เลขาธิการ ปชป.ชี้ปรองดองเกิดได้ต้องมาจากหัวใจจริง ไม่ใช่กฎหมายบังคับ ติงแผลเริ่มแห้งไม่ควรสะกิดให้มีเลือด แนะ กมธ.สันติสุขใช้ข้อมูลจากคณะกรรมการในอดีต เผย ปชป.ไม่ร่วมให้ความเห็นเพราะประชุมไม่ได้ ส่วนใครจะไปต้องในนามส่วนตัว
นายจุติ ไกรกฤษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุขว่า ตนมองว่ามีเจตนาดี แต่ความปรองดองไม่ได้เกิดจากการมีคณะกรรมการ แต่ต้องพิจารณาองค์ประกอบว่าต้นเหตุของความไม่ปรองดองเกิดจากปัญหาอะไรและแก้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่มา 1 ปี บ้านเมืองสงบขึ้นเพราะอย่างน้อยการเมืองแต่ละซีกหยุดโจมตีให้ร้ายกัน สื่อบางส่วนบางสถานี วิทยุชุมชนบางแห่งก็ถูกปิดไปเพราะไม่มีการบิดเบือนปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกอีก ดังนั้น องค์ประกอบไม่ใช่หันมาคุยกันเฉยๆ ทั้งกองเชียร์ กระบอกเสียง ต้นเหตุความขัดแย้งต้องแก้ไขได้ด้วย เพราะการปรองดองต้องมาจากหัวใจที่ให้อภัยและลืมความหลัง ไม่ใช่จากการบังคับของกฎหมาย หรือมาตรการทางสังคม ดังนั้น หวังว่าคณะกรรมการจะคิดเผื่อไปนอกเหนือจากแค่การจับเข่าคุยกัน และเราจะสนองตอบความต้องการของแต่ละฝ่ายได้ขนาดไหน เพราะบางเรื่องก็มีข้อจำกัดในเรื่องข้อกฎหมาย ที่เป็นคดีอาญาไปแล้วไม่สามารถมีอำนาจเหนือกฎหมายหรือเหนือศาลได้
ส่วนที่มีการเสนอให้นายกฯใช้อำนาจมาตรา 44 นิรโทษกรรมนั้น นายจุติกล่าวว่า ต้องแยกแยะ อย่าเอาความผิดเพียงแค่ชุมนุมมาปะปนกับโทษประหาร เพราะต่างกรรมต่างวาระ และมูลเหตุในการทำก็คนละเรื่องกัน สมมติจะเสนอนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุมที่ถูกปลุกปั่นยุยง บิดเบือนข่าวแล้วมาชุมนุมผิดกฎหมาย ต่างกลับผู้นำชี้เป้า เผาเมือง อันนี้ต่างกัน และเชื่อว่าประชาชนคนไทยไม่เห็นด้วยต่อการนิรโทษกรรมคดีทุจริตทั้งหลายถ้าจะมีผู้เสนอรวมเข้าไปด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางพรรคประชาธิปัตย์จะให้ความร่วมมือด้วยการเสนอความเห็นต่อคณะกรรมาธิการฯ หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขณะนี้ทางพรรคประชุมไม่ได้ ถ้าไปต้องไปในนามส่วนตัว ที่ผ่านมามีการศึกษาข้อมูลจากหลายคณะ ทั้งของนายคณิต ณ นคร ประธานกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) นายอานันท์ ปันยารชุน คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ หรือ นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะสมัชชาปฏิรูปประเทศ ต่างทำการศึกษามีข้อมูลเก็บอยู่เต็มตู้ กรรมาธิการฯควรจะให้ความสำคัญ และหยิบมาใช้ให้เป็นประโยชน์
“วันนี้แผลสะเก็ดแห้งไปแล้ว มาสะกิดให้เลือดออกทำไม ถึงแม้จะเลี่ยงคำเรียกคณะกรรมการจากปรองดองมาเป็นสันติสุข ก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน เหมือนกับเปลี่ยนจากดื่มโค๊กมาดื่มแป๊บซี่ หรือเปลี่ยนจากใช้สบู่ก้อนซันไลต์มาเป็นน้ำยาซันไลต์”