จนท. ทำเนียบจัดพื้นที่รอ ครม. ชุดใหม่ถ่ายรูปตามประเพณีแล้ว เผย “สมหมาย - ณรงค์ชัย - พรชัย” รับนั่งที่ปรึกษานายกฯแล้ว ส่วน “จักรมณฑ์” กลับไปเป็นนายแบงก์ ด้าน “อดีตขุนคลัง” เชื่อ “หม่อมอุ๋ยไม่ได้รับเชิญก็เลยโวยวาย” ส่วน “อดีต รมว.พลังงาน” ดรามาไม่เลิก โพสต์เฟซ “อยากจะลืม เหตุดัน สำรวจฯรอบที่ 21 - พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ไม่สำเร็จ
วันนี้ (20 ส.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ให้พร้อมสำหรับการถ่ายรูปติดบัตรรัฐมนตรีใหม่ โดยใช้ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ได้มีการจัดเตรียมรถตู้จำนวน 3 คัน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ส.ต.ช.) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับนำรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของการถ่ายภาพหมู่รัฐมนตรี บริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้านั้น ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเตรียมพร้อมไว้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 16.45 น.
ด้าน นายสมหมาย ภาษี อดีต รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้รับเชิญด้วยดีจาก นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. ให้มานั่งตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ทราบว่า นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีต รมว.พลังงาน และ นายพรชัย รุจิประภา อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้ตอบรับแล้วเช่นกัน ส่วน นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช อดีต รมว.อุตสาหกรรม จะกลับไปนั่งประธานของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งตามเดิม
“ผมเข้าใจว่า หม่อมอุ๋ยไม่ได้รับเชิญก็เลยโวยวาย ส่วนผมได้รับเชิญจากเลขา ครม. เป็นอย่างดี และได้หนังสือขอบคุณที่ร่วมทำงานที่ผ่านมาเป็นอย่างดี ร่วมช่วยเหลืองานรัฐบาล และช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน” นายสมหมาย กล่าว
มีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคมนี้ นายสมหมาย จะจัดงานเลี้ยงอำลาและขอบคุณเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ รวมถึงสื่อมวลชนประจำกระทรวงการคลัง
อีกด้าน นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีต รมว.พลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอำลาแฟนเพจในนาม รมว.พลังงาน มีใจควาวว่า “สวัสดีวันพฤหัสบดีที่ 20 ส.ค. 2558 ครับ
สารถึงท่านประชาชนทาง FB ของผมวันนี้เป็นฉบับสุดท้าย เพราะผมพ้นภาระหน้าที่ รมว.พลังงาน ตามที่ท่านประชาชนทั้งหลายทราบแล้ว จึงขอเขียนทบทวน ว่าเกือบ 12 เดือนแห่งการ “เดินลุยไฟ” มีอะไรที่อยากจำ อะไรที่อยากลืม ผมได้รับมอบหมายให้มาดูแลภาคพลังงาน โดยให้มาช่วยจัดภาคพลังงานให้เข้าร่องเข้ารอย เพื่อว่าภาคพลังงานจะได้พัฒนาต่อไปข้างหน้าได้ ชัดเจนครับ อะไรที่อยู่กับร่องกับรอย ก็จะเคลื่อนต่อได้ง่าย
ที่จัดได้เกือบสำเร็จ 100% คือ โครงสร้างราคาเชื้อเพลิงสารพัดชนิด ทั้งสะท้อนต้นทุน และเป็นธรรม และสนองนโยบายเชื้อเพลิงทดแทน สำหรับนักเศรษฐศาสตร์ อาวุธหลักของนโยบาย คือ ราคา ใช้ให้ดีจะมีผลมากที่สุด โดยไม่ต้องลงทุน ทั้งนี้ก็เพราะมนุษย์นั้น “รักอะไรก็ไม่รักเท่ารักเงิน” ถ้าต้องซื้อของราคาสูง จะประหยัดสุด ๆ ผู้ผลิต ถ้าได้ราคาดี ก็จะตั้งใจผลิต ตั้งใจขายสุด ๆ ในศาสตร์ของเศรษฐกิจ Adam Smith ถึงได้เป็นตำนาน ก็เพราะท่านเน้นให้ใช้ราคาเป็นอาวุธ
งานเรื่องราคาที่เหลือ มีอีกนิดเดียว คือ หนึ่งปรับราคา NGV ให้สะท้อนต้นทุน แล้วปล่อยลอยตัว ยกเว้น NGV ของยานยนต์สาธารณะที่ต้องควบคุม และควรมีการเก็บภาษีสรรพสามิต LPG เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ให้เป็นธรรมกับผู้ใช้น้ำมัน ที่เสียภาษีสรรพสามิตมากกว่า และสุดท้ายคือ น้ำมัน Gasohol E95 กับ E91 ให้เหลือตัวเดียว โดยลดราคา E95ลงให้เท่ากับ E91 ใครอยากใช้อะไรก็ตามใจ ในที่สุด ก็จะเหลือตัวเดียว จะเรียกว่า E อะไร หรืออีแย้มก็ตามใจ
เรื่องการผลิตพลังงาน มีเรื่องที่อยากจำน้อย เรื่องอยากลืมมีมากกว่า ที่อยากจำก็คือ ได้จัดขบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สำเร็จไปมาก ทั้งไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ ทั้งจากลาวและเมียนมา แต่กัมพูชา ยังไม่ได้ทำ เพียงแค่ติดต่อ เปิดทาง
ส่วนที่อยากลืมคือ การจัดการผลิตในประเทศ ทั้งเชื้อเพลิง และไฟฟ้า จะให้มีการสำรวจฯรอบที่ 21 ก็ไม่สำเร็จ พยายามแก้ พ.ร.บ. ปิโตรเลียม ตามคำเรียกร้อง ก็ยังทำไม่เสร็จ เลยเปิดสำรวจฯรอบที่ 21 ใหม่ไม่ได้ จะเริ่มจัดวิธีการบริหารแปลงสัมปทานที่จะหมดอายุ ก็ยังอยู่แค่เตรียมการ เพราะมีการพยายามให้เรื่องไปโยงกับการแก้ พ.ร.บ. ปิโตรเลียมด้วย แล้วที่เจอก๊าซธรรมชาติเพียงน้อยนิด ที่แปลงดงมูล จ.กาฬสินธุ์/ขอนแก่น ก็ถูกต่อต้านถึงขั้นยอมให้รถทับตาย เลยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะผลิตได้
เหตุการณ์ที่อยากลืม แต่คงลบภาพไม่ออก ก็คือ ตอนผมไปตรวจแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อ 9 ส.ค. 2558 มีสตรีคนหนึ่ง กระโดดจากริมถนน มาให้รถที่ผมนั่งให้ชน ให้ทับ ดีที่เจ้าหน้าที่ชาย 2 คนดึงร่างเธอออกไปทัน คือ ถ้าไม่ดึงออก ชนและทับแน่นอน เพราะรถที่ผมนั่ง มีคำสั่งจากฝ่ายมั่นคงว่า ห้ามหยุดรถเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับคนในรถ
เรามีคนไทย ที่หวง/ห่วงทรัพยากรแผ่นดินและพื้นที่ถึงขั้นยอมตาย จะอธิบายว่า เราจัดการปัญหาได้ เท่าไร ก็ไม่เชื่อ
การผลิตพลังงานไฟฟ้า ก็ทำได้ไม่ครบครับ พลังงานไฟฟ้าทดแทน ทำไปได้มาก แก้ปัญหาไปมาก แต่ไม่หมด ยังมีโครงการที่มีปัญหาทั้งใหญ่ กลาง เล็ก จิ๋ว อีกจำนวนมาก ปัญหาเกิดจากระบบเราเริ่มต้นไม่สมบูรณ์ เมื่อมีการตกลงโครงการใดกับใคร จึงมักไม่สะเด็ดน้ำ ผมก็ทั้งแก้ของเก่า และจัดระบบใหม่ ส่วนที่จะจำคือ ระบบใหม่ แต่ที่อยากลืม คือผู้ที่มาร้องเรียนทั้งหลายที่โครงการ เกิดจากระบบเก่า แล้วไม่สามารถทำได้สำเร็จ
เรื่องพลังงานทดแทนนี้ มี 2 ประเด็น คือ ระบบสายส่ง ที่ต้องเหมาะสมกับผู้ผลิตจำนวนมาก และราคารับซื้อ ชัดเจนว่า ที่ผ่านมา ราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนบางประเภทสูงเกินไป เกิดการแย่งกันผลิต แย่งสายส่งกัน ใครไม่ได้ ก็ไม่พอใจ เพราะพลาดโอกาสทำกำไร เห็นไหมครับ ตอกย้ำสัจธรรมที่ว่า “รักอะไรก็ ไม่รัก เท่ารักเงิน”
ส่วนพลังงานไฟฟ้าหลัก พยายามให้มีโครงการจากถ่านหินเพิ่มขึ้น เพื่อลดการพึ่งก๊าซธรรมชาติที่สูงเกินไปคือ ประมาณ 2 ใน 3 ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ แล้วถ่านหินก็จะช่วยมาลดค่าเฉลี่ยของค่าไฟด้วย ขอเรียนว่า ที่ทำนี้ ไม่ใช่ชอบถ่านหิน ไม่ใช่ไม่รู้ว่า ถ่านหินมี CO2 มากกว่าอย่างอื่น แต่เราก็ต้องใช้บ้าง เรื่องนี้มีการต่อต้านตลอด งานจึงช้าไปกว่าที่ควร คนบางกลุ่ม ชี้แจงอย่างไรก็ไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าภาครัฐจะทำได้ นั่นพอรับได้ แต่ไม่เชื่อว่าจริงนี่สิสุดยอด ประเภทบอกว่า อย่าเอาความจริงมาให้ชั้นสับสน - Don’t confuse me with fact.
สุดท้าย เรื่องที่อยากจำ และคงจำได้แน่ คือมาอยู่ภาคพลังงาน ได้เห็นความสามารถของมนุษย์คนไทย ทางเทคโนโลยีพลังงานว่า พัฒนาไปไกลมาก เกิดทางเลือกในการใช้พลังงานทั้งไฟฟ้า และเชื้อเพลิง ทั้งแสงไฟจาก Electronic (LED) และจาก Electrical ตลอดจนการเอา Carbon จากพืชมาใช้เป็นแหล่งพลังงาน เป็นวัตถุดิบ เป็น Bio-Plastic ใช้ในการผลิตสินค้าต่าง ๆ
เห็นเรื่อง Technology ทางพลังงานแล้ว พอใจมาก เรามีอนาคตแน่ ขอแต่เพียงให้ช่วยกันรับรู้ รับทราบ ยอมรับ และสนับสนุนตามความเหมาะสม
การลาจากก็ต้อง Sentimental บ้างเป็นธรรมดา ไม่แน่ใจว่าควรจะเป็น Blogger ต่อไหม คงคิดถึงผู้อ่าน ตัวเลขผู้อ่าน FB ของผมครั้งละหลายหมื่นคน ตอนเขียนเรื่องข้าบดินทร์ มีคนอ่านหลายแสนคน กรุณากดLike มาก็ 8,000 กว่าแล้ว ที่เขียนให้ความคิดความเห็นมาก็มาก ผมได้เรียนรู้ไปด้วย ที่ถามมา มีคำถามดีๆมาก ผมไม่มีเวลาตอบ ขออภัยด้วยครับ ส่วนที่แสดงความเกลียดชัง ว่ามาแรงๆบางราย ก็ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่า การทำงานสาธารณะ เราอาสามาทำเอง ผลเสียข้างเคียง ที่ตามมากระทบ (Collateral Damage ) คือ
o เดินกลางฝน ก็ต้องเปียก
o เดินกลางโคลน ก็ต้องเปรอะ
o เดินกลางน้ำมัน ก็ต้องเปื้อน
o เดินกลางไฟ ก็ต้องไหม้
จริง ๆ แล้ว ก็ไมได้เปื้อน ไม่ได้ไหม้มากมาย เพราะชุมชนชาวพลังงานที่ผมทำงานด้วย ช่วยให้ผมทำในสิ่งที่ถูกที่ควร จึงอยู่รอดปลอดภัยมาได้ตลอดปี ส่วนนี้ขอขอบคุณ และจะจำไม่มีวันลืม แล้วก็อยากจะขอท่านประชาชน ให้ช่วยกันดูแลภาคพลังงาน ให้เรามีพลังงานใช้กันอย่างทั่วถึง ชั่วลูกชั่วหลานด้วยครับ
คิดถึงกันบ้างนะครับ
สวัสดีครับ..
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้ เพราะแต่ละท่านถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คนใหม่ ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ในสายงานของกระทรวงพาณิชย์ เป็นถึง อดีตเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก, อดีตอธิบดีกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์, อดีตอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ น่าจะมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการค้า การลงทุนมากกว่า
นพ.วรงค์ กล่าวว่า แต่การนำข้าราชการผู้ใหญ่ ที่เติบโตมาสายข้าราชการมาเป็นรัฐมนตรี ก็มีจุดอ่อน โดยเฉพาะเซ็นท์ต่อความต้องการของประชาชนนั้นยังน้อย เพราะข้าราชการที่เติบโตมาส่วนใหญ่แล้ว ยังยึดติดและเคยชินต่อความเป็นนาย ก็ขอฝากให้ท่านรัฐมนตรีตระหนักต่อสิ่งนี้ ทางที่ดีก็ควรจะหาทีมที่ปรึกษาดีๆ มีประสบการณ์ต่อมุมการเมือง เพราะวันนี้ นอกจากรัฐมนตรีจะต้องใช้ความรู้ความสามารถในสายงานแล้ว ต้องมีความเข้าใจในมุมการเมือง รับรู้เร็วต่อสัมผัสทางการเมือง เพราะการเมืองจะแหลมคมขึ้น
“ที่สำคัญ ก็ขอให้ ครม. ใหม่เข้าไปแล้วต้องทุ่มเททำงานเลย เพราะปัญหาของประเทศขณะนี้หนักหนามาก เพียงแต่ว่าประชาชนยังให้กำลังใจท่านนายกฯประยุทธ์ในการในฝ่าอุปสรรค ดังนั้นครม.ไม่ต้องไปรับเลี้ยงฉลองตำแหน่งใดๆ เพราะไม่มีเวลาให้เลี้ยงฉลอง และไม่มีเวลาให้ท่านนายกฯปรับครม.อีกแล้ว ขั้นตอนพิธีการเสร็จแล้ว ให้ลุยงานทันที ผมเชื่อว่าจะได้ใจ ความเชื่อมั่นต่างๆจะกลับคืนมาอีกด้วย” นพ.วรงค์ กล่าว