“ประยุทธ์” ประชุมสุดยอดอาเซียน - นิวซีแลนด์ ครบ 40 ปี ความสัมพันธ์ ชมบทบาทพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชง 3 แนวทาง ขับเคลื่อนหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ หนุนสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเยาวชนนักธุรกิจรุ่นใหม่ กระชับความร่วมมือภูมิภาค เชื่อความเชื่อมโยง ปชช. รากฐานสำคัญ นายกฯมาเน์เลี้ยงอาหารค่ำคืนที่ผ่านมา
วันนี้ (22 พ.ย.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - นิวซีแลนด์ สมัยพิเศษ ครบรอบ 40 ปี ณ Conference Hall 1 ชั้น 3 ศูนย์การประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียการประชุมในครั้งนี้ มีความพิเศษ คือ เป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 40 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-นิวซีแลนด์ และมีการยกระดับความสัมพันธ์อาเซียน -นิวซีแลนด์ เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ
โดยภายหลังการประชุม มีการออกแถลงการณ์ร่วมผู้นาอาเซียน - นิวซีแลนด์ ในวาระ 40 ปีความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน - นิวซีแลนด์ : หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ สู่ผลประโยชน์และความมั่งคั่งร่วมกัน (Joint ASEAN-New Zealand Leaders’ Statement on the 40th Anniversary of ASEAN-New Zealand Dialogue Relations: Advancing Strategic Partnership toward Greater Mutual Benefit and Prosperity และมีการรับรองแผนปฏิบัติการอาเซียน - นิวซีแลนด์ (Plan of Action) ฉบับปี ค.ศ. 2016 - 2020
ในส่วนของไทย พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน - นิวซีแลนด์สมัยพิเศษ อันเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ที่ยาวนานถึง 4 ทศวรรษ ที่นำไปสู่การยกระดับเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในวันนี้ ไทยชื่นชมบทบาทที่สร้างสรรค์ของนิวซีแลนด์ในภูมิภาคตลอด 40 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หนึ่งในสัญลักษณ์นี้ คือ การร่วมก่อตั้งสถาบันลุ่มน้ำโขง (Mekong Institute) ขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อ 20 ปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของนิวซีแลนด์ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนที่สุดเพื่อการพัฒนา
โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทางการดำเนินความสัมพันธ์ภายใต้สถานะใหม่และแผนงานฉบับใหม่ 3 แนวทาง ดังนี้ ประการแรก ในการขับเคลื่อนหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เราต้องผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ในสาขาที่มีความสำคัญเร่งด่วนต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุมของอาเซียน ได้แก่ เกษตรกรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และพลังงานที่ยั่งยืน ไทยเห็นด้วยกับยุทธศาสตร์ความมั่งคั่งของนิวซีแลนด์ที่เน้นพัฒนาขีดความสามารถด้านธุรกิจการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับการที่อาเซียนเป็นแหล่งส่งออกผลิตผลทางการเกษตรที่สำคัญของโลก อย่างไรก็ตาม ควรให้น้ำหนักที่เท่าเทียมกันในการเตรียมภาคการเกษตรและกสิกรรุ่นใหม่ ให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นความท้าทายต่อการประกันความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาคและไม่ละทิ้งภาคการเกษตร นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรที่ยั่งยืน การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การพัฒนานวัตกรรมด้านการเกษตรและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับการสร้างขีดความสามารถในการทำธุรกิจ
นอกจากนี้ ไทยยังสนับสนุนข้อริเริ่มของนายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ประชาชน และการสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเยาวชนและนักธุรกิจรุ่นใหม่ระหว่างอาเซียนกับนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า หากเยาวชนและนักธุรกิจรุ่นใหม่ได้มีโอกาสขยายมุมมองและแนวความคิด โดยให้มีประสบการณ์ที่สัมผัสกับภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมในทั้งอาเซียนและนิวซีแลนด์ ย่อมช่วยให้ยุทธศาสตร์นี้สามารถดำเนินตามวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง
ไทยยินดีที่ภายใต้แผนปฏิบัติการฉบับใหม่ระหว่างอาเซียนกับนิวซีแลนด์ ปี 2559 - 2563 ได้รวมการให้ความช่วยเหลือเพื่อพัฒนาพลังงานทดแทนในอาเซียน และการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีของนิวซีแลนด์ในการอนุรักษ์พลังงานที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมหลายภาคส่วน ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ประการที่สอง อาเซียน - นิวซีแลนด์ ต้องกระชับความร่วมมือในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะการบรรลเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การเสริมสร้างความต้านทานต่อภัยพิบัติให้แก่ประชาชนและชุมชนท้องถิ่นในอาเซียน และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม หวังว่า อาเซียนและนิวซีแลนด์จะร่วมมือกันในเวทีระหว่างประเทศในประเด็นเหล่านี้ต่อไป
ประการสุดท้าย ต้องทำให้การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและสองทาง ดังเช่น การที่นิวซีแลนด์มอบรางวัลให้ประชาชน 40 คนทั่วทั้งอาเซียน ที่ทำคุณประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์อาเซียน-นิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างกันในอนาคต
สำหรับร่างแถลงการณ์ร่วมผู้นำอาเซียน-นิวซีแลนด์ในวาระ 40 ปี ความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน-นิวซีแลนด์: หุ้นส่วนยุทธศาสตร์สู่ผลประโยชน์และความมั่งคั่งร่วมกัน : เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ร่วมของผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและนิวซีแลนด์ในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับนิวซีแลนด์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของความสัมพันธ์ในปี 2558 โดยจะร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์และความมั่งคั่งร่วมกันในระยะยาว ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ความเชื่อมโยงและการลดช่องว่างทางการพัฒนา
ทั้งนี้ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 27 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง และภริยา เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำอาเซียนและผู้นำประเทศคู่เจรจาที่เข้าร่วมการประชุม ณ ศูนย์การประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา