กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงกรณีส่งชาวอุยกูร์หลบหนีเข้าเมืองกลับจีน 109 คน เหตุทางการจีนร้องขอเพราะเกี่ยวข้องกับทำผิดกฎหมาย รัฐบาลจีนยืนยันปฏิบัติด้วยความเป็นธรรม รับรองความปลอดภัย พร้อมให้ สมช. และเชิญกาชาดสากลไปติดตาม ส่วนม็อบตุรกีพังสถานกงสุลไทยที่อิสตันบูล ไม่พบคนไทยบาดเจ็บ เตือนเพิ่มความระมัดระวัง-ติดตามข่าวสารใกล้ชิด
วันนี้ (10 ก.ค.) กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีการส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวมุสลิมที่อ้างว่าเป็นชาวตุรกี (ชาวอุยกูร์) ระบุว่า ตามที่ได้มีการส่งชาวอุยกูร์ไปประเทศจีนเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้
1. ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 ชาวอุยกูร์ประมาณ 300 กว่าคนได้หลบหนีเข้าประเทศไทย และรัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยส่งบุคคลเหล่านี้กลับไปยังประเทศจีน เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายในประเทศจีน รัฐบาลไทยได้ขอให้ฝ่ายจีนดำเนินการส่งหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติให้แก่ฝ่ายไทยพิจารณา ก่อนที่จะดำเนินการส่งตัวให้ฝ่ายจีนต่อไป 2. รัฐบาลไทยได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมควบคู่ไปกับหลักสิทธิมนุษยชนและพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย
3. รัฐบาลไทยได้พิจารณาอย่างรอบคอบจากหลักฐานของทุกฝ่าย สรุปว่าสามารถแยกชาวอุยกูร์ ดังกล่าวได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกจำนวน 172 คน ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการกระทำผิดกฎหมาย และบุคคลดังกล่าวได้แสดงความประสงค์ที่จะเดินทางไปตุรกีและรัฐบาลตุรกีพร้อมที่จะรับ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้รับหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติจากรัฐบาลจีนสำหรับชาวอุยกูร์ จำนวน 109 คน และยังมีอีกประมาณ 60 คนที่ยังอยู่ในความดูแลของไทย
4. จากข้อเท็จจริงข้างต้น รัฐบาลไทยจึงได้ดำเนินการดังนี้
4.1 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์จำนวน 172 คน ให้กับรัฐบาลตุรกี ซึ่งได้รับบุคคลเหล่านี้ไปตั้งถิ่นฐานในตุรกีเรียบร้อยแล้ว
4.2 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์ จำนวน 109 คน ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งหลักฐานการกระทำผิดและการพิสูจน์สัญชาติให้กับฝ่ายไทยแล้ว
4.3 ขณะนี้ยังมีชาวอุยกูร์ประมาณ 60 คน อยู่ในความดูแลของรัฐบาลไทยซึ่งยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย รัฐบาลไทยจะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป
5. ตามที่หลายฝ่ายมีความห่วงกังวลว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปยังประเทศจีนอาจถูกลงโทษอย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตนั้น รัฐบาลจีนได้ยืนยันกับรัฐบาลไทยว่า จะปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านี้ด้วยความเป็นธรรมและรับรองความปลอดภัย นอกจากนั้น ผู้ที่ไม่มีความผิดจะได้รับการดูแลให้กลับคืนสู่สังคมและรัฐบาลจีนจะจัดหาที่ทำกินให้ตามความเหมาะสมต่อไป
6. รัฐบาลจีนยินดีเชิญให้รัฐบาลไทยส่งผู้แทนไปติดตามผลการปฏิบัติ ซึ่งสภาความมั่นคงแห่งชาติจะจัดผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยราชการต่างๆ รวมทั้งจะพิจารณาเชิญองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เข้าร่วมกับฝ่ายไทย เดินทางไปตามคำเชิญของรัฐบาลจีนต่อไป
ส่วนกรณีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล ในช่วงดึกของวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ตามเวลาท้องถิ่น นั้น กระทรวงการต่างประเทศ ขอเรียนว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ไม่พบว่ามีคนไทยในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บ
กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามสถานการณ์และประสานงานกับทางการตุรกีในทุกระดับอย่างใกล้ชิด ให้ดูแลสวัสดิภาพและทรัพย์สินของคนไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ รายงานว่า ทางการตุรกีได้ให้คำมั่นจะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยในตุรกีอย่างเต็มที่
ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทยเข้าพบ เพื่อหารือถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายตุรกีรับทราบข้อห่วงกังวลของฝ่ายไทย และยืนยันว่าทางการตุรกีให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของคนไทยและสถานเอกอัครราชทูตฯ ในตุรกีอย่างยิ่งยวด และได้เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยของสถานเอกอัครราชทูตฯ ด้วยแล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอให้คนไทยในพื้นที่ ตลอดจนนักท่องเที่ยวไทยที่อยู่ในตุรกีหรือวางแผนเดินทางไปตุรกี เพิ่มความระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด อนึ่ง สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ในกรณีฉุกเฉินได้ที่หมายเลข Hotline +90 533 641 5698 และติดตามข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่ https://www.facebook.com/rteankara.