อนุ กมธ.ยกร่างฯ เพิ่งตื่นเชิญ 3 องค์กรอิสระถก ทั้งที่ยกร่างแล้ว “สมชัย” ย้ำคงอำนาจ กกต. หวั่น กจต.ถูกล้วงลูก แนะลดอิทธิพลการเมือง เสนอชื่อ 3 เท่า ให้กกต.คัด 7 คน ให้อำนาจสอบ-ปลด ยันให้ กกต.แค่แจกใบเหลืองไม่พอ เหตุคนผิดเข้าสภาก่อนแล้วใช้อำนาจขู่ ขออำนาจพิเศษเรียกหลักฐาน พร้อมให้กำหนดเลือกตั้งใหม่ได้ ปลดล็อก เลือกตั้งวันเดียว ปัดหวงอำนาจ แค่อยากให้มีความเที่ยงธรรม
วันนี้ (12 มี.ค.) คณะอนุกรรมาธิการพิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญที่มี นายปรีชา วัชราภัย คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นประธาน ได้เชิญตัวแทนองค์กรอิสระ 3 องค์กร ประกอบด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน มาหารือเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวภายหลังชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ ว่า มีประเด็นสำคัญที่เป็นหัวใจหลัก 2 เรื่อง คือ กรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะให้มีกรรมการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) ที่ประกอบด้วยบุคคลซึ่งมาจากการคัดเลือกของปลัดกระทรวง 6 กระทรวงและ ผบ.ตร.เป็นผู้เลือกกรรมการจัดการเลือกตั้ง แต่ กกต.เห็นว่าควรคงอำนาจไว้ที่ กกต.เช่นเดิม
“แม้ในบทเฉพาะกาลจะกำหนดให้การเลือกตั้งครั้งแรกหลังรัฐธรรมนูญใหม่ใช้บังคับเป็นของ กกต.แต่ ในครั้งต่อๆ ไปที่จะให้เป็นอำนาจของ กจต.นั้น ทาง กกต.ยืนยันว่าอาจเป็นหลักการที่ไม่ทำให้การเลือกตั้งเกิดความเป็นกลาง เพราะ กจต.เป็นข้าราชการมีโอกาสถูกแทรกแซงจากนักการเมืองที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ในการเลือกตั้งหลังรัฐธรรมนูญใช้บังคับปัญหานี้อาจจะยังไม่เกิด เพราะรัฐบาลในขณะนั้นยังคงเป็น รัฐบาล คสช. แต่การเลือกตั้งในครั้งถัดไปที่ฝ่ายการเมืองเข้ามาเป็นผู้บริหารแล้วก็ย่อมเข้ามามีบทบาทในการกำกับข้าราชการ และทำให้มีโอกาสเข้าไปแทรกแซงวางตัว กจต.ล่วงหน้าในทุกระดับของการเลือกตั้ง” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวว่า อาจมีข้อถกเถียงว่า ในเมื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในช่วงที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ก็อยากให้เข้าใจว่าเมื่อมาเป็น กจต.แล้วไม่ได้เป็นชั่วคราวแต่จะเป็นตลอดไป ดังนั้น ถ้าปลัดกระทรวงซึ่งเป็นผู้เลือก กจต.อยู่ภายใต้อิทธิพลของฝ่ายการเมืองก็ยากจะทำให้การเลือกตั้งเกิดความเป็นกลางได้
อย่างไรก็ตาม หากกรรมาธิการยกร่างฯ ต้องการให้คง กจต.ไว้ ก็ได้เสนอรูปแบบว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดอิทธิพลฝ่ายการเมืองในการแทรกแซงการแต่งตั้ง กจต. โดยให้ปลัด 6 กระทรวง และ ผบ.ตร. เสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเป็น กจต.จำนวน 3 เท่ามาให้ กกต.เป็นผู้คัดเลือกเหลือ 7 คนและให้ กกต.มีอำนาจในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กจต.ด้วย หากมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นกลางให้อำนาจ กกต.ปลด กจต.ได้ เชื่อว่าจะสามารถลดอิทธิพลจากฝ่ายการเมืองได้บ้าง
นอกจากนี้ยังเสนอว่าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้มีการปิดช่องสิ่งที่เป็นปัญหาในการเลือกตั้งที่ผ่านมาครบถ้วนหรือยัง เช่น ปัญหาการปิดล้อมการรับสมัคร การไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ การเลือกตั้งที่ไม่สามารถเกิดได้ในวันเดียวทั่วราชอาณาจักร การไม่สามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งก็ได้เสนอแนวทางแก้ไขโดยมีรายละเอียดค่อนข้างมาก โดยอนุกรรมาธิการฯ รับปากว่าจะไปนำเสนอต่อกรรมาธิการยกร่างฯ ต่อไป
ส่วนประเด็นที่กรรมาธิการยกร่างฯ จะให้ กกต.มีอำนาจสั่งเลือกตั้งใหม่ก่อนการรับรองผลเท่านั้น (ใบเหลือง) นายสมชัยยืนยันว่า จำเป็นที่ก่อนการประกาศรับรองผลก.ก.ต.ต้องมีอำนาจสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเพื่อเป็นมาตรการที่จะเอาคนผิดออกจากสนามแข่งขัน เพราะถ้าหากให้ กกต.เพียงแค่สั่งเลือกตั้งใหม่ก็ให้ข้อมูลสถิติกับอนุกรรมาธิการฯว่า การประกาศเลือกตั้งใหม่ก่อนการรับรองผลทุกครั้งที่ผ่านมา 100% ผู้สมัครรายเดิมจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามา สะท้อนว่าผู้สมัครมีเงินเพียงพอที่จะลงเลือกตั้งกี่รอบก็ได้ แต่หากมองว่าการเพิกถอนสิทธิเป็นมาตรการรุนแรงเกินไปก็อยากเสนอว่าให้เป็นมาตรการเฉพาะสำหรับการเลือกตั้งในครั้งที่มีปัญหาเท่านั้น ไม่ได้ถูกตัดสิทธิตลอดชีวิต
นายสมชัยกล่าวว่า ข้อเสนอของ กกต.ไม่ได้เป็นเพราะเราหวงอำนาจแต่เป็นเรื่องอำนาจหน้าที่เพราะในเมื่อ กกต.เป็นผู้ออกแบบการเลือกตั้งให้เป็นธรรม ก็จำเป็นต้องชี้ให้เห็นถึงปัญหาจากการกำหนดรูปแบบการเลือกตั้งใหม่ โดยพูดในหลักการว่าใครจะจัดการเลือกตั้งก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็น กกต. แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานว่าทำอย่างไรให้การเลือกตั้งนั้นมีความเที่ยงธรรมและเป็นกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชี้แจงของ กกต.ในประเด็นที่เห็นว่าต้องคงอำนาจการให้ใบแดงก่อนประกาศรับรองผลไว้ที่ กกต. เพราะถ้าเป็นอำนาจศาลจะพิจารณานานจนเกิดช่องว่างที่ผู้ทำผิดเข้าไปทำหน้าที่นิติบัญญัติเลือกผู้บริหาร ตรากฎหมาย สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติจนไม่อาจเยียวยาได้ เป็นการเปิดช่องให้ผู้ทำผิดมีอำนาจอาจใช้อิทธิพลข่มขู่พยานจนส่งผลกระทบต่อคดีในชั้นศาล และการให้ กกต.มีอำนาจให้ใบเหลือก่อนการประกาศรับรองผลเพียงอย่างเดียว ทำให้ผู้สมัครที่มีทุนมากได้เปรียบ พร้อมลงแข่งขันโดยไม่จำกัดรอบยากที่ะทำให้การเลือกตั้งใหม่สุจริตเที่ยงธรรมได้ การยกเลิกอำนาจให้ใบแดงเหลือแต่ใบเหลืองจะทำให้นักการเมืองไม่ยำเกรงกฎหมาย กล้าฝ่าฝืนกฎหมายมากขึ้น หากเทียบกับรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ให้อำนาจเด็ดขาดกับ กกต.ในการสั่งเลือกตั้งใหม่และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งทั้งก่อนและหลังประกาศผลจะเห็นได้ว่านักการเมืองเกรงกลัวต่อการฝ่าฝืนกฎหมายมากกว่าปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังได้มีการเสนอขอให้มีการเพิ่มในร่างรัฐธรรมนูญให้ กกต.มีอำนาจเรียกเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ ตลอดจนขอให้พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน หน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินการเพื่อประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อวินิจฉัยชี้ขาด เนื่องจากในการสืบสวนวินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมต้องการอำนาจพิเศษมากกว่าการปฏิบัติราชการทางปกครองโดยปกติทั่วไป มีวิธีการและระบบที่รวดเร็วเป็นพิเศษกว่ากฎหมายทั่วไปเพื่อสกัดกั้นผู้ทำผิดไม่ให้เข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง แต่หากไม่มีบทบัญญัติดังกล่าวจะเป็นช่องทางให้มีการโต้แย้งขั้นตอน กระบวนการในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.จนทำให้การวินิจฉัยชี้ขาดไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ต้องรับผิดชอบกฎหมาย 5 ฉบับ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนหรือความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งหากมีเหตุใดๆ ที่การเลือกตั้งไม่สามารถกระทำในวันเดียวกันได้ ให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งขึ้นใหม่เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไปโดยไม่กระทบกระเทือนกิจการที่ กกต.ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหากรณีเหตุอันทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นวันเดียวกัน