นายกรัฐมนตรีเปิดงานแสดงสินค้าโอทอป แนะผู้ประกอบการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์พัฒนาสินค้า สร้างเสริมความรู้ ให้มีการพัฒนานอกจากภูมิปัญญา พร้อมร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ระบุเดินหน้า “ประชารัฐ” สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ย้ำต้องเร่งสร้างรายได้ด้วยสติปัญญา ระบุไม่รับปากการพัฒนาประเทศภายใน 2-3 ปี บางเรื่องอาจต้องใช้เวลานาน
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานโอทอป ซิตี้ 2015 โอทอป เน็กซ์ เวอร์ชัน 2.0 (OTOP City 2015, OTOP Next Version 2.0) ทศวรรษใหม่ภูมิปัญญาไทยที่ไม่หยุดยั้ง งานส่งเสริมการตลาดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและสนับสนุนให้ดำเนินการ และเป็นกิจกรรมที่สนองพระราชเสานีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ยินดีเป็นประธานเปิดงานโอทอปปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าที่แล้ว วันนี้ตนเวียนหัวแต่เช้า แต่เห็นการแสดงมีหนุมานตีลังกาค่อยมีกำลังใจขึ้น ถึงแม้รัฐบาลทำเต็มที่ อาจไม่ทันความต้องการของพี่น้องประชาชน แต่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาตั้งแต่เศรษฐกิจรากฐาน เพราะไทยเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ติดกับดักรายได้ประเทศปานกลางและทั้งประชาธิปไตย ติดกับดักตัวเองเป็นปัญหาพัฒนาประเทศทั้งสิ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามแก้ปัญหา แก้เศรษฐกิจฐานราก เราต้องเร่งสร้างรายได้ด้วยสติปัญญา พูดมานานการพัฒนาประเทศ รัฐบาลนี้ทำได้เพียงเริ่มต้นวางรากฐานไว้ และไม่สามารถที่จะพูดและรับได้ว่าทุกอย่างแก้ในปีเดียวหรือ 2-3 ปี บางเรื่องอาจต้องใช้เวลานาน ซึ่งของท่านที่ต้องทำต่อไป อดีตเป็นเรื่องที่ผ่านมา มีทั้งดีและไม่ดีไว้ เพื่อความภาคภูมิใจ เป็นพลังใจในการต่อสู้และเป็นบทเรียนที่จะนำไปใช้ต่อไปในอนาคต วันนี้เราต้องช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ในอนาคต ต้องสร้างกิจกรรมหลายๆ อย่าง เพื่อพัฒนาประเทศ ต้องสร้างทุกอย่างให้เกิดความสมดุล
นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของการพัฒนาสินค้าโอทอปจะต้องคัดมีศักยภาพและทำต่อไป สินค้าที่ยังไม่เข้มแข็งต้องสร้างเสริมความรู้ ให้มีการพัฒนา ไม่ใช่อาศัยภูมิปัญญาอย่างเดียว และเราจะต้องร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกับอาเซียนแล้วจะเดินไปพร้อมกัน เพื่อมีอำนาจต่อรองกับประชาคมอื่นๆ ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าทำเกษตรอย่างเดียวไม่มีการตลาด ก็จะทำให้ขีดความสามารถที่แข็งขันลดลง การสร้างสินค้าต้องเชื่อมโยงกับชุมชน ไม่ใช่เฉพาะการกู้เงินเท่านั้น ใครไม่คิด ก็เท่ากับไม่ปฏิรูป จึงต้องปฏิรูปทางความคิดด้วย แต่ความคิดบังคับไม่ได้อยู่แล้ว การบูรณาการจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ
“วันนี้ต้องนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทั้งสองพระองค์ทรงเริ่มต้นไว้มาส่งเสริมสืบทอดต่อไป วันนี้รัฐบาลเดินหน้าทุกอย่างตามแนวทางประชารัฐเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน แต่ขอร้องอย่าเร่งตน อย่าใจร้อน ซึ่งตนจะทำให้ทุกอย่าง” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายกฯ ได้เชิญชวนประชาชนเที่ยวชมการแสดงสินค้าจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ที่จัดขึ้นที่สวนอัมพรด้วยเพื่อที่จะมีรายได้ไปพร้อมๆ กัน จากนั้นนายกฯ และคณะเดินเยี่ยมชมบูทแสดงสินค้าจากภูมิภาคต่างๆ