xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” เสนอคุมเพดานภาษีบาปอุดหนุน “สสส.-ไทยพีบีเอส” หวั่นของบจากสภาฯ ถูกนักการเมืองเมิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้กำหนดเพดานภาษีบาปอุดหนุน สสส. - ไทยพีบีเอส แทนการให้ของบประมาณจากสภา ระบุที่ใช้เพื่อเป็นหลักประกันความเป็นอิสระ หวั่นหากทำอะไรไม่ถูกใจนักการเมืองก็จะถูกลดงบประมาณ

วันนี้ (5 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 190 และมาตรา 204 วรรคสอง เกี่ยวกับการใช้งบประมาณให้เป็นตามวินัยการเงินการคลัง เพื่อไม่ให้นำเงินจากการเก็บภาษีสุราและภาษียาสูบ หรือที่เรียกว่า ภาษีบาป มาอุดหนุนแก่กองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ว่า ปกติจะมีการใช้ภาษีบาปที่กันเอาไว้เป็นข้อยกเว้นสำหรับบางองค์กรเท่านั้น เพื่อที่จะเป็นหลักประกันในความเป็นอิสระ มิฉะนั้น จะมีปัญหา เช่น ทำงานไปไม่ถูกใจรัฐบาล รัฐบาลไม่จัดงบประมาณให้เขา ก็ทำงานไม่ได้ แต่ขณะเดียวกัน เมื่อเราใช้ระบบนี้ไปแล้วก็จะมีประเด็นที่ต้องมาพิจารณา เช่น บางองค์กรได้เงินเยอะเกินไป หรือเกินความจำเป็น หรือมีเงินสะสมเยอะเกินไป ก็มาพิจารณาในกรอบนั้นมากกว่า การจะไปยกเลิกแนวคิดที่บอกว่า กันภาษีไว้ให้สำหรับบางองค์กร เพื่อความเป็นอิสระนั้น ตนมองว่าไม่ควรไปยกเลิก แต่ควรอาจจะไปปรับแก้กติกาบางอย่างสามารถทำได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ใช้กับ 2 หน่วยงานนี้ ยังมีอีกบางหน่วยงานที่ตามมา แนวคิดหลักคือไม่ต้องการให้การเมืองเข้าไปแทรกแซง แต่หากการมีรายได้ของเขา ต้องมาขอนักการเมือง หรือขอจากรัฐบาล หรือขอจากสภานั้น เราเกรงว่ามันจะกระทบเรา จึงให้หลักประกันเขาว่า ควรเอาเงินจากภาษีบาปมาใช้ แต่หากเห็นว่าเงินมันเยอะเกินก็อาจจะมีการปรับแก้กติกาได้ เช่น กำหนดเพดาน หรือกำหนดว่าถ้ามีเงินสะสมเท่าไรแล้ว ปีนั้นก็ไม่ให้ แต่อย่าให้เป็นการตัดสินใจของฝ่ายการเมือง สมมติว่า ไทยพีบีเอสทำงานเสนอรายงาน เสนอรายการไม่ถูกใจรัฐบาล แล้วรัฐบาลตัดงบที่จะให้เขา เขาก็ทำงานไม่ได้ มันก็เท่ากับเอาอำนาจของรัฐเขาไปกดดัน ทำให้เขาทำงานไม่เป็นอิสระ


กำลังโหลดความคิดเห็น