไปเครียดล่ะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบ ไม่เอา ขืนให้มันอยู่ต่อ หน้าฉันต้องเหี่ยวเพิ่มขึ้นแน่ๆ”
“อย่าไปโทษเขา โทษความแก่ของเราดีกว่าไหม”
“ไม่ สมัยนี้ความสวยความเซี้ยไม่มีใครยอมใคร หน้าเหี่ยวก็ไปฉีดโบท็อกซ์ แต่ถ้าทั้งเหี่ยวทั้งยับยู่ยี่ ก็ไปฉีดสเต็มเซลล์ เห็นไหม คนอายุเจ็ดสิบแปดสิบ เขายังไปทำกัน จนสวยเช้งเลย”
“สวยเช้ง หน้าเด้งแต่เดินไม่ไหว ต้องถือไม้เท้าหรือไม่ก็คอยให้คนพยุงงั้นสิ”
“โอ๊ย พูดซะเห็นภาพเลย เปลี่ยนเรื่องๆ นี่ ฉันต้องการให้คุณไปจัดการกับคุณแม่ให้เขาเปลี่ยนใจ ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะไล่นังเด็กเดือนฉาย ออกไปจากบ้านนี้ จากตาภูมิให้เร็วที่สุด ฉันไม่อยากเปิดศึกกับคุณแม่ และเบื่อที่จะต้องคอยตีสองหน้าแสร้งว่ารัก”
“ขนาดคุณยังไม่กล้า แล้วผมจะไปมีปัญญาอะไร”
“ฉันกล้า แต่ฉันกลัวจะไม่ได้สมบัติคุณแม่ เลยต้องข่มใจ”
สราญแกะแตงกวาที่แปะอยู่เบ้าตาออก ส่งสายตาอำมหิตใส่ภัทร
“และห้ามคุณบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ไม่งั้นตาย ฉันมีเรื่องคุยแค่นี้”
สราญเอาแตงกวามาแปะที่ตาตามเดิม แล้วนอนนิ่ง ภัทรรำคาญมาก
จบตอนที่ 14