“วินธัย” ยืนยันไม่มีการซ้อม 4 ผู้ต้องหา คดีวางระเบิดศาลอาญา เผยเป็นเพียงคำกล่าวอ้างไร้หลักฐาน พร้อมเหน็บศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเอียงไปทางฝ่ายคนที่ทำผิดกฎหมาย
วันนี้ (18 มี.ค.) พ.อ.วินธัน สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีการจับกุมผู้ต้องหาคดีระเบิดฯ ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ต้องหา 4 ราย เรื่องมีการซ้อมทรมานเพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลจากผู้ต้องหาว่า น่าจะเป็นเพียงคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานข้อพิสูจน์ ข้อสังเกตระยะหลังจะมีร้องในลักษณะนี้ทุกครั้งไป เหมือนร้องไว้ก่อน กังวลไว้ก่อนตามสิทธิ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะบางครั้งการให้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จออกไป เกรงจะไปมีผลต่อผู้ต้องหาในอนาคตเมื่อถึงขั้นตอนการพิจารณาคดีถ้ากรณีที่ศาลอาจจะพิจารณาในการลดหย่อนอัตราโทษให้ มั่นใจไม่มีเหตุผลที่เจ้าหน้าที่จะต้องไปบังคับขู่เข็ญอะไร มั่นใจเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้มาตรการบังคับแน่นนอน การดำเนินการทุกอย่างจะอยู่ในวิธีแนวทางที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น และที่สำคัญการให้ข้อมูลในชั้นนี้จะเป็นเพียงองค์ประกอบส่วนหนึ่ง ยังไม่ใช่ข้อผูกมัดหลักในการฟ้องเอาผิดทางคดี เพราะขั้นตอนฟ้องเอาผิดจะอยู่ในขั้นตอนต่อไปกับทางตำรวจ
สำหรับความกังวลต่อการควบคุมตัวบุคคลโดยปราศจากสิทธิในการแจ้งญาติ การเข้าถึงทนายความ รวมถึงการมักไม่เปิดเผยสถานที่ในการควบคุมตัว ทำให้ขาดความโปร่งใส จึงมีความสุ่มเสี่ยงในการใช้อำนาจโดยอำเภอใจการซ้อมทรมานนั้น มั่นใจว่าการเข้าแสดงตัวหรือการให้เหตุผลในการเชิญตัวนั้นเป็นไปโดยเปิดเผยและบริสุทธิ์ใจ แต่ในส่วนของญาติและเพื่อนนั้น บางกรณีเจ้าหน้าที่อาจทำได้เท่าที่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อผลสำเร็จสูงสุดของภารกิจ และการรักษาความสงบเรียบร้อย การปฏิบัติในขั้นตอนนี้จะเน้นการขอความร่วมมือในการให้ข้อมูลเป็นหลัก เพื่อการขยายผลการสืบสวนไปสู่ผู้อื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยในทุกขั้นตอนการปฏิบัติมีบันทึกยืนยันการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา เพื่อใช้เป็นเครื่องยืนยันความโปร่งใส เป็นธรรม อย่างเหมาะสม ที่สำคัญเจ้าหน้าที่จะไม่ปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกเชิญตัวมาในลักษณะของผู้ที่ทำความผิดอย่างแน่นอนในขั้นตอนนี้ และยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาในชั้นนี้จึงอาจจะยังไม่อยู่ในขั้นตอนที่ต้องใช้ทนายความ
สำหรับกรณีการขอให้ยุติการใช้อำนาจกฎอัยการศึกเพื่อนำบุคคลที่กระทำความผิดมาลงโทษนั้น เรียนว่ากฎอัยการศึกหลักๆ จะใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันการใช้รุนแรงเป็นหลัก การซักถามข้อมูลในช่วงนี้จุดประสงค์หลักก็เพื่อการดังกล่าวยังไม่เน้นเรื่องการนำคนผิดมาลงโทษ ส่วนขั้นตอนการนำคนทำผิดมาลงโทษนั้นยังเป็นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนเดิม ตามขั้นตอนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
อยากให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้พิจารณาองค์ประกอบการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างเป็นธรรมด้วย สังคมได้ตั้งข้อสังเกตเชิงสับสนในระยะหลังว่า ทำไมบางองค์กรเหมือนให้ความสำคัญเชิงลำเอียงด้วยการตั้งสมมุติฐานก็ดี เอียงไปทางฝ่ายคนที่ทำผิดกฎหมายมากกว่า ทั้งๆ ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐพยายามทำทุกอย่างภายใต้กรอบกฎหมายและกติกาสังคมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อความผาสุกของคนในประเทศ โดยเฉพาะในฐานะผู้ที่ประกอบอาชีพด้านกฎหมายน่าจะสนับสนุนหรือให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่พยายามใช้หลักกฎหมายในการทำงานมากกว่าการแสดงความไม่ไว้วางใจหรือชี้นำให้เกิดความสับสน