xs
xsm
sm
md
lg

“บุญทรง” ดิ้น! อ้างหากจีทูจีเก๊ต้องครอบคลุมมันสำปะหลัง รบ.มาร์ค - ซัด ม.44 อุ้มพรรคพวก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูก ปปช. ชี้มูลคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว Boonsong Teriyapirom โดยเขียนจดหมายเปิดผนึก
“บุญทรง” ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริตจีทูจีเก๊ โผล่ดิ้น! อ้าง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ผิดคดีจำนำข้าว แขวะหัวหน้า คสช.ใช้ ม.44 คุ้มครองทุกองค์กรที่ตรวจสอบคดีการระบายข้าว เปรียบเป็นเครื่องมือทำลายทางการเมือง ป้องพรรคพวกตัวเอง ร่ายยาวโชว์ข้อมูล 18 มิ.ย. 52 อ้างจีทูจีมันสำปะหลัง กับบริษัท GSSG-Hainan สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ หากเป็นจีทูจีปลอมก็ปลอมมาจนถึงปัจจุบัน ที่ “บิ๊กตู่” ไปลงนามขายยางรัฐต่อรัฐ เป็นการสมยอม-ฮั้วเหมือนกัน อ้างหลักฐานเด็ดของ ป.ป.ช. “เช็คภายในประเทศ” เกิดในสมัยรัฐบาล ปชป.

วันนี้ (1 พ.ย.) มีรายงานว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Boonsong Teriyapirom” โดยเขียนจดหมายเปิดผนึก มีใจความว่า

“ผมเห็นภาพข่าวนายกฯ ยิ่งลักษณ์เดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซี่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว ผมย่อมรู้ดีกว่าใครว่านายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้ทำอะไรผิดแต่การที่ท่านต้องถูกดำเนินคดี ถูกถอดถอนและกำลังจะถูกเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งโดยหัวหน้า คสช.ต้องใช้มาตรา 44 ออกคำสั่ง คสช.ที่ 39/2558 คุ้มครองทุกคนและทุกองค์กรที่ถูกใช้ให้มาจัดการกับท่านและพวกผมในเรื่องข้าว ย่อมเห็นได้อย่างชัดเจนว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์และโครงการรับจำนำข้าวคือเหยื่อในทางการเมือง ผมจึงควรพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

1. การกล่าวหาว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว จนทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงนั้น เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อทำลายนายกฯยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยปูทางไปสู่การยึดอำนาจการปกครองอย่างแท้จริงโดยใช้ชาวนาเป็นตัวประกัน นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้รับผิดชอบโครงการโดยตรง กล่าวคือ (1) การรับจำนำมีคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าวเป็นผู้รับผิดชอบและ (2) การระบายข้าวมีคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวเป็นผู้รับผิดชอบ จากโครงสร้างดังกล่าวนายกฯยิ่งลักษณ์จึงไม่ควรถูกลากโยงเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีเลย เพราะเป็นเพียงผู้กำกับดูแลนโยบายในภาพรวมเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการรับจำนำหรือการระบายซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของคณะอนุกรรมการดังกล่าว นายกฯ ยิ่งลักษณ์จึงมิได้ปล่อยปละละเลยใดๆ ในเรื่องนี้ เพราะได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบแล้วด้วยการติดตามกำชับให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย มติ ระเบียบและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องรวมทั้งได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีการทุจริต ส่วนผมขอยืนยันว่าได้ดำเนินการไปโดยถูกต้องตรงตามมติ ระเบียบและแนวปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวนี้ทุกประการ

2. ในส่วนของการรับจำนำไม่มีประเด็นกล่าวหามากนักเพราะได้จ่ายเงินให้ชาวนาโดยตรงผ่าน ธ.ก.ส. คงเหลือเพียงการขายข้าวที่ถูกนำมาโจมตีเป็นประเด็นการเมืองโดยเฉพาะการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) ให้กับ Guangdong Stationary & Sporting Goods Imp. & Exp. Corp. หรือ GSSG และ Hainan Grain and Oil Industrial Trading Company หรือ Hainan โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทมิได้มีฐานะเป็นรัฐและมีการสมยอมเรื่องราคา นั้น ผมขอชี้แจง ดังนี้

(1) ระเบียบและแนวปฏิบัติที่ถือว่ารัฐ (G) ให้ครอบคลุมถึงรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลของประเทศผู้ซื้อมีขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังครั้งที่ 5/2552 วันที่ 18 มิถุนายน 2552 โดยกรมการค้าต่างประเทศจะเป็นผู้ตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อว่ามีฐานะเป็นรัฐหรือไม่ ซึ่งถือเป็นงานประจำของกรมการค้าต่างประเทศที่ทำกันมาทุกรัฐบาล

(2) กรมการค้าต่างประเทศตรวจสอบพบว่า GSSG และ Hainan เป็นรัฐวิสาหกิจของมณฑลโดยรัฐบาลจีนถือหุ้น 100% จึงถือเป็นรัฐตามมติที่ประชุมดังกล่าว จากนั้นได้มีการทำสัญญาแบบ G2G ตามแนวปฏิบัตินี้หลายครั้ง เช่นเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2553 กรมการค้าต่างประเทศได้เป็นคู่สัญญาซื้อขายแป้งมันสำปะหลังแบบ G2G กับ Guangxi Mingyang Biochemical Science & Technology ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของมณฑล กระทั่งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็ได้ทำสัญญาขายยางแบบรัฐต่อรัฐระหว่างองค์การสวนยางกับ China Hainan Rubber Industry Group Co., Ltd. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของมณฑลเช่นกัน ดังนั้น GSSG และ Hainan จึงมีฐานะเป็นรัฐเช่นเดียวกันกับอีกสองรัฐวิสาหกิจในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์และอยู่ในเครือเดียวกันกับรัฐวิสาหกิจที่มาซื้อยางสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

(3) ท่านทั้งหลายทราบหรือไม่ว่า วิธีการที่บริษัท Guangxi เสนอขอซื้อมันจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และวิธีการที่บริษัท China Hainan เสนอซื้อยางจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ต้นจนจบทำโดยวิธีเดียวกันกับที่ GSSG และ Hainan ขอซื้อข้าวจากรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่เหมือนกันเพียงอย่างเดียวคือการซื้อขายของทั้งสองรัฐบาลไม่ถูก ป.ป.ช.กล่าวหาว่ามีการสมยอมเรื่องราคาแต่ผมถูกกล่าวหาครับ

(4) ส่วนที่อ้างว่าพบหลักฐานเด็ดเป็นเช็คจากธนาคารภายในประเทศนำมาชำระค่าข้าวแสดงว่าไม่มีการซื้อขายจริงเพราะไม่ได้ชำระเป็น L/C จากต่างประเทศ จึงสงสัยกันว่าน่าจะไม่มีการส่งออกนั้น ขอเรียนว่าผู้ซื้อข้าวเพื่อส่งออกสามารถชำระเงินเป็นเช็ค หรือเงินสดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเปิด L/C อย่างเดียว ซึ่งเป็นไปตามแนวปฏิบัติของกระทรวงพาณิชย์ไม่ใช่หลักเกณฑ์ที่ผมคิดขึ้นมาเอง ทั้งนี้กรมการค้าต่างประเทศได้กำหนดรูปแบบการชำระเงินไว้ 3 วิธี คือ 1. L/C ชนิดเพิกถอนไม่ได้ 2. การโอนเงินผ่านธนาคาร (SWIFT) หรือ 3.จ่ายเป็นเช็คเงินสดในรูปแบบของเงินบาทก่อนรับมอบข้าวในแต่ละงวดและเป็นวิธีที่กรมการค้าต่างประเทศเริ่มปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแล้ว

(5) ข้อโจมตีที่ว่าการที่รัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวหรือระบายในราคาที่ต่ำกว่าทุนทำให้ประเทศขาดทุนมหาศาลนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้องเพราะในความเป็นจริงข้าวเป็นสินค้าที่เสื่อมสภาพตลอดเวลา การขายข้าวหรือสินค้าเกษตรได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่รับจำนำจากเกษตรกรจึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์หรือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ก็ขายได้ต่ำกว่าราคาทุนเช่นกัน และจะว่าไปแล้วราคาที่แต่ละรัฐบาลจำหน่ายข้าวได้ก็ไม่แตกต่างกันหากเทียบราคาขายต่อหน่วย ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าโครงการจำนำข้าวไม่ได้มีขึ้นเพื่อการแสวงหาผลกำไรให้กับรัฐ แต่เป็นการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรเพื่อช่วยเหลือชาวนาอันเป็นหน้าที่ๆ ทุกรัฐบาลต้องกระทำตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การขายข้าวได้ในราคาต่ำจึงไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าโครงการจำนำข้าวล้มเหลวแต่อย่างใด นอกจากนี้การโจมตีเรื่องสต๊อกข้าวของรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ว่าจำนวนมากนั้นก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะรัฐบาลที่เข้ามาใหม่ต้องรับหน้าที่บริหารจัดการข้าวที่สะสมมาจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ด้วย เมื่อรวมกับข้าวล็อตใหม่ที่นำมาเข้าโครงการในสมัยของตนตัวเลขข้าวในสต๊อกย่อมต้องสูงขึ้นเป็นธรรมดา เช่น ในสมัยรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ก็ต้องบริหารจัดการข้าวที่เหลือสะสมมาจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เช่นเดียวกับที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องรับผิดชอบระบายข้าวที่สะสมมาจากยุครัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ด้วยเช่นกันจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ดังนั้น ที่อ้างกันว่าโครงการรับจำนำข้าวทำให้ประเทศเสียหายมากเพราะรัฐบาลขายข้าวไม่ได้ราคา หรือเพราะมีข้าวเหลือในสต็อกเป็นจำนวนมาก จึงเป็นการกล่าวหาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและที่สำคัญการระบายข้าวที่กล่าวมาแล้วตั้งแต่ต้นจนจบถูกดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ทั้งสิ้น

(6) กรณีที่มีการกล่าวหาว่าข้าวขาดหายไปจากโกดังก็ดี หรือข้าวเสื่อมสภาพเสียหายก็ดี อยู่ในความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าว มีเจ้าของโกดังที่เป็นผู้รับฝากเก็บสินค้าทำหน้าที่ดูแลปริมาณและรักษาคุณภาพข้าวให้เป็นไปตามสัญญาฝากเก็บโดยมีหนังสือค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาจากธนาคารมอบไว้กับ อ.ต.ก. หรือ อคส. แล้วแต่กรณี ดังนั้น หากมีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นรัฐบาลก็สามารถเรียกร้องเอาจากผู้รับฝากเก็บหรือจากธนาคารผู้ค้ำประกันได้จึงไม่ควรนำมาเป็นประเด็นการเมืองอีกต่อไป

(7) จากข้อเท็จจริงที่กล่าวมาจะเห็นว่าการรับจำนำและระบายข้าวสารได้กระทำตามมติ ระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่มีอยู่แล้วทุกประการ อีกทั้งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยใดๆ ตามที่พยายามกล่าวหากัน ถ้าจะอ้างว่าเป็น G2G ปลอมก็ปลอมมาตั้งแต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์จนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หรือจะกล่าวหาว่าเป็นการสมยอมเรื่องราคาหรือฮั้วก็ทำเหมือนกับทั้งสองรัฐบาล ส่วนเรื่องการรับเงินค่าซื้อขายเป็นเช็คก็เป็นระเบียบที่ทำกันมาก่อนหน้ารัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์เพียงแต่พวกผมเท่านั้นที่ถูกดำเนินคดี จนท้ายที่สุดเมื่อหัวหน้า คสช.ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2558 คุ้มครองทุกคนและทุกองค์กรที่ถูกใช้ให้มาจัดการในเรื่องนี้คือหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโครงการรับจำนำข้าวถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำลายล้างนายกฯ ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยโดยไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการ ความถูกต้องและไม่มีความเป็นธรรมใดๆ จึงต้องออกคำสั่งมาคุ้มครองตัวเองและบริวารไม่ให้ถูกฟ้องกลับ แต่การที่นายกฯยิ่งลักษณ์และผมเป็นเหยื่อทางการเมืองก็ยังสามารถต่อสู้คดีในศาลได้แม้ในชั้น ป.ป.ช. จะไม่ได้รับโอกาสและความเป็นธรรมก็ตาม แต่คนที่น่าเห็นใจที่สุดที่ต้องมารับกรรมในเรื่องนี้คือเกษตรกรและชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากการใช้โครงการรับจำนำข้าวเป็นเครื่องมือเพื่อทำลายหรือกำจัดนายกฯ ยิ่งลักษณ์ออกไปจากการเมือง

บุญทรง เตริยาภิรมย์
1 พฤศจิกายน 2558”
กำลังโหลดความคิดเห็น