แกนนำเพื่อไทยขาประจำโพสต์เฟซบุ๊ก ซัด สนช.ถอดถอน “ปู” ขัดหลักประชาธิปไตย-นิติธรรม อ้างทำแค่กำจัดตระกูลชินวัตร ลดบทบาทพรรคเพื่อไทย ให้คนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี ส.ว.-องค์กรอิสระกำหนดชะตารัฐบาล แย้มชวนประชาชนยับยั้ง แต่รีบออกตัวไม่ได้ปลุกม็อบ ด้าน “สมคิด” บอกเสื้อแดงไม่เคลื่อนไหว แต่ถ้า คสช.บิดพลิ้วเลือกตั้งเมื่อไหร่ทวงถามแน่ แนะช่วยเหลือปากท้องก่อน ผลผลิตตกต่ำทุกอย่าง
วันนี้ (25 ม.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า การถอดถอนครั้งนี้ขัดหลักประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมอย่างสิ้นเชิง ใครที่รักความถูกต้องไม่อาจยอมรับได้ วัตถุประสงค์ของการถอดถอนครั้งนี้ คือ การกำจัดตระกูลชินวัตรให้พ้นไปจากการเมือง และทำลายศักยภาพของพรรคเพื่อไทย เป็นผลจากการรัฐประหาร ที่สำคัญและกระบวนการต่อเนื่องของการรัฐประหารยังไม่จบแค่นี้ เพราะการถอดถอน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น หากติดตามการนำเสนอแนวความคิดของชนชั้นนำ ทั้งก่อนและหลังรัฐประหารถอดรหัสได้ไม่ยากว่าการสร้างระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยนั้นเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น กำจัดตระกูลชินวัตรออกจากการเมือง และลดศักยภาพของพรรคเพื่อไทย, ลดอำนาจบทบาทของพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง, กำหนดให้คนนอกเป็นนายกรัฐมนตรีได้, วุฒิสภา และองค์กรอิสระไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถกำหนดที่มาและการดำรงอยู่ของรัฐบาลได้, เพิ่มอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพื่อให้ผู้มีอำนาจสามารถเปลี่ยนรัฐบาลและแก้ไขกติกาได้ โดยไม่ต้องทำรัฐประหารให้เหนื่อยแรง
นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า นี่คือโรดแมปของการสร้างระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ความคิดที่ว่าปล่อยให้พวกเขาทำไป เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ดีเอง ใช้ไม่ได้แล้ว หากดำเนินต่อไปก็เป็นไปได้สูงที่จะมีเกิดเป็นความขัดแย้งอย่างมากสำหรับสังคมไทย ผู้รักประชาธิปไตย จึงจำเป็นต้องระงับยับยั้งกระบวนการสร้างระบบการปกครองที่ล้าหลัง ต้องช่วยกันแปรความไม่พอใจที่เกิดจากการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นความเข้าใจต่อความเลวร้าย และหายนะที่กำลังเกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเรา และช่วยกันหาทางป้องกันแก้ไขเท่าที่จะทำได้
“ผมไม่ได้กำลังเสนอให้ใครไปชุมนุมหรือเดินขบวนที่ไหน แต่เสียงของประชาชนก็ยังมีความหมายเสมอ และหากประชาชนเห็นปัญหาร่วมกันมากขึ้นๆ เสียงของประชาชนก็ย่อมมีพลังพอที่จะช่วยกันหยุดยั้งหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ได้ เห็นผู้ที่กำลังร่างรัฐธรรมนูญและปฏิรูปประเทศเขาบอกว่า ยินดีรับฟังความเห็นประชาชนไม่ใช่หรือ” นายจาตุรนต์กล่าว
ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเดียวกัน ว่า เมื่อมีมติออกมาแล้วก็เป็นหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการสู้คดีที่เหลืออยู่ ส่วนที่มีความกังวลว่าพรรคเพื่อไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะมีการเคลื่อนไหวหลังจากมีมติดังกล่าวนั้น เราจะไม่เคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เพราะจะกลายเป็นตัวป่วนขาดความชอบธรรม แต่จะรอสัญญาตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ไว้ว่าจะมีการเลือกตั้ง เรารอได้ แต่สมมติว่า คสช.ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เราก็จะต้องทวงถามสัญญาดังกล่าว วันนี้ก็ขอให้รัฐบาลรีบแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนก่อน เพราะตอนนี้พืชผลทางเกษตรราคาตกต่ำแทบทุกอย่าง