รองนายกรัฐมนตรีย้ำห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา 300 เมตร รวมร้านชำ ร้านสะดวกซื้อ ลั่นพบทำผิดยึดใบอนุญาต รับรัฐบาลหนักใจกรณีส่งอุยกูร์กลับจีน เหตุอยู่ตรงกลาง ยันพยายามทำให้เหมาะสม ไม่ให้ผิดกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.15 น. นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า เนื่องจากปัจจุบันมีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าเป็นห่วง จึงมีมาตรการกำหนดบริเวณไม่ให้มีสถานประกอบการที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวะศึกษาในระยะ 300 เมตร ทั้งนี้ รวมถึงร้านค้าของชำ ร้านสะดวกซื้อต่างๆ ซึ่งเป็นประเภทขายปลีก โดยเป็นไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีรมว.สาธารณสุขเป็นประธาน คาดว่า ภายใน 2-3 วันนี้จะมีประกาศออกมา หลังจากนั้น 30 วันจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ แม้จะอยู่นอกระยะ 300 เมตร แต่จะให้มีมาตรการคุมเข้ม มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นจะไม่มีการลดหย่อนทั้งสิ้น จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เช่น ยึดใบอนุญาต เป็นต้น นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้วยังมีมาตรการเสริมที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้ใช้มาตรา 44 ควบคุมด้วย ซึ่งจะเป็นการดำเนินการที่เสริมกัน
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ประท้วงชาวตุรกีบุกก่อเหตุรุนแรง บุกทำลายทรัพย์สินที่สถานกงสุลไทยกิตติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล เนื่องจากไม่พอใจการตัดสินใจของทางการไทยที่ส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลมีความหนักใจมานานแล้ว เนื่องจากเราจะต้องนึกถึงสิทธิมนุษยชน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าเขากระทำผิดกฎหมายหรือไม่ โดยประเทศต้นทางระบุว่าผิดกฎหมาย แต่ประเทศที่เป็นปลายทางบอกว่าคนเหล่านี้จะไปประเทศที่แท้จริงของเขา เราอยู่ตรงกลางก็หนักใจ พยายามดำเนินการให้เหมาะสมที่สุด ไม่อยากให้ทำอะไรที่มันผิดต่อกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ