“ชุดคลุมรถอัจฉริยะ” ชูสะดวก+ง่าย ผลงานนักประดิษฐ์ไทย ไอเดียบรรเจิด (ชมคลิป)

“ชุดคลุมรถอัจฉริยะ” คือ ผลงานประดิษฐ์ส่วนผสมระหว่าง “เต็นท์” กับ “ผ้าคลุมรถ”สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อหวังแก้ปัญหาอุปกรณ์คลุมรถยนต์ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน ใช้งานค่อนข้างยาก นับเป็นไอเดียนำเสนอผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีการมาก่อนในโลก

ผลงานดังกล่าว สร้างสรรค์โดย “สมชาย ตั้งปัญจศิล” จาก บ.โชคชัยอนันต์ จก. ซึ่งที่ผ่านมา บริษัททำผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมเป็นของตัวเองมาแล้วหลายตัว เช่น ตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์ ป้ายโฆษณาภาพ 3 มิติ เป็นต้น

ส่วนแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นมาประดิษฐ์ “ชุดคลุมรถอัจฉริยะ” นั้น สมชายเล่าให้ฟังว่า มาจากเพื่อนคนหนึ่ง เล่าปัญหาในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการจอดรถยนต์ข้างทาง หรือจอดรถหน้าบ้าน มักเจอสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ยางไม้ ขี้นก และฝุ่น มาตกหรือติดใส่รถ โดยที่ผ่านมา แก้ปัญหาด้วยการซื้อเต็นท์ผ้าใบมากางจอดรถ แต่เนื่องจาก เต็นท์มีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะจะวางหน้าบ้าน หรือไปซื้อผ้าคลุมรถมาใช้ ก็มีปัญหาคลุมได้ยาก ใช้ไม่กี่ครั้ง ก็ต้องเลิกคลุม เพราะไม่มีความสะดวก

“จากที่เพื่อนคนนี้ มาเล่าปัญหา ผมเลยกลับมาย้อนคิดว่า แทบทุกคนเคยซื้อผ้าคลุมรถมาใช้ แต่หลังซื้อมาแล้ว 90% ก็จะใช้ไม่กี่ครั้ง เพราะคลุมยาก ไม่สะดวก หรือจะซื้อเป็นเต็นท์มาจอดรถหน้าบ้าน สำหรับคนกรุงเทพฯ พื้นที่ค่อนข้างจำกัด จะวางเต็นท์ถาวรก็จะไปเกะกะเพื่อนบ้านอีก ทำให้ผมอยากสร้างอุปกรณ์ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้” สมชาย กล่าวนำ

เขาเผยต่อว่า เบื้องต้นลองไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ศึกษาสินค้าเกี่ยวข้องที่ขายอยู่ในต่างประเทศต่างๆ พบว่ามีอุปกรณ์ “เต็นท์คลุมรถแบบพกพา” ซึ่งจะเป็นเต็นท์ที่เป็นโครงเหล็ก สามารถยื่นและขยายได้โดยใช้ล้อ ทว่า มีปัญหาเวลาเกิดลมพัดแรงๆ ตัวเต็นท์ที่เป็นโครงเหล็กจะถูกพัดมากระแทกรถได้

จากปัญหาต่างๆ ที่เห็นในสินค้าของต่างประเทศ รวมถึง ประมวลอุปสรรคการใช้งานของคนทั่วไป สมชายใช้จินตนาการต่อเนื่อง มาแก้ปัญหาดังกล่าว กลายเป็นไอเดียอุปกรณ์ “ชุดคลุมรถอัจฉริยะ” โดยเป็นโครงเต็นท์รถผสมกับผ้าคลุมรถ ส่วนโครงจะยื่นขยายไปบนตัวรถโดยอาศัย “ล้อ” วิ่งไล่ไปตามรถ ตั้งแต่ส่วนหลังคาไปถึงกระโปรงหน้ารถ ซึ่งส่วนผ้าคลุมจะติดอยู่กับตัวโครง เมื่อโครงยื่นขยายออกไป ผ้าก็จะคลุมไปตามตัวรถ และที่สำคัญ ส่วน “ล้อ” ที่วิ่งไปตามตัวรถนั้น ทำมาจาก “ยางฟองน้ำ” ที่มีคุณสมบัติอ่อนนุ่น จึงไม่เกิดรอยบนตัวรถ

“การออกแบบของผม เกิดจากการนำปัญหาของผู้ใช้งานมาเป็นโจทย์ แล้วศึกษาอุปกรณ์ในต่างประเทศมาประกอบ รวมถึงใช้จินตนาการตัวเอง จนได้อุปกรณ์ตัวนี้ ซึ่งมันเป็นความคิดนอกกรอบ ที่จะเอาล้อมาวิ่งบนตัวรถ เพราะทุกคนต้องกลัวว่า รถจะเป็นรอย ผมเลยคิดประดิษฐ์ล้อที่ทำมาจากยางฟองน้ำ ซึ่งอ่อนนุ่น มีน้ำหนักเบา แต่ก็ยังสามารถวิ่งเลื่อนไปได้”

ทั้งนี้ ในส่วนตัวโครงนั้น ทำมาจาก “อะลูมิเนียม” น้ำหนักเพียง 3 กรัมเท่านั้น ส่วนตัวผ้าคลุมเป็น “ผ้าร่ม” สั่งตัดเย็บขึ้นเอง มีคุณสมบัติเหนียวและแข็งแรงสูง โดยน้ำหนักรวมของ“ชุดคลุมรถอัจฉริยะ” ประมาณ 1 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่

วิธีการใช้งาน โดยนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปวางบนส่วนหลังคารถ แล้วเลื่อนโครงขยายไปตามตัวรถ ซึ่งส่วนผ้าคลุมที่ติดอยู่บนโครงก็จะคลุมรถตามไปด้วย ขณะที่ส่วนปลายผ้าจะเป็นยางเพื่อจะใช้รัดมุมทั้ง 4 ของรถพอดี ใช้เวลาไม่ถึงนาที ก็สามารถคลุมรถเสร็จแล้ว

สมชาย ระบุว่า ใช้เวลาพัฒนาอุปกรณ์ตัวนี้ นานถึง 3 ปี กว่าจะได้ตัวนี้ ปรับปรุงมาแล้วถึง 3 รุ่น ใช้เงินลงทุนหลักแสนบาท ขณะนี้ได้จดสิทธิบัตรด้านการออกแบบ และอนุสิทธิบัตรด้านสิ่งประดิษฐ์ไว้แล้ว และกำลังดำเนินการทำเครื่องหมายการค้าอยู่ เบื้องต้นทำออกมา 3 ขนาด ได้แก่ ขนาด S เหมาะกับรถขนาดเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มอีโคคาร์ ขนาด M สำหรับรถขนาดกลาง และขนาด L สำหรับรถขนาดใหญ่ ราคา 5,000 บาท 6,000 บาท และ 7,000 บาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้ทำออกมาจำนวน 500 ชุด เริ่มเปิดตัว เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมานี่เอง ในงาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ณ ตลาดคลองผดุง กรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล จัดโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) โดยวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้ที่คนใช้รถทั่วไปที่ต้องจอดรถไว้กลางแจ้งเสมอ วัตถุประสงค์หลักของอุปกรณ์ตัวนี้ คือ ป้องกันความสกปรก เช่น ยางไม้ ขี้นก ฝุ่น รวมถึง ป้องกันแดด ส่วน “ฝน” อาจจะมีน้ำซึมเข้าบ้างตามแนวตะเข็บเย็บ อายุการใช้งานเฉลี่ย 3 ปี

ด้านช่องทางตลาดต่อไป จะอาศัยช่องทางขายผ่านทางออนไลน์ ขายตรง และออกบูทตามหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ มีบริการหลังการขาย โดยส่วนตัวโครงสร้าง รับประกัน 5 ปี ส่วนตัวผ้ารับประกัน 3 ปี หากตัวผ้าขาด บริการรับเปลี่ยน ราคา 1,200-1,900 บาท (แล้วแต่ขนาด)

เขา มองโอกาสทางการตลาดของอุปกรณ์ตัวนี้ ว่า เชื่อเป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้องการอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีอุปกรณ์นี้มาก่อนในโลก อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นนวัตกรรมใหม่ จำเป็นต้องอาศัยการอธิบายแก่ผู้ซื้อเชิงลึก รวมถึง ต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ซื้อประกอบด้วย ดังนั้น เบื้องต้น ใช้จะสินค้า 500 ชุด เพื่อทดสอบตลาด ดูการตอบรับของผู้บริโภค ถ้าได้ผลดี จะมีการขยายการผลิตต่อไป ซึ่งจะทำให้ต้นทุนผลิตลดลง สามารถขายได้ในราคาประหยัดต่ำลง

“ปัญหาของผู้ผลิตสินค้านวัตกรรม หรือสินค้าแปลกใหม่ไม่เคยมีการก่อนในท้องตลาด คือ เวลาจะไปจ้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนใดๆ ก็ตาม ซึ่งไม่เคยมีก่อน และสั่งทำปริมาณน้อยชิ้น ต้นทุนจะสูงมาก ราคาสินค้าที่จะขายเลยสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าในอนาคต สามารถผลิตแบบแมสได้ ต้นทุนการผลิตก็จะลดตามไปด้วย” นักประดิษฐ์ไทย กล่าว

สมชาย กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมเสมอ เพราะมาจากประสบการณ์ในอดีต เคยทำธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าจากต่างประเทศ มักเจอปัญหาคู่แข่งเข้ามาชิงตลาดแล้วขายตัดราคา หลังจากนั้น จึงหันมาทำธุรกิจที่ต้องการจะมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง เพื่อสามารถสร้างตลาดของตัวเอง และหลีกหนีการแข่งขันเรื่องราคา

ติดต่อธุรกิจ โทร.08-6389-6364








* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *