xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ส่งออกซื้อข้าวสารหอมมะลิเก็บสต๊อกแสนตัน ช่วยรัฐดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิไม่ให้ต่ำกว่าตันละ 1.35 หมื่นบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยช่วยดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ควัก 50 ล้าน ซื้อข้าวสารเข้าเก็บสต๊อก 1 แสนตัน ราคาตันละ 2.6 หมื่นบาท หวังช่วยดันราคาข้าวเปลือกไม่ให้ต่ำกว่า 1.35 หมื่นบาท เผยหากไม่พอเตรียมซื้อเพิ่มอีก ส่วนข้าวเปลือกเจ้า เชื่อราคายืนได้ที่ตันละ 8-8.5 พันบาท เหตุมีคำสั่งซื้อรองรับกว่า 1 ล้านตัน “พาณิชย์” เตรียมนำร่องระบายข้าวเสีย ข้าวเกรดซี เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ จะร่วมมือกันในการเข้าไปซื้อข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 1 แสนตัน ในราคาตันละ 2.6 หมื่นบาท หรือทอนเป็นข้าวเปลือกอยู่ที่ราคาตันละ 1.35 หมื่นบาท เพื่อนำมาเก็บไว้ในสต๊อกเป็นระยะเวลา 3 เดือน และจะเริ่มเข้ารับซื้อทันทีเพื่อรักษาระดับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในตลาดปีการผลิต 2558/59 ที่กำลังจะทยอยออกมาไม่ให้ตกต่ำ โดยใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 50 ล้านบาท

“ต้นทุนจากการซื้อข้าวเป็นเงินของภาคเอกชนทั้งหมดที่จะเข้าไปช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ เพราะเอกชนมีความเป็นห่วงว่าข้าวหอมมะลิที่ผลผลิตกำลังทยอยออกสู่ตลาดระยะนี้ถึง 2 ล้านตัน หากชาวนานำออกมาขายพร้อมกันจะทำให้ราคาข้าวหอมมะลิตกต่ำได้ โดยสมาคมฯ จะมีการประเมินผลการเข้ารับซื้อ และหากไม่เพียงพอก็จะเพิ่มงบประมาณในการรับซื้อข้าวสารแสนที่ 2 แสนที่ 3 ต่อไป” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

สำหรับราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี สมาคมฯ ไม่กังวล โดยเชื่อว่าระดับราคาข้าวเปลือกเจ้าจะอยู่ที่ตันละ 8,000-8,500 บาท เนื่องจากขณะนี้มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมารองรับผลผลิตอยู่ประมาณ 1 ล้านตัน จากคำสั่งซื้อข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จากฟิลิปปินส์ 3 แสนตัน ที่ต้องหาข้าวใหม่ไปส่งมอบ และคำสั่งซื้อจีทูจีจีนที่ยังเหลืออีก 3 แสนตัน และคำสั่งซื้อจากอินโดนีเซีย 5 แสนตัน ยังไม่รวมตลาดแอฟริกา ที่ต้องการนำเข้าข้าวนึ่งจากไทย และตลาดอิหร่าน ที่ไทยกำลังจะเดินทางไปเจรจาขายข้าว หากมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาเสริมเชื่อว่าราคาข้าวเปลือกเจ้าไม่น่าจะต่ำไปกว่านี้

ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า ส่วนการระบายสต๊อกข้าวเสีย และข้าวเกรดซีที่กระทรวงพาณิชย์จะทดลองเปิดประมูลในเร็วๆ นี้ เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม เชื่อว่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 5-6 บาท โดยมองว่าจนถึงสิ้นปี 2559 สต๊อกข้าวรัฐบาลที่มีอยู่ 13 ล้านตัน น่าจะเหลือข้าวในสต๊อก 4-5 ล้านตัน จากการระบายข้าวสู่ภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปรังปี 2559 ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้ปริมาณข้าวสารนาปรังลดน้อยลงไป 3 ล้านตัน ซึ่งต้องนำข้าวสต๊อกรัฐมาชดเชย และหากในปี 2559 สต๊อกข้าวรัฐลดลงได้ถึงระดับที่ว่า จะทำให้ราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้นได้ ไม่น่าจะต่ำไปกว่าปีนี้

ทั้งนี้ ประเมินว่าการส่งออกข้าวในปี 2558 คาดว่าน่าส่งออกได้ 9.5-10 ล้านตัน และปี 2559 มองว่าการส่งออกน่าจะได้ 10 ล้านตัน

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีมติให้ชะลอการระบายข้าวในส่วนของการบริโภคทั้งอาหารคนและสัตว์ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวในตลาดที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่กำลังทยอยออกมา แต่จะมีการให้นำข้าวเสีย และข้าวเกรดซีที่ผ่านการตรวจโกดังแล้วมาเปิดระบายก่อน ซึ่งได้สั่งให้กรมการค้าต่างประเทศ ไปจัดทำแผนการระบายข้าวเสีย และข้าวเกรดซีเพื่อนำมาทดลองเปิดระบายข้าวเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมในเร็วๆ นี้ โดยจะไม่เปิดประมูลเป็นการทั่วไป

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า แผนการระบายข้าวเสียและข้าวเกรดซี คณะทำงานระบายข้าวจะร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อทำแผนในการเปิดระบาย โดยจะเป็นการนำข้าวปริมาณไม่มากมาระบายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมพลังงาน และชีวมวล ซึ่งการระบายจะมีระบบการติดตาม ตรวจสอบ ตั้งแต่ข้าวออกจากโรงดังไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันการกลับมาในตลาดปกติ

ทางด้านการระบายข้าวในสต๊อก ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2557 ถึงปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ระบายข้าวไปแล้วปริมาณรวมทั้งสิ้น 6.38 ล้านตัน มูลค่ารวม 7.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐปริมาณ 4.83 ล้านตัน และการระบายข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ในตลาดปริมาณ 1.55 ล้านตัน โดยสต๊อกข้าวคงเหลือในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 13 ล้านตัน


กำลังโหลดความคิดเห็น