xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” มาศาลวันเปิดคดี หนีไม่ได้-ติวคดีเข้ม-สู้ไปก่อน?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้ไม่ออกมายืนยันระหว่างไปร่วมงานวันเกิดแซยิด 60 ปี “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ดูรูปการณ์แล้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าห้องพิจารณาคดี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ ในวันอังคารที่ 19 พ.ค.นี้ค่อนข้างแน่

เพราะก่อนหน้านี้เธอปรากฏตัวผ่านสื่ออย่างถี่ยิบต่อเนื่อง แสดงว่ายังไม่เผ่นไปไหน จึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะเบี้ยวไม่ไปศาลฎีกาฯ ในวันอังคารนี้ ที่เป็นวันนัดหมายสำคัญ

เนื่องด้วยวันที่ 19 พ.ค. จะเป็นวันที่องค์คณะผู้พิพากษาในคดีนี้ทั้ง 9 คน อันประกอบด้วย 1. นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา 2. นายวิรุฬห์ แสงเทียน ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา 3. นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา 4. นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา 5. นายศิริชัย วัฒนโยธิน รองประธานศาลฎีกา 6. นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา 7. นายวีระพล ตั้งสุวรรณ รองประธานศาลฎีกา 8. นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา 9. นายธานิศ เกศวพิทักษ์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา จะออกนั่งบัลลังก์เป็นครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การของยิ่งลักษณ์ ในฐานะจำเลยว่าตามสำนวนฟ้องคดีรับจำนำข้าว จำเลยจะยอมรับหรือปฏิเสธ แน่นอน ยิ่งลักษณ์ ต้องปฏิเสธข้อกล่าวหา แล้วขอใช้สิทธิสู้คดีพร้อมกับยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวไปตามขั้นตอน

การพิจารณาคดีในวันอังคารนี้ จึงสำคัญมาก

หากยิ่งลักษณ์ไม่ไปปรากฏตัว ศาลก็จะพิจารณาออกหมายจับทันที ก่อนหน้านั้นก็มีบางฝ่ายออกมาวิเคราะห์รูปคดีนี้กันหลายสูตร มองกันไปต่างๆ ว่ายิ่งลักษณ์จะเอาอย่างไร จะมาหรือไม่มาศาล จะอยู่เมืองไทยหรือไม่ ในช่วง 19 พ.ค. แต่คนก็ยังมองโดยวิเคราะห์จากปมข้อกฎหมาย และกระบวนการไต่สวนคดี ว่าดูแล้วยังไงยิ่งลักษณ์น่าจะมาศาลฎีกาฯ แน่นอนในวันเริ่มต้นการพิจารณาคดี ยิ่งเมื่อดูจากช่วงหลังๆ ที่ยิ่งลักษณ์ เดินสายปรากฏตัวอย่างต่อเนื่อง คนก็เชื่อแล้วว่า 19 พ.ค.นี้ ยิ่งลักษณ์ไปปรากฏตัวที่ศาลฎีกาฯ แน่นอน

แล้วยิ่งลักษณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการออกมาแล้วว่า 19 พ.ค.นี้ได้เจอกันแน่ ที่ศาลฎีกาฯ ทุกอย่างมันก็จะได้ชัดเจนกันไป ดังนั้น 19 พ.ค.นี้ ก็รอดูลีลาการเดินกรีดกรายเข้าห้องพิจารณาคดีของยิ่งลักษณ์แล้วกัน ว่าจะแซ่บขนาดไหน

ขณะเดียวกัน หลัง 19 พ.ค.แล้ว ยังต้องดูด้วยว่าหลังจากนั้น ยิ่งลักษณ์จะปรากฏตัวให้เห็นต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาหรือไม่ เพราะการพิจารณาคดีของศาลฎีกา แตกต่างจากคดีอาญาทั่วไป คือ ตัวจำเลย ไม่จำเป็นต้องมาห้องพิจารณาคดีในวันไต่สวนคดีก็ได้ ดังนั้น ตลอดช่วงการพิจารณาคดี ยิ่งลักษณ์ อาจมาปรากฏตัว เพื่อคอยฟังการเบิกความของพยานทั้งฝ่ายอัยการ และฝ่ายตัวเธอเองหรือจะไม่มาฟังก็ได้

ด้วยเหตุนี้ หลัง 19 พ.ค. อาจเป็นไปได้ว่าจะไม่ได้เห็นยิ่งลักษณ์ ในห้องพิจารณาคดีตลอดช่วงการพิจารณาคดี เพราะยิ่งลักษณ์ไม่อยากมาฟัง ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทีมทนายความสู้คดีกันไป เลยต้องคอยดูว่า หลัง 19 พ.ค. ยิ่งลักษณ์จะเคลื่อนตัวอย่างไร แต่ดูแล้วการยื่นเรื่องขอเดินทางไปต่างประเทศในช่วงที่การพิจารณาคดียังไม่เสร็จสิ้น น่าจะยาก!

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีข่าวว่ายิ่งลักษณ์มีการติวเข้มสู้คดีกับทีมทนายความ และอดีตรัฐมนตรี-แกนนำพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมประเด็นข้อกฎหมาย และข้อมูลต่างๆ ในการสู้คดี ซึ่งเชื่อได้ว่า ประเด็นการสู้คดีในศาลฎีกา จะมีความลึก และรอบด้านในด้านต่างๆทั้ง ข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมาย มากกว่าตอนที่ไปสู้คดีในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติมากมายหลายเท่า

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ยิ่งลักษณ์ใช้จุดนัดพบเพื่อประชุมกับทีมทนายความ และแกนนำพรรคเพื่อไทยสองแห่ง แห่งแรกคือ โรงแรมเอสซีปาร์ค จุดที่ 2 คือ เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งใกล้คฤหาสน์บ้านพักเลขที่ 38/9 ซอยโยธินพัฒนา 3 เขตลาดพร้าวของยิ่งลักษณ์ ส่วนผลการติวเข้มตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะออกมาอย่างไร ก็รอติดตามการสู้คดีกันให้ดีแล้วกัน

อย่างไรก็ตาม ก็มีการมองข้ามช็อตไปแล้วว่า แล้วในวันที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษา ยิ่งลักษณ์จะมาปรากฏตัวหรือไม่ แล้วหากไม่มาในนัดแรก ถ้าศาลฎีกาฯนัดอ่านครั้งที่ 2 ยิ่งลักษณ์จะมาหรือไม่มา หรือจะหายตัวไปเลย อันนี้ต้องคอยดูเมื่อถึงตอนนั้น

ทว่า กองเชียร์ยิ่งลักษณ์จำนวนมากก็ยังเชื่อว่ายิ่งลักษณ์จะสู้คดีจนถึงที่สุด จะไม่หายตัวไปในช่วงที่ศาลฎีกา นัดอ่านคำพิพากษา เพราะเชื่อว่ากระบวนการที่ยิ่งลักษณ์โดนมาก่อนหน้านี้ ทั้งจากการชี้มูลคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กับการลงมติถอดถอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ลงมติถอดถอนด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 190 เสียง เป็นกระบวนการทางการเมืองล้วนๆ ที่แตกต่างจากการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม ที่ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม และมีการไต่สวนคดีในแบบลงลึกมากกว่าการไต่สวนของ ป.ป.ช. และการถอดถอนของสนช. หลายเท่านัก ชนิดเทียบกันไม่ได้ จุดนี้จึงทำให้ยิ่งลักษณ์ และกองเชียร์ก็คงมั่นใจลึกๆว่าจะสู้คดีได้ และน่าจะไม่หายตัวไปไหนทั้งสิ้น จนถึงวันชี้ชะตา

ดูได้จากคำแถลงของยิ่งลักษณ์ ที่เผยแพร่ผ่านสื่อทันที หลัง สนช.มีมติถอดถอนเมื่อ 23 ม.ค. 58 ที่ระบุในตอนหนึ่งว่า

“ดิฉันก็หวังว่า ผู้ที่เป็นฝ่ายอำนวยความยุติธรรมของประเทศ จะไม่ปล่อยให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่รักษากติกาประชาธิปไตย และไม่รักษา หลักนิติรัฐ นิติธรรม มาชี้นำใดใดอีก ดังที่มีนักวิชาการกล่าวว่า “ไม่มียิ่งลักษณ์ คนไทยยังอยู่กันได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้าไม่มีความยุติธรรมหลงเหลืออยู่ ในระบบการปกครองของไทยแล้ว คงไม่มีใครอยู่ได้

อย่างไรก็ตาม ดิฉันขอยืนยันว่า ดิฉันจะต่อสู้จนถึงที่สุด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของดิฉัน ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร และที่สำคัญ คือดิฉัน จะขอยืนหยัด อยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนคนไทย เราต้องร่วมกันนำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ประเทศ ทำให้ระบอบประชาธิปไตยของเรากลับคืนมา และสร้างความเป็นธรรม ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างแท้จริง”

เมื่อ ยิ่งลักษณ์ ยืนกรานจะสู้จนถึงที่สุด ก็ได้แต่หวังว่า อดีตนายกฯ จะไม่โกหกประชาชน ดังนั้น ถึงตอนนี้ เอาเป็นว่าให้ราคาไว้ก่อนว่า ยิ่งลักษณ์ อยู่สู้คดีจนถึงวันนัดอ่านคำพิพากษา

ส่วนความจริงจะเป็นเช่นใด เธอจะทำตามที่บอกไว้หรือไม่ งานนี้ถ้าโกหกอีก จบกันคนตระกูลชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น