ที่ประชุม ครม. นายกฯ ย้ำให้รัฐมนตรี ทุกกระทรวง ทบวง กรม ตรวจสอบป้องกันทุจริต พร้อมสั่ง ขรก. ระดับสูงปรับลดเดินทางดูงาน ตปท. หากจำเป็นแนะบินชั้นประหยัด แนะไอซีทีทำแอปข้อมูลภาครัฐ อนุมัติ พ.ร.ฎ. เหรียญเฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จพระเทพรัตนฯ” เห็นชอบ ขยายเวลาขึ้นทะเบียนต่างด้าว 1 ปี พร้อมลดหย่อนต่ออายุงานเหลือ 30 วัน ผ่านกฎหมายให้ “เกษตรฯ - สวนดุสิต” ออกนอกระบบ และตั้ง ม.กาฬสินธุ์
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยกำหนดแนวทางให้กับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตถือเป็นวาระแห่งชาติ และมีคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ จึงเน้นย้ำให้รัฐมนตรี ทุกกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจนหน่วยงานราชการได้กำชับ ตรวจสอบดูแลหน่วยงานของตนเอง ไม่ว่าในเชิงของการป้องกัน การปราบปราม หรือการปลุกจิตสำนึก เพราะถือว่าส่วนราชการเป็นต้นแบบของการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จะต้องดูแลเรื่องนี้ให้ชัดเจนและรอบคอบ สืบเจตนารมณ์ของรัฐบาลให้ได้
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการเดินทางไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ ว่า กิจกรรมใดที่มีความจำเป็นน้อยก็ปรับลดให้เกิดความเหมาะสม แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีการศึกษาดูงานในต่างประเทศก็ขอให้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะสามารถเชิญวิทยากรมาบรรยายในประเทศได้หรือไม่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พร้อมทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะถึงระดับผู้บริหารที่จะเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อไปประชุมในประเทศและต่างประเทศ เช่น อธิบดี ก็ขอให้เดินทางในชั้นประหยัด ส่วนกรณีที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศให้พิจารณาตามความเหมาะสม ขณะที่ระดับรองอธิบดีลงมาก็ให้เดินทางในชั้นประหยัด รวมทั้งได้มอบหมายให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ซึ่งมี พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธาน ดำเนินการตรวจสอบองค์กรมหาชนทุกองค์กร เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการเรื่องงบประมาณและขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและเชื่อถือต่อการดำเนินงานบนพื้นฐานของความโปรงใส
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงข้อมูลของการประชาสัมพันธ์ โดยได้กำชับคณะรัฐมนตรี และส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์ทุกภาคส่วน ว่า รัฐบาลได้มีการปฏิบัติภารกิจและดำเนินงานไปแล้วค่อนข้างมาก แต่การสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่และภูมิภาคยังเป็นไปไม่ครบถ้วน เพราะฉะนั้นทุกส่วนทั้งประชาสัมพันธ์ในส่วนกลางของรัฐบาล หรืองานประชาสัมพันธ์ของกระทรวง ทบวง กรม จะต้องช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการดำเนินงานและภารกิจของรัฐบาล ผ่านช่องทางต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น การเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์ หรือเอกสารที่เป็นของรัฐบาล เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าปัญหาในบางเรื่องหรือบางกรณีที่ประชาชนเรียกร้องมานั้น รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขมีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใดและอยู่ที่ขั้นตอนใด สามารถตรวจสอบได้อย่างไร เป็นต้น
อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปพิจารณารายละเอียดในการนำข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น ราคาพืชผลทางการเกษตร ราคาอาหาร ข้าว ผลไม้ เนื้อสัตว์แต่ละชนิด ฯลฯ มาไว้ในแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ เพื่อประชาชนและสื่อมวลชนจะได้ช่วยกันดูแลอีกทางหนึ่งหากมีผู้ประกอบการหรือผู้จำหน่ายสิ้นค้ารายใด จำหน่ายสิ้นค้าเกินราคาก็สามารถแจ้งมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่า ขณะนี้รัฐบาลได้มีการจัดลำดับความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้แล้ว เช่น ลำดับความเร่งด่วนที่ 1 ให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริโภค ลำดับที่ 2 คือ การเก็บกักน้ำไว้สำหรับผลักดันน้ำเค็มในระบบคูคลอง และแม่น้ำต่างๆ ลำดับที่ 3 คือ น้ำเพื่อการเกษตร อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า สถานการณ์ภัยแล้งดังกล่าวไม่สามารถที่จะคาดการณ์ในอนาคตได้ ดังนั้น จึงให้เพิ่มมาตรการเรื่องปันส่วนแหล่งน้ำ โดยหน่วยราชการในพื้นที่จะต้องไปจัดลำดับความเร่งด่วนในการพิจารณานำแหล่งน้ำมีอยู่ไปใช้ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพและสถานการณ์ในพื้นที่เพื่อรองรับและแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น และป้องกันการแย่งแหล่งน้ำในพื้นที่
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการและให้แนวทางในเรื่องการจัดตลาดนัดข้าว ผลไม้ และไม้ดอก ที่จะจัดขึ้นวันที่ 5 มีนาคม 2558 บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล ว่า การจัดตลาดดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องการให้ทุกจังหวัดและทุกชุมชนได้ไปจัดตลาดนัดในลักษณะเช่นนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจในระดับฐานรากอย่างแท้จริง และเกิดการสร้างงานสร้างรายได้ในพื้นที่ ตลอดจนกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังต้องการให้มีการเพิ่มการสัญจรทางน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อแก้ปัญหาการจราจร
ขณะที่มติ ครม. ที่น่าสนใจ มีดังนี้ มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไปทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติจัดทำเหรียญเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว ตามแบบที่ทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้ขอความเห็นชอบจาก ครม. เนื่องจากแรงงานต่างด้าว สัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา จะหมดระยะเวลาในการขึ้นทะเบียนในวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งขณะนี้ปัญหาเรื่องการพิสูจน์สัญชาติ ยังทำไม่ครบ และยังค้างอยู่อีกมาก โดยรัฐบาลอนุมัติการขยายระยะเวลาในการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรไทยออกไปจากเดิมวันที่ 31 มี.ค. 58 ขยายไปถึง 31 มี.ค. 59 เป็นเวลา 1 ปี ถ้าแรงงานต่างด้าวคนใดที่ยังไม่ตรวจสอบสัญชาติก็ให้ไปขอรับใบอนุญาตได้จนกระทั่งถึง 30 มิ.ย. ยืดระยะเวลาไปอีก 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ถ้าแรงงานต่างด้าวคนใดไม่ไปขอใบอนุญาตทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเวลาที่กำหนดก็จะต้องตรวจสอบ จับกุม และผลักดันส่งกลับประเทศ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์โดยรวมไม่ว่าจะเป็นแรงงานบนบก หรือแรงงานประมงทะเล
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาแรงงานประมงทะเลระยะยาว ต้องเริ่มต้นจากการลงทะเบียนแรงงาน ซึ่งการตรวจสอบนายจ้างถึงความต้องการภาคแรงงานประมงทะลงมากเพียงใด หลังจากนั้นไปรับสมัครทั้งแรงงานไทย ตลอดจนอนุมัติให้แรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน ต่อมาจะคัดเลือกบริษัทจัดหางานที่ถูกกฎหมาย และทำการดำเนินการประสานงานระหว่างนายจ้างประมงทะเลกับบริษัทจัดหางาน ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ต้องดูแลแรงงานประมงทะเลก่อนลงเรือ รวมถึงการติดตามการปฏิบัติงานบนเรือว่าเป็นไปตามกติกาที่รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติต่างๆ ไว้หรือไม่ ทั้งนี้ แรงงานประมงทะเลต้องได้รับสวัสดิการที่เป็นไปตามหลักสากล โดยการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมเจ้าท่า, กองทัพเรือ ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขกฎ กติกาที่เคยตกลงร่วมกันเอาไว้ระหว่างประเทศไทยกับประเทศต้นทางของแรงงานต่างด้าวว่า แรงงานดังกล่าวสามารถทำงานเมื่อครบกำหนด 4 ปี แล้ว ถือว่า หมดช่วงการทำงาน ซึ่งจะทำงานได้อีกครั้งหนึ่งต้องทิ้งระยะเวลาออกไป 3 ปี ซึ่งส่วนนี้ได้ปรับแก้ไขลดระยะเวลาลงเป็น 30 วัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการแรงงานภายในประเทศ ถือเป็นการแก้ไขปัญหาแบบครบวงจร
ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ให้ความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ฉบับที่... พ.ศ. ... ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก โดยให้ส่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวพร้อมข้อเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ พ.ร.บ. ดังกล่าวเป็นการคุ้มครองเด็กจากการถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศและถูกกระทำทางเพศในฐานที่มิชอบในทุกรูปแบบ อีกทั่งเป็นการยับยั้งป้องกันหรือลดโอกาสที่จะทำให้ผู้ที่มีพฤติกรรมวิกฤตทางเพศ ไม่กระทำทางเพศต่อเด็ก ซึ่งร่าง พ.ร.บ. จะอยู่บนหลักการที่ว่า เด็กสมควรได้รับการดูแลปกป้องทุกด้าน เพราะเด็กยังขาดวุฒิภาวะทั้งกายภาพและจิตใจในการตัดสินใจด้วยตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นหลักการสากลที่ทั่วประเทศยอมรับตามที่ได้รับรองไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุม ครม. วันนี้ ได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หรือมหาวิทยาลัยนอกระบบ 2 ฉบับตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และหลังจากนี้ จะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่วนร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยขอนแก่น นั้น ขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปยังเลขาธิการ ครม. แล้ว เพื่อบรรจุเป็นวาระในการประชุม ครม. และ ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศิลปากร อยู่ระหว่างการพิจารณาของรองนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นการควบรวมระหว่าง ม.ราชภัฏกาฬสินธุ์ และ ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ จัดตั้งเป็น ม.กาฬสินธุ์ เพื่อลดความซ้ำซ้อนของสถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน