กสม.พร้อม จนท.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ วืดเยี่ยมแก๊งบึ้มในคุก “หมอนิรันดร์” เผยกรมราชทัณฑ์อ้างยังไม่อนุมัติ เรื่องค้างอยู่อธิบดี ข้องดองเรื่อง 4 วัน รับไม่เคยเกิดมาก่อน ยกหลักสิทธิฯ ทั่วโลก เยี่ยมผู้ต้องหาไม่ต้องแจ้งกันจัดฉาก ซัดไม่ให้ความร่วมมือ แทนที่จะช่วยให้อัยการศึกกับสิทธิฯ ดูดีขึ้น ชี้ รบ.อ้างไม่มีการซ้อมแต่ปากไม่พอ ต้องให้เยี่ยม 30 มี.ค.เชิญฝ่ายเกี่ยวข้องแจง
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แขวงลาดยาว นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง พร้อมกับเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาคดีวางระเบิดหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก จำนวน 9 ราย เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนต่อ กสม.ว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้มีการซ้อมทรมานผู้ต้องหาระหว่างการควบคุมตัว แต่เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กลับปฏิเสธไม่ให้นพ.นิรันดร์กับคณะเข้าเยี่ยมผู้ต้องหา อ้างว่าไม่มีคำสั่งอนุมัติจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จึงทำให้มีการโต้เถียงระยะหนึ่ง โดย นพ.นิรันดร์พยายามระบุว่า “มาในฐานะ กสม.ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้มาในฐานะเอ็นจีโอ” แต่ก็ไม่ได้รับการยินยอมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นพ.นิรันดร์กล่าวว่า สำนักงาน กสม.ได้ทำหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์เพื่อขอเยี่ยมผู้ต้องหา ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งว่าทางกรมราชทัณฑ์ไม่อนุมัติให้ กสม.เข้าตรวจเยี่ยม เนื่องจากพบว่าหนังสือของ กสม.ยังรออยู่ที่ห้องอธิบดีและยังไม่มีคำตอบใดๆ จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่ากรมราชทัณฑ์ใช้เวลาพิจารณาถึง 4 วัน และก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะให้ กสม.เข้าเยี่ยมผู้ต้องหาได้หรือไม่ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งในข้อเท็จจริง ตามหลักการสิทธิมนุษยชนทั่วโลก การมาตรวจเยี่ยมผู้ต้องหาในเรือนจำเป็นมาตรการในการป้องปรามการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาสูงสุดของแต่ละหน่วยงาน เพราะหากแจ้งก่อนอาจมีการจัดฉากกันเกิดขึ้น
“ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องด่วน เป็นเรื่องที่สหประชาชาติและองค์กรสิทธิฯ ทั่วโลกได้ขอให้กสม.เข้ามาตรวจสอบ รวมทั้งเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ เราจึงได้ทำหนังสือแจ้งให้กรมราชทัณฑ์ทราบ ในเมื่อยังไม่มีคำตอบก็ถือว่ากรมราชทัณฑ์ไม่ให้ความร่วมมือ กสม.ในการทำหน้าที่ ทั้งที่การตรวจสอบของ กสม.นั้นจะช่วยทำให้เห็นความชัดเจนในการปกครองบ้านเมืองท่ามกลางกฎอัยการศึกว่ายังให้ความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน กสม.มาทำงานให้กับรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลดูมีศักดิ์ศรีมากขึ้น มาตรวจเยี่ยมตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งตามกฎหมายกสม.ถือเป็นเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา การมาตรวจสอบเพื่อเป็นการยืนยันความชัดเจนในเรื่องการทำงานที่เปิดเผยและโปร่งใสของหน่วยงายของรัฐ”
นพ.นิรันดร์กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยยอมรับในอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันการซ้อมทรมาน อีกทั้ง ผบ.ทบ.และรัฐมนตรีต่างๆ ก็ยืนยันว่าไม่มีการซ้อมทรมาน แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องมีองค์กรกลางมาช่วยยืนยันว่าสิ่งที่ฝ่ายบริหารพูดเป็นเรื่องจริง แม้ทางโรงพยาบาลตำรวจออกมาระบุว่าไม่มีการซ้อมทรมานผู้ต้องหา เราจึงต้องเชิญสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาร่วมด้วยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส ส่วนจะต้องติดต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์โดยตรงหรือไม่ผมก็ให้เกียรติท่าน คงไม่โทรหาโดยตรง แต่ก่อนหน้านี้เลขาอนุกรรมการฯ ก็พยายามขอเบอร์ติดต่ออธิบดี แต่เลขาฯหน้าห้องของอธิบดีก็ไม่ได้ให้เบอร์ไว้ กสม.อุตส่าห์มาแต่อธิบดีไม่ติดต่อมาก็ไม่ใช่หน้าที่ตนที่จะติดต่อไป
เมื่อถามว่าระยะเวลาผ่านไปจะมีผลต่อการตรวจสอบทางการแพทย์หรือไม่ นพ.นิรันดร์กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติว่าระยะเวลาจะทำให้การตรวจร่างกายลดน้อยถอยลงไปในเรื่องความชัดเจน จากนี้คณะอนุกรรมการฯติดต่อเพื่อขอเยี่ยมผู้ต้องหาเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น. คณะอนุกรรมการฯ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และผู้ร้องมาประชุมเพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าวที่สำนักงาน กสม.
