ปธ.กมธ.ปฏิรูปการเมือง เผย นัดถกพรุ่งนี้ส่งตัวแทนรับฟังคำชี้แจงแก้ร่าง รธน. แจง เสนอโหวตลับเป็นความเห็นส่วนบุคคล ยังไม่ยุติ รับสนใจเรื่องถ่วงดุลอำนาจ ที่มานายกฯ ย้ำ ค้านนายกฯคนนอก โอเพ่นลิสต์ทำ รบ. อ่อนแอ ขออย่าเขวตาม รธน. ต้องปฏิรูปได้ ยกปรองดองเกิดได้ ต้องเคารพ กม. เชื่อ ทางการเมืองมีแต่คนยอมตายดีกว่ารับผิด นิรโทษฯไม่บังคับสำนึกผิด
วันนี้ (5 ก.ค.) นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สมาชิกสปช. ในฐานะประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง กล่าวถึงกรณี กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเชิญผู้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 8 กลุ่มของ สปช. เข้ารับฟังคำชี้แจงเหตุผลการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละประเด็นว่า กมธ.ปฏิรูปการเมืองจะประชุมหารือกันในวันที่ 6 ก.ค. แต่ยังไม่แน่ใจ จะมีข้อสรุปว่าใครจะเป็นตัวแทนของกลุ่มหรือไม่ เพราะล่าสุด กมธ.ยกร่างฯ ยังไม่แจ้งกำหนดวันแน่ชัดมา ส่วนกรณีมีกระแสข่าว สปช. เสนอให้การโหวตร่างเห็นชอบรัฐธรรมนูญ ให้เป็นการลงมติลับนั้น ขณะนี้เป็นเพียงบุคคลเสนอความเห็น ยังไม่เป็นข้อยุติ ถ้ายุติแล้ว ประธานสปช. คงจะต้องประกาศให้ทราบ
นายสมบัติ กล่าวว่า ตามภาพรวมการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ตนสนใจจับตา กมธ.ยกร่างฯ จะเอาอย่างไร เรื่องการถ่วงดุลอำนาจ เรื่องกลไกการตรวจสอบ ที่มักทำไม่สำเร็จ มักแพ้รัฐบาลเสียงข้างมาก อีกประเด็นคือ ที่มานายกรัฐมนตรี กมธ.ยกร่างฯ ปฏิรูปถอยหลังให้คนนอกมาเป็นนายกฯได้ มันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน เมื่ออำนาจฝ่ายบริหารไม่เชื่อมโยงประชาชน ทำลายสามเสาหลักประชาธิปไตย การยืนยันไม่ตัดระบบเลือกตั้งโอเพ่นลิสต์ออก คือ อยากได้รัฐบาลอ่อนแออีกหรือไม่ ถ้านึกภาพรัฐบาลอ่อนแอไม่ออก ให้นึกถึงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ที่พรรคแกนนำมีเสียงไม่ถึงครึ่ง จนถูกพรรคร่วมขี่คอ สรุปมีกระทรวงใดๆ เหลือให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารบ้างนึกสิ ถ้าเกิดภาพการต่อรองแบบนี้อีก ประเทศจะมีอนาคตหรือ แบบนี้ไม่เรียกปฏิรูปแต่ถอยหลังเข้าคลอง
“ถ้าคุณจะเขียนมาตราอื่นดีก็ไร้ประโยชน์ มันเหมือนคนเรา ปอดดี ไตดี กระเพาะดี แต่ว่าหัวใจรั่วจะอยู่ได้อย่างไร มันก็ตาย แต่อย่าเขวตามเสียงติ มันจะยิ่งสะเปะสะปะ ฝากไปถึง กมธ.ยกร่างฯ ว่า การร่างรัฐธรรมนูญที่ดีจะปฏิรูปการเมืองได้ ทำให้ประเทศเข้มแข็งได้ แต่ถ้าร่างมาไม่ดีจะทำให้การเมืองอ่อนแอ ประเทศจะไม่มีอนาคต”
นายสมบัติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการปรองดองนั้น จะเกิดขึ้นได้ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมาย เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายก็เคารพ เรื่องใดไม่เกี่ยวข้องปรองดองได้หมด เพราะคนไทยด้วยกัน ไม่ต้องมาเหมา หรือแยกเป็นเข่งๆ ทั้งสิ้น ปกติเรื่องการนิรโทษกรรม จะนิรโทษเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดอาญาร้ายแรง ส่วนที่ออกมาระบุกันทำนองว่า ให้มารับผิดก่อน แล้วค่อยนิรโทษหรืออภัยโทษนั้น มองว่าในทางการเมืองมีแต่คนยอมตายดีกว่ารับผิดเพราะมันคือศักดิ์ศรี น่าอับอาย ไม่มีใครทำหรอก ฉะนั้น คำว่านิรโทษกรรม เขาถึงไม่ไปละเมิดความคิดความเห็นทางการเมืองกัน จะไปบังคับให้สำนึกผิด มันเท่ากับละเมิด ความเชื่อทางการเมืองมันทำไม่ได้ มันละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์