รองประธาน สนช.เผยกำลังสรรหา 3 บุคคลนั่ง กรธ. วางสเปกเก่งกฎหมาย มีประสบการณ์ร่างฯ ก่อนชง “ประยุทธ์” ตัดสิน ชี้รับตำแหน่งแล้วห้ามเล่นการเมือง 2 ปีเป็นปัจจัยให้บางส่วนบอกปัด รับ ถูกทาบแต่บอกปัด ขอเป็นกระจกสะท้อนความเห็นสนช.-กรธ. คาดแก้ปมประชามติเร็วๆ นี้
วันนี้ (17 ก.ย.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสรรหาบุคคลจำนวน 3 คนเข้าไปทำหน้าที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยหลักเกณฑ์ในการเลือกบุคคล คือ จะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย รวมไปถึงอาจมีประสบการณ์ด้านการร่างรัฐธรรมนูญมาพิจารณามาประกอบและบุคคลต้องมีความสมัครใจด้วย
นายสุรชัยกล่าวว่า การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะตัดสินใจว่าใครมีความเหมาะสม เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 กำหนดให้อำนาจหัวหน้า คสช.เอาไว้
เมื่อถามว่า การที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 กำหนดให้บุคคลที่มาเป็น กรธ.จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปีถือเป็นปัญหาในการหาคนมาทำหน้าที่ กรธ.หรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า อาจถือว่ามีส่วนสำคัญ เพราะสมาชิก สนช.จำนวนหนึ่งมีความประสงค์ต้องการจะทำงานด้านการเมืองต่อ หลังจากพ้นการทำหน้าที่สมาชิก สนช. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า คสช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไม่มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นนี้ เพราะถือเป็นหลักการที่รัฐธรรมนูญหลายฉบับวางเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้
นายสุรชัย ยังกล่าวอีกว่า บุคคลที่จะเข้าไปทำงานเป็นกรธ.นั้นต้องอุทิศตนและทุ่มเทเวลาให้กับการร่างรัฐธรรมนูญตลอดระยะเวลา 180 วัน ทั้งนี้มีผู้ทาบทามตนด้วยแต่ตนไม่พร้อมที่จะอุทิศเวลาในการเข้าร่วมร่างรัฐธรรมนูญ ขอเป็นฝ่ายรวบรวมความคิดเห็นและเป็นกระจกสะท้อนความเห็นระหว่างสนช.และกรธ.จะดีกว่า เนื่องจากผู้ที่เป็นกมธ.รวบรวมความเห็นและไปเป็นกรธ.ในคนๆเดียวนั้นจะทำให้ความคิดเห็นเบ็ดเสร็จ ไม่หลากหลายและร่างฯที่ออกมาอาจไม่เป็นที่ยอมรับจากสังคมโดยรวม
นายสุรชัยกล่าวว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ครั้งที่ 2 คาดว่า คสช.และ ครม.น่าจะเสนอมาให้ สนช.พิจารณาเร็วๆ นี้ โดยจะแก้ไขในประเด็นสำคัญ คือ การทำประชามติ เพื่อกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องใช้เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงประชามติในการตัดสินว่าประชาชนให้ความเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่
