นายกฯ ให้โอวาทเยาวชนดีเด่น 772 คน ระบุ รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาการศึกษาทั้งระบบ รองรับประชาคมอาเซียน ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน โอดคนไทยไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นกับดักปฏิรูป ย้ำ ไม่มีใครเท่าเทียม แต่ทำให้เท่ากันได้คือกฎหมาย สอนอย่าทำตัวเป็นปลาทอง มีสมองนิดเดียว ต้องรับผิดชอบให้มากกว่า ฝากช่วยกันคืนความสุขร่วมกับตัวเอง ต้องเชื่อมั่นกฎหมาย โวไม่เคยโกหกใคร จำคำพูดได้ทุกอัน ครวญสงสารเด็กวาดรูป บอกพ่อแม่สวนยางไม่มีรายได้ แต่จะให้ช่วยแบบเดิม ๆ ก็ลำบาก
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 772 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ ให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกคน ซึ่งถือเป็นตัวแทนของเด็กไทยทั้งประเทศ ทุกคนถือเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและประเทศ และขอให้บันทึกสิ่งที่ได้รับมาวันนี้เป็นความภาคภูมิใจ และนำพาคนอื่นให้ดีไปด้วย เราต้องสร้างประวัติศาสตร์ที่ดีต่อตัวเองและสังคมซึ่งทรัพยากรมนุษย์เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของประเทศ ประเทศไทยนั้นมีคนไทยที่ไม่ด้อยความรู้ความสามารถ โดยมีเอกลักษณ์ของเราคือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน มีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม คนไทยเป็นคนโอบอ้อมอารี และค่อนข้างละเอียดอ่อน ความรักต้องรักด้วยเหตุและผล วันนี้ที่ได้รับรางวัลคือผลที่ตั้งใจจากการศึกษาเล่าเรียนจนได้รับการยอมรับ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของบ้านเมือง จำเป็นต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ทั้งปัจจุบันและอนาคต รัฐบาลกำลังแก้ไขพัฒนาปรับปรุงการศึกษาทุกระบบให้ดีขึ้น และกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในทุก ๆ ด้าน ต้องอาศัยความร่วมมือจาก 10 ประเทศอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่มีเขตชายแดนติดต่อ ถ้าเราสร้างคนของเราและเพื่อนบ้านมีความเท่าเทียม ก็จะลดความขัดแย้งทั้งปัจจุบันและอนาคตลงได้ การค้าขายก็จะมีความไว้เนื้อเชื่อใจ ตนเข้าใจเพราะเป็นเด็กมาก่อน ย่อมรู้ว่าตั้งแต่เด็กจนเป็นนายกฯ ทำอะไรดีบ้าง อะไรที่ไม่ดีก็อย่าไปทำอีก ข้อสำคัญอย่าทำให้สังคมพ่อแม่เดือดร้อน วันนี้เราต้องระดมสรรพกำลังดูแลการศึกษาประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปฏิรูปของรัฐบาลปัจจุบัน ทุกรัฐบาลต้องให้ความสำคัญการศึกษา ไม่ใช่มองแค่งบประมาณอย่างเดียว เราต้องร่วมกันทั้งหมดในการปฏิรูป โดยเริ่มจากตัวเองก่อน การปฏิรูปไม่สามารถบังคับโดยนายกรัฐมนตรี รัฐบาล หรือใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ได้ เพราะเป็นความสมัครใจจากทุกคนและเป็นความใฝ่ดี ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างบูรณาการจากทุกภาคส่วน
“สิ่งที่เราต้องพัฒนาต่อไป นอกจากความรู้ คือ การเรียนรู้ มีประสบการณ์ชีวิตที่จะอยู่ในสังคมต่อไป ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีการแข่งขันมากขึ้นทั้งอาชีพ รายได้ และขีดความสามารถ เราต้องพัฒนาตัวเอง ต้องปรับหลักสูตรการศึกษาให้พัฒนาปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อมีมาตรการในการลดความเสี่ยงของประเทศในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า ผมพยายามเริ่มต้นให้ทุกอย่าง ผมมีเวลาอยู่กับท่านปีครึ่ง จะทำทุกอย่างให้เป็นผลสัมฤทธิ์ให้ได้ มีอนาคต และเดินไปตามเป้าหมายที่ต้องการ สิ่งที่เป็นปัญหาในปัจจุบันคือ เรามีเด็กเล็กจำนวนมาก และเติบโตขึ้นมาทุกวัน ครอบครัวใหญ่ขึ้น ในอีก 20 - 25 ปีข้างหน้าจะมีประชากรโลกเพิ่มขึ้นถึง 5 พันล้านคน แต่ทรัพยากรน้ำจะลดลงไปอีก 50% ซึ่งประเทศไทยพยายามปรับปรุงทุกอย่าง และถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หลายส่วน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม การต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายเรื่องที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนเป็นการวางพื้นฐานในระยะยาว เวลาที่เหลืออยู่ปีครึ่ง ตนพยายามทำทุกอย่างเพื่ออนาคตประเทศไทย สิ่งที่ทำทุกอย่างต้องมีความขัดแย้ง เพราะประเทศไทยไม่ค่อยยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ค่อยยอมรับความแตกต่าง ถือเป็นกับดักตัวเองอย่างถาวร ถ้ารู้จักการเรียนรู้ ยอมรับสิ่งที่ดีมา แล้วนำมาเป็นแบบอย่างของตัวเองสังคมและพ่อแม่ สังคมก็จะสงบแน่นอน เพราะมีความสุขขึ้น วันนี้อย่าไปทำร้ายจิตใจพ่อแม่ สิ่งที่ต้องพัฒนาจนอกจากการเรียนรู้ คือ ทำให้ร่างกายเข้มแข็ง ต้องมีการออกกำลังกาย อย่าปล่อยให้อ้วนหรือผอมเกินไป อย่าแก้ทุกปัญหาที่ปลายเหตุ ต้องแก้จากต้นเหตุเริ่มจากตัวเอง ต้องร่วมมือรัฐบาลได้อย่างไร อย่างงบการรักษาพยาบาล บัตรทอง 30 บาท รัฐบาลต้องทำให้อยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ งบประมาณมีจำกัดแต่ทุกคนสามารถช่วยได้ ไม่ถึงขั้นที่ต้องสนับสนุนเงิน เพียงแต่ให้ทุกคนรักษาสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง ไม่ต้องไปพบแพทย์
“ประเทศไทยไม่มีอะไรทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันได้อย่างแท้จริงบนโลกใบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้โลกมีความเท่าเทียมได้คือกฎหมาย ดังนั้น ทุกคนจำเป็นต้องเคารพกฏหมาย ต้องเรียนรู้ว่ากฎหมายมีไว้เพื่อยุติความรุนแรง ทำให้สังคมสงบ ถ้าทุกอย่างเดินหน้าไปตามปกติ การกระทบกระทั่ง ความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ก็จะลดลง เรื่องทุจริตก็ทำไม่ได้ ถ้าเราไม่ทำความผิดก็เล่นงานไม่ได้ แต่ถ้าจะมีการใช้อำนาจในทางที่ผิดก็มีช่องทางฟ้องร้องได้ อย่าไปคิดหรือโทษว่ากฎหมายแรงหรืออ่อนไป วันนี้รัฐบาลออกกกฎหมายเรื่องขับขี่จักรยานยนต์แต่ก็ยังตายเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม ยึดรถก็ยังตายเท่าเดิม สรุปต้องปฏิรูปตัวเอง ไม่มีกฎหมายอะไรแรงกว่านี้ เหลืออย่างเดียวคือเอาศพไปขังด้วย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ทำอะไรต้องนึกถึงคนข้างหลัง ทำอะไรอย่าไปละเมิดสิทธิคนอื่น ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ วันนี้นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุกคนที่ไม่ได้มีความผิด มีสิทธิเสรีภาพ 100% จะไปไหนมาไหนก็ได้ พูดจาอะไรก็ได้แต่อะไรที่จะสร้างความขัดแย้ง ต่อต้านการทำงานของรัฐบาล ก็เป็นกฎหมายที่เขียนไว้แล้ว ซึ่งถ้าไม่ปฏิบัติตามกฏหมายก็ไม่เป็นประโยชน์ ก็จะทะเลาะกันตลอดเวลา เราต้องรู้จักหน้าที่ ต้องเคารพหน้าที่ของตัวเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มนุษย์มีความแตกต่างจากสัตว์เพราะเรามีสติปัญญา เราอย่าทำตัวเหมือนปลาทองที่มีสมองเล็กนิดเดียว มีความจำไม่ถึงวินาที ไม่ต้องคิดอะไร หิวก็กิน ว่ายน้ำ อ้าปาก ปล่อยหวอด กินอาหารปล่อยอึออกมา ทั้งชีวิตมีแค่นี้ แต่เราต้องทำให้ได้มากกว่าปลาทองหมื่นเท่า เราต้องทำให้มากกว่าทั้งภาระความรับผิดชอบหน้าที่ และสำคัญที่สุดคือภารกิจต่อประเทศ อย่างคำขวัญวันเด็กของผม เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต นั้นเชื่อมโยงทั้งวันเด็กและวันครู วันนี้รัฐบาลกำลังทำเพื่ออนาคต ปฏิรูปประเทศระยะที่ 1 ถึงกรกฎาคม 2560 ถ้ามีการเลือกตั้งก็ไปเลือกตั้งมา หลังจากนั้นเป็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ 20 ปี วันนี้สมองตนใช้เยอะมากจนเกือบเป็นสมองปลาทองแล้ว ใช้มากทั้งปฏิรูป เดินหน้าประเทศ ลดความขัดแย้ง การบริหารราชการอีก 20 กระทรวง ข้าราชการอีก 2 ล้านคน เราต้องทำใหม่ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นประเทศจะยืนอยู่ที่เดิม วันหน้าเราไม่ทัดเทียมกับประเทศอื่น
“วันนี้อยากให้ทุกคนช่วยกันคืนความสุขให้ประเทศไทยร่วมกับผม ซึ่งผมและรัฐบาลไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต่อให้มีอำนาจล้นฟ้าก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นการสร้างความขัดแย้ง ต้องแยกแยะให้ออกว่าใครทำดี ใครไม่ดี ทั้งหมดตัดสินด้วยกฎหมายและกระบวนการยุติรรม เราต้องเชื่อมั่นกฎหมาย เพราะถ้าไม่เชื่อการพิจารณาของศาลเฉพาะคดีนี้มันไปไม่ได้ ศาลก็ล้มเหลว ข้าราชการตำรวจดีมีเยอะกว่าไม่ดี แต่ก็อาจมีบางคนไม่ดีบ้าง ซึ่งเราต้องปฏิรูปให้ได้ วันนี้มันมีคนไม่ดีทุกที่ ทำอย่างไรให้คนไม่ดีลดลง หรือไม่ไปสร้างความเดือดร้อนคนอื่น สำหรับตนตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เคยโกหกคน เพราะคำพูดเป็นนายตัวเอง ผมจำคำพูดได้ทุกอัน แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง เพราะผมทำคนเดียวไม่ได้ ทุกคนอยากได้ทั้งหมด แต่พอให้เข้ามาอยู่ในระบบก็ไม่เอา ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยกฏหมาย รัฐบาลนี้พยายามใช้กฎหมายให้น้อยที่สุด เพราะไม่อยากเห็นคนทำผิด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเด็กที่วาดรูปส่งมาให้ตนก็เห็นใจ สงสาร กดดัน เพราะรู้ว่าลำบาก พ่อแม่ไม่มีรายได้ เขียนมาว่าอยากให้ทำราคายางสูงขึ้น ก็พยายามทำทุกอย่าง แต่ถ้าใช้วีการแก้ปัญหาเดิมๆ ก็ลำบาก เพราะมีสวนยางเกินที่ควรจะปลูก ทำให้ผลผลิตเกินความต้องการ ซึ่งทุกประเทศราคาถูกกว่าประเทศเรา ก็ต้องเร่งรัดการพัฒนาผลิตใช้ในประเทศ วันนี้เป็นช่วงเตรียมการผลิตให้เร็วอย่างน้อย 30% ซึ่งสั่งไปแล้วซึ่งจะนำไปทำถนน สนามกีฬาตามโรงเรียนต่างๆ ยางสำหรับรองสระน้ำเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้หรือยางกันลื่นในห้องน้ำ หรือใช้เพื่อออกกำลังกาย วันนี้เราต้องคิดใหม่ การคิดนอกกรอบไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่อย่าไปสร้างความขัดแย้ง อย่าไปฝืนกติกาซึ่งต้องดูถึงกฎระเบียบและกติกาด้วย
“รู้หรือไม่ว่า กว่าจะมาถึงการกู้ชาติได้ เรารู้ถึงความลำบากแค่ไหน ฝากไว้ให้ทุกคนในฐานะอนาคตของชาติ ในวันเด็ก ในวันเสาร์ที่ 9 ม.ค. ขอให้เป็นก้าวชีวิตใหม่ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ผมขอเป็นตัวแทนรัฐบาลส่งความปรารถนาดีไปให้คนทั้งประเทศ ทั้งบุคลากรครู เดินหน้าสำเร็จเพื่อประเทศ และแผ่นดินแหลมทองให้เป็นศูนย์กลางของอาเซียน อย่าคิดว่าจะได้อะไรจากประเทศ แต่ขอให้ทำเพื่อประเทศ เออีซีไม่ได้เอาเงินมาแจก แต่เราต้องพัฒนาตัวเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังเสร็จสิ้นให้โอวาท นายกรัฐมนตรี มอบกระเช้าของที่ระลึกแก่ตัวแทนเด็กและเยาวชนที่ร่วมรับฟัง และได้ถ่ายรูปร่วมกับตัวแทนนักเรียนพร้อมเดินดูของขวัญต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ จากโรงเรียนต่าง ๆ ได้ส่งมาให้เนื่องในโอกาสปีใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปภาพที่เด็ก ๆ วาดภาพเหมือนนายกฯ ในอิริยาบทต่าง ๆ จากนั้นนายกฯ ได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า โดยตรงจุดทางเชื่อมได้มีผู้ปกครองและเด็กๆ ยืนรอระหว่างทางจำนวนมากเพื่อขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งนายกฯ ได้ถ่ายรูปร่วมกับครู ผู้ปกครองและเด็ก ๆ ที่มาให้กำลังใจนายกฯ ในการทำงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส.
อ่านประกอบ : นายกฯ เตือนชาวสวนยางชุมนุมก็เจอคดี ลั่นไม่คุย-ไม่ให้ ยันช่วยอยู่แต่ก็ต้องปฏิรูปตนเองด้วย