ผู้ประกอบการเรือประมงเผยแรงงานถูก กม. หนีขึ้นฝั่ง หันใช้แรงงานเถื่อนแทน วอนรัฐผ่อนผันจับกุมแรงงานผิด กม.- ขู่ปิดอ่าวหากไม่แก้ไข ด้าน ‘บิ๊กเต่า’ เดือด อย่าออกคำสั่ง - ข่มขู่ ชี้เป็นไปตามถ้าทำจริงเป็นหน้าที่กองทัพเรือจัดการ
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่โรงแรมปริ๊นซ์ตัน กรุงเทพฯ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า ปัญหาของแรงงานภาคประมงและปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยนั้น ถือเป็นปัญหาสำคัญ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ อีกทั้งการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไร้การควบคุม และไม่มีการรายงาน ซึ่งถูกกล่าวหาจากคณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรป (อียู) โดยให้เวลาไทย 6 เดือนในการแก้ปัญหาก่อนจะพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ออกตรวจแรงงานในเรือประมงทะเลอย่างเข้มข้น ภายในสัปดาห์นี้จะเรียกเจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานใน 22 จังหวัดที่ติดชายทะเล เข้ามาทำความเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติการตรวจแรงงานในเรือประมงทะเลให้ชัดเจน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ภาคประมงมีชื่อเสียงทั้งด้านดีและไม่ดี ทำให้แรงงานไทยไม่สนใจทำงานในภาคประมง ต้องพึ่งแรงงานต่างด้าว
“การนำเข้าแรงงานต่างด้าว ต้องพึ่งบริษัทจัดหางาน และที่ผ่านมาบริษัทจัดหางาน บางรายต้องการกำไรจำนวนมาก แต่สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ทำธุรกิจด้วยไม่ใช่สินค้าแต่เป็นมนุษย์ หากต้องการกำไรมากก็จะเกิดการเอารัดเอาเปรียบแรงงานมากตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดและกำหนดระเบียบ รูปแบบ ของบริษัทจัดหางานเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เตรียมหารือกับคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) โดยจะเสนอให้พิจารณาเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในภาคประมงเพื่อให้เป็นแรงงานที่ถูกกฎหมาย ตามที่สมาคมประมงเสนอและหารือถึงวิธีการจัดการแรงงานต่างด้าวภายหลังครบกำหนดพิสูจน์สัญชาติในวันที่ 31 มีนาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวเปิดงาน ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็น โดยผู้ประกอบการได้ขอให้ภาครัฐช่วยในเรื่องอาชญาบัตรเรือ เนื่องจากที่ผ่านมากรมประมงไม่ได้เปิดให้ยื่นเอกสารเพื่อทำอาชญาบัตร ทำให้เรือบางลำไม่มี หรือเป็นอาชญาบัตรที่ผิดประเภท ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็จะถูกจับกุม โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยากปฏิบัติให้ถูกกฎหมายจึงขอให้เปิดทำอาชญาบัตรเรือ รวมทั้งอยากให้การพิจารณาออกกฎหมายคุ้มครองแรงงานคำนึงถึงนายจ้างด้วยว่า ปัจจุบันนี้แรงงานที่นำไปจดทะเบียนมีบัตรถูกต้องเรียบร้อย หนีขึ้นฝั่งหมด ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อน ต้องใช้แรงงานที่ไม่มีเอกสาร และเมื่อเจ้าหน้าที่ออกตรวจพบก็ถูกจับดำเนินคดี วอนทำความเข้าใจกฎหมายกับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อให้เข้าใจต้องตรงกัน นอกจากนี้อยากขอให้ช่วยผ่อนผันการจับกุมการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ก่อนจะเปิดจดทะเบียนแรงงานประมงรอบใหม่
ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์ ได้อธิบายว่า ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถสั่งให้หน่วยงานไหนละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายได้ เรื่องใดที่เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงานก็จะรับไปพิจารณาและจัดประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องใดที่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นก็จะส่งต่อเพื่อให้ช่วยกันแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวจบ ผู้ประกอบการบางส่วนได้แสดงความไม่พอใจ เนื่องจากปัญหาถูกจับกุมจนไม่สามารถออกเรือไปทำการประมงได้ โดยบอกว่าจะประท้วงด้วยการปิดอ่าว
“อย่ามาสั่งให้ทำโน่นนี่ หรือขู่ผม ว่าจะปิดอ่าวผมไม่ชอบ หากทำจริงก็เป็นเรื่องที่กองทัพเรือต้องเข้าไปจัดการ อยากได้อะไรให้พูด ให้แสดงความเห็น ผมก็บอกแล้วว่ารับฟัง ปัญหาอะไรก็จะแก้ให้ อะไรที่แก้ไม่ได้ก็ส่งต่อให้คนที่แก้ได้ ผมเข้าใจว่าเป็นตัวแทนรัฐบาลพวกคุณอยากพูดอยากเรียกร้อง วันนี้ผมมารับฟังปัญหา ผมให้เกียรติทุกคนรับฟังทุกอย่างแต่พวกคุณต้องให้เกียรติผมด้วย ไม่ใช่มาขู่กัน” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่โรงแรมปริ๊นซ์ตัน กรุงเทพฯ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า ปัญหาของแรงงานภาคประมงและปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยนั้น ถือเป็นปัญหาสำคัญ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ อีกทั้งการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไร้การควบคุม และไม่มีการรายงาน ซึ่งถูกกล่าวหาจากคณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรป (อียู) โดยให้เวลาไทย 6 เดือนในการแก้ปัญหาก่อนจะพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ออกตรวจแรงงานในเรือประมงทะเลอย่างเข้มข้น ภายในสัปดาห์นี้จะเรียกเจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานใน 22 จังหวัดที่ติดชายทะเล เข้ามาทำความเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติการตรวจแรงงานในเรือประมงทะเลให้ชัดเจน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ภาคประมงมีชื่อเสียงทั้งด้านดีและไม่ดี ทำให้แรงงานไทยไม่สนใจทำงานในภาคประมง ต้องพึ่งแรงงานต่างด้าว
“การนำเข้าแรงงานต่างด้าว ต้องพึ่งบริษัทจัดหางาน และที่ผ่านมาบริษัทจัดหางาน บางรายต้องการกำไรจำนวนมาก แต่สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ทำธุรกิจด้วยไม่ใช่สินค้าแต่เป็นมนุษย์ หากต้องการกำไรมากก็จะเกิดการเอารัดเอาเปรียบแรงงานมากตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดและกำหนดระเบียบ รูปแบบ ของบริษัทจัดหางานเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เตรียมหารือกับคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) โดยจะเสนอให้พิจารณาเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในภาคประมงเพื่อให้เป็นแรงงานที่ถูกกฎหมาย ตามที่สมาคมประมงเสนอและหารือถึงวิธีการจัดการแรงงานต่างด้าวภายหลังครบกำหนดพิสูจน์สัญชาติในวันที่ 31 มีนาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวเปิดงาน ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็น โดยผู้ประกอบการได้ขอให้ภาครัฐช่วยในเรื่องอาชญาบัตรเรือ เนื่องจากที่ผ่านมากรมประมงไม่ได้เปิดให้ยื่นเอกสารเพื่อทำอาชญาบัตร ทำให้เรือบางลำไม่มี หรือเป็นอาชญาบัตรที่ผิดประเภท ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็จะถูกจับกุม โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยากปฏิบัติให้ถูกกฎหมายจึงขอให้เปิดทำอาชญาบัตรเรือ รวมทั้งอยากให้การพิจารณาออกกฎหมายคุ้มครองแรงงานคำนึงถึงนายจ้างด้วยว่า ปัจจุบันนี้แรงงานที่นำไปจดทะเบียนมีบัตรถูกต้องเรียบร้อย หนีขึ้นฝั่งหมด ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อน ต้องใช้แรงงานที่ไม่มีเอกสาร และเมื่อเจ้าหน้าที่ออกตรวจพบก็ถูกจับดำเนินคดี วอนทำความเข้าใจกฎหมายกับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อให้เข้าใจต้องตรงกัน นอกจากนี้อยากขอให้ช่วยผ่อนผันการจับกุมการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ก่อนจะเปิดจดทะเบียนแรงงานประมงรอบใหม่
ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์ ได้อธิบายว่า ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถสั่งให้หน่วยงานไหนละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายได้ เรื่องใดที่เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงานก็จะรับไปพิจารณาและจัดประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องใดที่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นก็จะส่งต่อเพื่อให้ช่วยกันแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวจบ ผู้ประกอบการบางส่วนได้แสดงความไม่พอใจ เนื่องจากปัญหาถูกจับกุมจนไม่สามารถออกเรือไปทำการประมงได้ โดยบอกว่าจะประท้วงด้วยการปิดอ่าว
“อย่ามาสั่งให้ทำโน่นนี่ หรือขู่ผม ว่าจะปิดอ่าวผมไม่ชอบ หากทำจริงก็เป็นเรื่องที่กองทัพเรือต้องเข้าไปจัดการ อยากได้อะไรให้พูด ให้แสดงความเห็น ผมก็บอกแล้วว่ารับฟัง ปัญหาอะไรก็จะแก้ให้ อะไรที่แก้ไม่ได้ก็ส่งต่อให้คนที่แก้ได้ ผมเข้าใจว่าเป็นตัวแทนรัฐบาลพวกคุณอยากพูดอยากเรียกร้อง วันนี้ผมมารับฟังปัญหา ผมให้เกียรติทุกคนรับฟังทุกอย่างแต่พวกคุณต้องให้เกียรติผมด้วย ไม่ใช่มาขู่กัน” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
