สมช.ก้นร้อนบินไปดู “อุยกูร์” ที่จีน รอ “ประวิตร” ไฟเขียวตั๋วเครื่องบิน

“ประวิตร” สั่ง สมช.- กต.- สตม. ประชุมด่วนปมชาวตุรกีเดือดทุบสถานกงสุลไทยในอิสตันบูล สั่ง “อนุสิษฐ” ไปแจงสาธารณชน เจ้าตัวเตรียมจัดหน่วยราชการเดินทางไปดูความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ตามคำเชิญของจีน ร้อนรนจะเดินทางไปเร็วที่สุด รอแค่ผู้บังคับบัญชาอนุมัติ

วันนี้ (10 ก.ค.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ประชุมด่วนร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อหารือกรณีมีกลุ่มผู้ประท้วงชาวตุรกีบุกก่อเหตุรุนแรง และบุกทำลายทรัพย์สินที่สถานกงสุลไทยกิตติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล เนื่องจากไม่พอใจการตัดสินใจของทางการไทยที่ส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน พร้อมทั้งสั่งการให้เลขาธิการ สมช. แถลงชี้แจงทำความเข้าใจต่อสาธารณชนถึงการดำเนินการของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ โดยนายอนุสิษฐได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเวลา 16.00 น. ที่ตึกสำนักงาน สมช.

ต่อมาเวลา 17.30 น. นายอนุสิษฐ แถลงภายหลังการประชุม ว่า ตั้งแต่เดือน มี.ค. 57 ชาวอุยกูร์ประมาณ 300 กว่าคน ได้หลบหนีเข้าประเทศไทย และรัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้ไทยส่งบุคคลเหล่านี้กลับไปยังประเทศจีน เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายในประเทศจีน รัฐบาลไทยได้ขอให้ฝ่ายจีนดำเนินการส่งหลักฐานการกระทำผิด และการพิสูจน์สัญชาติให้แก่ฝ่ายไทยพิจารณา ก่อนที่จะดำเนินการส่งตัวให้ฝ่ายจีนต่อไป โดยรัฐบาลไทยได้พิจารณาอย่างรอบคอบจากหลักฐานของทุกฝ่าย สรุปว่า สามารถแยกชาวอุยกูร์ดังกล่าวได้ 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มแรกจำนวน 172 คน เป็นผู้หญิงและเด็ก ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการกระทำผิดกฎหมาย และบุคคลดังกล่าวได้แสดงความประสงค์ที่จะเดินทางไปตุรกี และรัฐบาลตุรกีพร้อมที่จะรับ และยืนยันว่า ไม่ได้แยกครอบครัว ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้รับหลักฐานการพิสูจน์สัญชาติจากรัฐบาลจีนสำหรับชาวอุยกูร์จำนวน 109 คน และยังมีอีกประมาณ 60 คน ที่ยังอยู่ในความดูแลของประเทศไทย

รัฐบาลไทยจึงได้ดำเนินการดังนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 58 รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์จำนวน 172 คนให้กับรัฐบาลตุรกี ซึ่งได้รับบุคคลเหล่านี้ไปตั้งถิ่นฐานในตุรกีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 58 รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์จำนวน 109 คน ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งหลักฐานการกระทำผิด และการพิสูจน์สัญชาติให้กับฝ่ายไทยแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีชาวอุยกูร์ประมาณ 60 คน อยู่ในความดูแลของรัฐบาลไทย ซึ่งยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลไทยจะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินการของไทยต่อกรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายควบคู่กับหลักมนุษยธรรม และพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย รวมทั้งเป็นการพิจารณาภายใต้การรักษาผลประโยชน์ของชาติ เราไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า สำหรับการส่งกลับชาวอุยกูร์ที่ได้รับการพิสูจน์สัญชาติแล้ว รัฐบาลจีนได้ให้คำรับรองว่าจะดูแลและรับรองความปลอดภัยของกลุ่มชาวอุยกูร์กลุ่มดังกล่าวอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งจะให้ไทยส่งหน่วยที่เกี่ยวข้องเดินทางเข้าไปตรวจเยี่ยมในห้วงเวลาที่เหมาะสม โดยการส่งผู้แทนไปติดตามผลการปฏิบัติ สมช. จะจัดผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยราชการต่าง ๆ เข้าร่วมเดินทางไปตามคำเชิญของจีน เพื่อเข้าไปตรวจสอบความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ที่ส่งกลับไป ซึ่งมีตนเป็นหัวหน้าคณะ โดยจะเดินทางไปจีนโดยเร็วให้สุด คาดว่า เป็นสัปดาห์หน้า ขณะนี้รอเพียงการอนุมัติจาก พล.อ.ประวิตร