xs
xsm
sm
md
lg

“เต้น” อ้างอยากฟังความจริงเรียงความจำนำข้าว - “ทนายปู” ถาม “ประยุทธ์” ไม่พอใจอีกเหรอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  (ภาพจากแฟ้ม)
แกนนำ นปช. แจงจัดกิจกรรมประกวดเรียงความหัวข้อ “ครอบครัวของฉันในวันที่ไม่มีจำนำข้าว” อ้างเป็นแหล่งข้อมูลที่ตรงที่สุด ชัดที่สุดว่า จำนำข้าวส่งผลอย่างไรต่อชีวิตชาวนา หยันนักการเมืองกลัวความจริงจากเด็ก ๆ ถ้ารักชาวนาจริงอย่าอคติ อดีต ส.ส. กทม. เพื่อไทยโต้กลับ “ยิ่งลักษณ์” ไม่เคยกดดันศาล แค่กองเชียร์ให้กำลังใจ วอน ปชป. เลิกตอดเล็กตอดน้อย ทนายความคดีจำนำข้าวถามกลับนายกฯ ประยุทธ์ จำนำข้าวกับช่วยเหลือยางพาราทำเหมือนกัน ดำเนินคดีเร็วเหมือนกันไม่พอใจอีกหรือ

วันนี้ (28 ต.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวตอบโต้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการจัดกิจกรรมประกวดเรียงความหัวข้อ “ครอบครัวของฉันในวันที่ไม่มีจำนำข้าว” กำลังสะท้อนการสร้างกระแสเพื่อดิ้นรนเฮือกสุดท้าย ที่พยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริง ว่า เห็นอาการของ นพ.วรงค์ และอีกหลายคนที่เคยโจมตีโครงการจำนำข้าวที่พากันวิพากษ์วิจารณ์การประกวดเรียงความแล้ว แปลกใจว่าทำไมคนกลุ่มนี้ถึงกลัวความจริงจากเด็ก ๆ ลูกหลานชาวนา เมื่อนักการเมืองแต่ละฝ่าย รวมทั้งผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ต่างอธิบายในมุมของตัวเอง เรียงความเหล่านี้น่าจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ตรงที่สุด ชัดที่สุดว่า จำนำข้าวส่งผลอย่างไรต่อชีวิตชาวนา

“ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า ผมทำเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะหลักการข้อใหญ่ในการพิจารณาคือ ต้องเป็นเรื่องจริงจากลูกหลานชาวนาตัวจริง โดยผมจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง เชื่อว่า ความจริงที่ได้จะเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการพิจารณาของสังคม และช่วยป้องกันไม่ให้คนบางกลุ่มใช้ชั้นเชิงทางการเมือง ทำลายฝ่ายตรงข้ามเหมือนที่ผ่านมา ผมยืนยันว่า ไม่มีเจตนาให้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินคดี และไม่เคยคิดปิดกั้นสาระในเรียงความ ถ้าตั้งแต่วันที่ไม่มีจำนำข้าวแล้วชาวนาเป็นสุข กินอิ่มนอนหลับ นับเงินนับทอง ลูกหลานก็เขียนมา ตรวจสอบแล้วว่าเป็นจริง ก็จะเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ หรือกลุ่มที่วิจารณ์รู้อยู่แก่ใจว่าชาวนาอกไหม้ไส้ขม จึงพยายามตัดไฟแต่ต้นลม โดยการทำลายความชอบธรรมของกิจกรรมนี้” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ถ้ารักชาวนาจริงอย่างปากพูด ก็ควรควบคุมอคติ แล้วฟังความจริงจากพวกเขาบ้าง แม้ชาวนาไม่มีอำนาจแต่ก็มีหัวใจ อย่าให้ต้องเจ็บซ้ำเพราะเห็นตำตาว่า คนที่ไปกดดันธนาคารไม่ให้เอาเงินให้รัฐบาลจ่ายค่าข้าวในวันนั้น ยังตามมาขัดแข้งขัดขาไม่ให้ลูกหลานมีโอกาสรับรางวัลในวันนี้

ด้าน นายธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ อดีต ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้ นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทีมงานให้สัมภาษณ์เสมอมาว่า เมื่อคดีโครงการรับจำนำข้าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอให้ทุกภาคส่วนอย่าชี้นำ หรือก้าวล่วงเข้าไปในการพิจารณาคดีในศาล เพราะเป็นการไม่ยุติธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ไม่เคยคิดกดดัน หรือข่มขู่การพิจารณาคดีของศาลแต่อย่างใด ส่วนการให้กำลังใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ประชาชนเห็นว่าทำโครงการรับจำนำข้าวเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะมิได้ก่อความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมืองแต่อย่างใด

“ความจริงแล้วอยากจะให้คุณราเมศ เลิกคิดตอดเล็กตอดน้อยตอบโต้กันไปมา ประชาชนเบื่อความขัดแย้ง ควรทำเรื่องสำคัญ ๆ เช่น ช่วยกันรักษาระบอบประชาธิปไตย อย่าฝักใฝ่เผด็จการ หรือให้ดีควรหาโอกาสช่วยแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอยู่ขณะนี้จะดีกว่า ขอให้เลิกความคิดค้าความขัดแย้ง ได้ประโยชน์จากความขัดแย้ง เหมือนเช่นที่เคยทำมาในอดีต ปัจจุบันนี้บ้านเมืองติดหล่มแห่งความขัดแย้งมากแล้ว หากถ้าพรรคการเมืองต่าง ๆ สู้กันในกระบวนการประชาธิปไตยที่ชอบธรรมโดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน บ้านเมืองก็คงจะเจริญก้าวหน้ากว่านี้อีกมาก เลิกคิดหาตัวช่วยซึ่งรังแต่จะทำให้บ้านเมืองแตกแยกและถอยหลังเข้าคลองเช่นทุกวันนี้ หวังว่า คุณราเมศ คงจะทำงานใหญ่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ร่วมกับพี่น้องประชาชนในโอกาสข้างหน้าร่วมกับทุกภาคส่วนต่อไป” นายธีรรัตน์ กล่าว

ส่วน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ฝากสื่อมวลชนติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หวังให้กรรมการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายให้ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา พร้อมแสดงความไม่สบายใจกรณีขั้นตอนการเรียกพยานที่ดูแล้วยังไม่ค่อยเรียบร้อย อย่าให้ใครเข้ามามีบทบาทโดยเฉพาะผู้มีส่วนได้เสียในคดีดังกล่าว อย่าให้มาข่มขู่ใครหรืออะไรนั้นไม่ได้ทั้งสิ้นนั้น ตนในฐานะทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในคดีขอเรียน ว่า คดีนี้เป็นแรกของประเทศไทย ที่หัวหน้ารัฐบาลถูกดำเนินคดีจากการดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 84 (8) ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่สำคัญคือ เป็นหัวหน้ารัฐบาลคนเดียว ที่ถูกดำเนินคดีทั้งที่การช่วยเหลือเกษตรกรก็ทำกันมาทุกรัฐบาล รวมถึงรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เพิ่งอนุมัติเงินงบประมาณไปช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา

การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะจำเลยในคดีอาญา และผู้ที่จะถูกเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง ได้ออกมาใช้สิทธิในการต่อสู้คดี เพียงขอให้ฝ่ายรัฐบาลได้กระทำตามกฎหมายด้วยความรอบคอบ และให้สิทธิกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่นั้น ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรม และเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ประการสำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยไปข่มขู่ หรืออยู่ในฐานะจะไปข่มขู่ใครได้ทั้งสิ้น โดยคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากเป็นคดีที่มีความผิดปกติหลายประการ แต่ยังถูกดำเนินการด้วยความรวดเร็วมากที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของไทย เร็วขนาดแซงคดีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาเรื่องการประกันราคาข้าวที่เกิดก่อนหน้าคดีนี้หลายปี เร็วขนาดในชั้นอัยการสูงสุดมีการสั่งฟ้องโดยไม่ต้องไต่สวนเพิ่มเติมในประเด็นที่คณะทำงานอัยการสูงสุดเคยมีความเห็นว่าสำนวนมีข้อไม่สมบูรณ์

ที่เร็วมากกว่านั้นคือ เร็วกว่าคดีของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาว่าทุจริต โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนปล่อยปละละเลย ที่แปลกคือคดีทุจริตยังไม่มีการชี้มูลความผิด แต่คดีที่อ้างว่ามีการปล่อยให้มีการทุจริตกลับชี้มูล และนำไปใช้ถอดถอนก่อนจนผิดปกติ และเร็วขนาดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่พอใจอีกหรือ คดีนี้เป็นคดีสำคัญมีประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวข้องมากมาย สมควรที่จะกระทำด้วยความรอบคอบ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างรวดเร็วและทันเวลา ต้องคำนึงถึงเรื่องความเป็นธรรม และความยุติธรรมด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น