xs
xsm
sm
md
lg

สนช.ผ่านร่างแก้ รธน.ชั่วคราวแล้ว! “วิษณุ” ฉายตัวอย่างถามเรื่องบ่อน-เลือกผู้ว่าฯ ในประชามติได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“วิษณุ” แจงดะ ชี้เปิดช่องถามเพิ่มในประชามติเอาเรื่องอื่น เช่น เปิดบ่อนเสรี หรือเลือกตั้งผู้ว่าฯ ได้ ชี้คำถามความเห็นรัฐธรรมนูญ ถ้าตั้งไม่สอดคล้องก็มีปัญหา ด้าน “สุวพันธุ์” เผยกรอบเวลาสภาขับเคลื่อนฯ อยู่ตามรัฐบาลและต้องดูในรัฐธรรมนูญใหม่ ก่อนลงมติโหวตวาระ 3 ผ่านฉลุย 203 เสียง งดออกเสียง 3

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ประชุมได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับแก้ไข มาตรา 5 เรื่องขั้นตอนการทำประชามติ สนช.หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การให้ สนช.และสปช.ตั้งคำถามเพื่อทำประชามติ สามารถสอบถามในประเด็นอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ และเมื่อประชาชนได้ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแล้วจะสามารถแก้ไขเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ตามความเห็นของประชาชนในประเด็นคำถามประชามติข้อสองได้อย่างไร

นายวิษณุชี้แจงว่า การกำหนดคำถามประชามติเพิ่มเติมนั้นสามารถถามได้ทั้งเรื่องที่อยู่ในหรือนอกร่างรัฐธรรมนูญ เช่น เห็นด้วยกับการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายหรือไม่ หรือ เห็นด้วยกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากแต่ละสภาก่อน ส่วนการแก้ไขเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญตามความเห็นของประชาชนในคำถามประชามติข้อสองนั้น ส่วนตัวคิดว่าการตั้งคำถามต้องตั้งคำถามให้ดี ถ้าตั้งไม่ดีก็อาจมีปัญหาได้ เช่น ถ้าลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไปตั้งคำถามว่าเห็นด้วยกับการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงหรือไม่ ถ้าประชาชนบอกว่าเห็นด้วย ก็จะเกิดปัญหาต้องไปแก้รัฐธรรมนูญอีก

ส่วนมาตรา 6 มีการแก้ไขมาตรา 37/1 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ประเด็นการทำประชามติ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า ​ในวรรคท้ายกรณี​ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าร่างรัฐธรรมที่มีการแก้ไขแล้วไม่ตรงกับผลการลงประชามติ จะทำอย่างไร ​ซึ่งนายวิษณุได้ชี้แจงว่า ความเป็นจริงปัญหาเกิดยาก เพราะมติของศาลรัฐธรรมนูญที่จะส่งกลับไปยังกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะบอกชัดเจนว่าไม่ตรงกับประชามติอย่างไรต้องแก้อย่างไร ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีหลายครั้ง

ต่อมามาตรา 7 ให้ยกเลิกมาตรา 38 และ 39 รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 และให้ใช้ข้อความใหม่แทน ในประเด็นเรื่องการสิ้นสุดลงของ สปช. รวมทั้งประเด็นการทำหน้าที่ของกรรมาธิการยกร่างฯ ซึ่งนายธานี อ่อนละเอียด สมาชิก สนช.ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เนื้อหาระบุว่าหาก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญพ้นจากตำแหน่ง ​ให้ กมธ.ยกร่างฯ ที่เหลือ ปฏิบัติต่อไปได้ และให้หัวหน้า คสช.​แต่งตั้งขึ้นมาทำหน้าที่แทน แต่ไม่ได้ระบุในส่วนตำแหน่งของประธาน กมธ.ยกร่างฯ จึงอยากถามว่าหากเกิดกรณีตำแหน่ง ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ว่างลงไมว่าด้วยเหตุใดๆ ทั้ง ​ลาออก หรือมีอันเป็นไป จะทำอย่างไร

นายวิษณุชี้แจงว่า ​ของเดิมเมื่อตำแหน่งต่างๆ ที่มาจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ เมื่อมีปัญหาก็จะย้อนกลับไปที่ตำแหน่งประธาน สปช. แต่เมื่อ สปช.ไม่อยู่แล้ว ทุกอย่างก็จะกลับไปยัง คสช. ​เป็นหลักการเดียวกันว่า ​เมื่อไม่มีตำแหน่งประธาน กมธ.ยกร่างฯ แล้ว หากเกิดก่อนวันลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ก็จะกลับไปสู่ ประธาน สปช.พิจารณา ส่วนหากหลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของหัวหน้า คสช.จะพิจารณาต่อไป

ขณะที่มาตรา 8 มีการเพิ่มข้อความในมาตรา 39/1, 39/2, 39/3 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ประเด็นเรื่องการลงประชามติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ​ โดยนายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช.อภิปรายว่า ต้องการทราบความชัดเจนที่ระบุว่า การออกเสียงประชามติ ให้ กกต.ออกหลักเกณฑ์และวิธีการ และให้ สนช.เห็นชอบนั้น หลักเกณฑ์การพิจารณาของ สนช.จะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ประเด็นที่กำหนดให้สภาขับเคลื่อนปฏิรูปมาทำหน้าที่แทน สปช.โดยคำนึงถึงความสำคัญเร่งด่วน และระยะเวลาที่เหลืออยู่นั้นแสดงว่าไม่ต้องทำทั้ง 37 วาระได้หรือไม่ ​อีกทั้ง นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิก สนช.​กล่าวว่า อยากทราบสาเหตุที่ ต้องยุบเลิก สปช.​ เพราะจะทำให้ขาดความต่อเนื่อง อีกทั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปฯ ไม่มีการกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง จึงเป็นห่วงว่าจะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ

นายวิษณุชี้แจงว่า ​หลักเกณฑ์ของ กกต.จะเสนอเข้ามาคล้ายร่าง พ.ร.บ. ส่วนการพิจารณาหากมีการตั้ง กมธ.วิสามัญ ขึ้นมาล่วงหน้าไปทำการศึกษาร่วมกับ กกต.ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก ซึ่ง สนช.ก็จะมาช่วยทักท้วงแทนสังคม ปัญหาอยู่ตรงที่ บทลงโทษที่ กกต.และ สนช.​ไม่สามารถกำหนดได้เอง ดังนั้น จึงให้นำความใน พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ในส่วนของบทลงโทษ ดังนั้น ไม่ว่าจะฉีกบัตร ​ ขัดขวางการออกเสียงประชามติ ​ย่อมมีความผิดและมีโทษ รวมไปถึงห้ามทำโพลล่วงหน้า 7 วัน ​

ขณะที่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเสริมว่า ​ กรอบระยะเวลาการทำงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปนั้น จะทำงานควบคู่ไปกับรัฐบาลปัจจุบันไปจนกว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะมีผลบังคับใช้ และส่งเรื่องต่อไปยังรัฐบาลชุดใหม่ อีกทั้งจะต้องรอดูประเด็นที่เกี่ยวข้องซึ่งบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไปด้วย

จากนั้นที่ประชุมได้มีการลงมติในวาระ 3 โดยวิธีขานชื่อสมาชิกฯ ซึ่งผลปรากฏว่ามีมติรับหลักการ 203 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ดังนั้น ทาง สนช.ได้มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ตามที่ ครม.และ คสช.เสนอ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายภายใน 15 วันนับแต่วันที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เพื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อใช้บังคับต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น