เคาะแล้ว! รายชื่อคณะทำงานร่วมพิจารณาสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ตามคาดภาครัฐเสนอ “คุรุจิต-มนูญ” ดึง “ประภาส คงเอียด” ที่ปรึกษา กม.คลัง-“ไกฤทธิ์ นิลคูหา” อดีตบอร์ด ปตท.ร่วม ด้านภาคประชาชน “ประสงค์-ปานเทพ-ม.ล.กรกสิวัฒน์-วิวัฒน์ชัย-รสนา”เตรียมถกนัดแรก 26 ก.พ.นี้ ด้านเครื่อข่ายพลังงาน เสนอ “คณิต ณ นคร” พิจารณาแก้ไขคู่ขนาน
วันนี้ (24 ก.พ.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า พร้อมตัดสินใจชะลอหรือเดินหน้าต่อในการเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบที่ 21 หากคณะกรรมการร่วมหารือได้ข้อสรุปร่วมกัน เพราะรัฐบาลไม่ได้เดินหน้าตัดสินใจไปเพียงลำพัง
ทั้งนี้ ครม.ได้รัทราบการตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณาสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ทั้งสองฝ่าย ในส่วนของรัฐบาลประกอบด้วย นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน, นายประภาส คงเอียด ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงการคลัง, นายมนูญ ศิริวรรณ สปช.ด้านพลังงาน, นายไกฤทธิ์ นิลคูหา กรรมการบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
สำหรับนายประภาส คงเอียด ยังเป็นคณะกรรมการสอบวินัยข้าราชการกรมสรรพากรจำนวน 18 คนการทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ส่วนนายไกฤทธิ์ นิลคูหา เคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กรรมการบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 2556 กรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ด้านคณะกรรมการร่วมฝ่ายภาคประชาชน ประกอบด้วย น.อ.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต รมว.การต่างประเทศ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายพลังงาน ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) รศ.ดร.วิวัฒน์ชัย อัตถากร นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล สปช.ด้านพลังงาน โดยคณะกรรมการร่วมเตรียมหารือนัดแรกในวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.พ.นี้
วันเดียวกัน เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) แถลงการณ์เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ) เรื่องข่าวจากนายกฯ และมติครม.-คสช.ชะลอเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ออกไปก่อน โดยระบุว่า เครือข่ายฯ และภาคประชาชนขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างสูงเพื่อให้บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ จริงใจต่อกัน และเพื่อหาทางออกในการปฏิรูปพลังงานไทยทั้งระบบร่วมกันของทั้งสองฝ่ายให้เป็นไปโดยไม่มีกรอบของเวลาที่ตั้งธงเอาไว้ก่อนล่วงหน้า หรือมีเวลากระชั้นชิดจนเกินไป ตลอดจนเป็นไปเพื่อที่จะให้เป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย ทั้งเลือกตัวบุคคลที่จะไปเป็นตัวแทนคณะกรรมการ รูปแบบการทำงานต่างๆ เราจึงเห็นด้วยให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าการแก้ไข พ.ร.บ.และกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะแล้วเสร็จ และเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก และเพื่อให้การแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมและกฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้อง ที่มีคณะกรรมาธิการวิสามัญของ สนช.ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยมีระยะเวลาทำงาน 90 วันนั้น ภาคประชาชนโดยเครือข่ายฯ ก็จะยื่นเสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ที่มี ศ.ดร.คณิต ณ นคร ประธานฯ ได้รับไปศึกษาและพิจารณาแก้ไขควบคู่ขนานกันไป และเครือข่ายจะประชุมและแจ้งให้ทราบในรายละเอียดต่อไป
