MGR Online - บช.น.ระดมผลการกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 18-22 ธ.ค. 58 ยึดอาวุธปืน 63 กระบอก วัตถุระเบิด 6 ลูก จับผู้ต้องหาได้ 70 ราย โดยในจำนวนนี้มีการจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางเฟซบุ๊ก
วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.น.ดูแลงานป้องกันปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธปืน อาวุธปืนสงคราม เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ของ บก.น.1-9 บก.สปพ. ระหว่างวันที่ 18-22 ธ.ค.ในพื้นที่ กทม. เพื่อเป็นการป้องกันเหตุและปราบปรามอาชญากรรมต่างๆ ให้แก่พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส และเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2559
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานในสังกัด บช.น.ระดมกำลังสืบสวนหาข่าว ติดตามจับกุม และดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดในพื้นที่ บช.น.สามารถจับกุมคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 70 ราย อาวุธปืนของกลาง 63 กระบอก แบ่งออกเป็น อาวุธปืนมีทะเบียน 9 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 54 กระบอก กระสุนปืนชนิดต่างๆ 521 นัด วัตถุระเบิด 6 ลูก คดีเกี่ยวกับยาเสพติดจับกุมผู้ต้องหาได้ 434 ราย และคดีเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว บุคคลปล่อยเงินกู้นอกระบบ บุคคลเป็นนายทุนเกี่ยวข้องกับบุคคลต่างด้าว บุคคลที่เป็นเครือข่ายผู้มีอิทธิพล การพนัน สถานบริการ การกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 และคดีอื่นๆ รวมจับกุมผู้ต้องหา 664 ราย อย่างไรก็ตาม ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ บก.จร.ได้สั่งการกรณีการตรวจสอบสถานบันเทิงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเกิดเพลิงไหมซานติก้าผับ เมื่อปี พ.ศ. 2552 รวมถึงตรวจสอบพื้นที่สุ่มเสี่ยงเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลปีใหม่
ส่วนคดีที่น่าสนใจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ภีมเสน ขจรประศาสน์ รอง ผบก.สปพ. สั่งการ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.กมล พลสมัคร รอง ผกก.สายตรวจ พ.ต.ต.นันทพล ทองน่วม สว.สายตรวจ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนงานสายตรวจ 1 จับกุมนายพยับ จำปาสัก อายุ 37 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. มีเลขทะเบียน 1 กระบอก แมกกาซีนใส่กระสุนขนาด 9 มม. 2 อัน กล่องใส่ปืนพลาสติกสีดำ 1 ใบ ซองปืนผ้าสีดำ 1 อัน ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน โทรศัพท์ 1 เครื่อง จับกุมได้บริเวณห้างเจเจเฮ้าส์เลต ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. เมื่อวันที่21ธ.ค.เวลาประมาณ 17.30 น. จากการสอบสวนทราบว่าทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่ง แต่ได้รับจ็อบจำหน่ายอาวุธปืนเป็นอาชีพเสริมผ่านเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า สุชาติ ตาลหวาน ภายหลังทำการซื้อขายปืน โดยได้ทำการล่อซื้อบริเวณ ห้างเจเจเฮ้าส์เลต เมื่อนายพยับได้นำปืนมาแล้วถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวจึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีที่ สน.นพวงศ์
ส่วนอีกคดีลักษณะเดียวกันจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาอีก 2 ราย เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี จับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 6 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 18 นัด เครื่องเชื่อมเหล็ก 1 เครื่อง เครื่องตัดเหล็ก 1 เครื่อง กล่องพัสดุไปรษณีย์ 5 กล่อง จับกุมได้บริเวณบันไดทางขึ้นหน้าไปรษณีย์สายไหม ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.เมื่อวันที่ 23 พ.ย.เวลาประมาณ 14.15 น. จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวมีการจำหน่ายอาวุธปืนทางเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า บรรเจิด เจิดจ้า และ Pitak Phonchatree จึงได้ทำการล่อซื้ออาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ราคากระบอกละ 800 บาท ส่งผ่านไปรษณีย์ พร้อมทั้งขยายผลการตรวจค้นบ้านเลขที่ 69/8-9 ซอยหนองระแหง 5/1 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. พบเครื่องกระสุนและผลิตอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำประกอบมีหรือจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนสำหรับการค้า โดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ต่อไป