บิ๊ก TPBS ตบเท้ายื่นหนังสือ กมธ.ยกร่างฯ ค้านปรับภาษีบาป เหตุตัดท่อน้ำเลี้ยงกระทบช่อง ย้ำ จำเป็นต้องมีสื่อสาธารณะเพื่อประชาชน กมธ.รับไปทบทวน แจงพิจารณา 2 ส่วน เก็บจัดสรรรายได้ การดำรงอยู่ขององค์กรที่ใช้ภาษีจุดนี้ ประธาน กมธ.ปฏิรูปสื่อเห็นพ้องเตรียมถกทบทวน
วันนี้ (6 ส.ค.) นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ประธานกรรมการนโยบายองค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือไทยพีบีเอส และนายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการไทยพีบีเอส เข้ายื่นหนังสือต่อนายมานิจ สุขสมจิต และนายสุจิต บุญบงการ รองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้ทบทวนการปรับบทบัญญัติมาตรา 190 วรรคสี่ ที่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีและการจัดสรรเงิน ซึ่งกำหนดให้เพียงพรรคการเมืองและองค์การบริหารท้องถิ่นตามที่รัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือเสนอมาซึ่งจะกระทบต่อไทยพีบีเอส ที่เดิมแล้วได้รับการจัดสรรเงินจากภาษีสรรพสามิตสุราและยาสูบ แต่หากปรับไปตามบทบัญญัติที่มีการเสนอมานี้ก็จะกระทบต่อการดำรงอยู่ของไทยพีบีเอส รวมถึงสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ
“ความสำคัญที่จำเป็นต้องมีสื่อสาธารณะที่ทำประโยชน์เพื่อประชาชน ทำหน้าที่ตรวจสอบ และไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายใด” นายณรงค์ย้ำ
ขณะที่นายมานิจกล่าวว่า คณะกรรมาธิการยกร่างฯ จะมีการทบทวนเนื้อหาในส่วนนี้ ร่วมกับประเด็นอื่นๆ ที่จะต้องมีการทบทวนพร้อมกันในวันที่ 10-11 สิงหาคมนี้
ด้านนายคำนูญ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า โดยเบื้องต้นแล้วหลักการที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯ จะพิจารณา หากเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการสุรายาสูบ แต่กระทบต่อองค์กรสาธารณะก็ย่อมเป็นเหตุที่จำเป็นต้องทบทวน รวมถึงการเก็บภาษีเพื่อวัตถุประสงค์ (Earmarked Tax) ก็ไม่ได้หักออกจากภาษีที่จัดเก็บได้ก่อนส่งเข้ารัฐ แต่เป็นการเก็บเพิ่มที่จากที่รัฐได้ จึงไม่กระทบต่อรายได้ของรัฐ ซึ่งการพิจารณาของคณะกรรมาธิการยกร่างฯ จะแบ่งเป็นสองส่วน คือ ลักษณะการเก็บและจัดสรรรายได้เพื่อวัตถุประสงค์ และการดำรงอยู่ขององค์กรที่ใช้ภาษีในส่วนนี้ซึ่งจะมีความชัดเจนในวันที่มีการทบทวน
ขณะเดียวกัน คณะผู้บริหารไทยพีบีเอสได้ยื่นหนังสือถึงนายจุมพล รอดคำดี ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ ร้องเรียนเกี่ยวกับข้อท้วงติงที่เกิดขึ้น โดยนายจุมพล ได้เห็นถึงความสำคัญที่จะกระทบต่อการทำงานของไทยพีบีเอสซึ่งทางคณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนฯ จะมีการหารือกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญถึงการทบทวนบทบัญญัติดังกล่าว
