โฆษก กปปส.ชี้ผลถอดถอน “ยิ่งลักษณ์” คงไม่เกิดปมขัดแย้ง ถ้าเคารพในกระบวนการยุติธรรม หยัน “ปู” ไม่มาแจงเอง ขอทุกฝ่ายอย่าเคลื่อนไหว ด้าน กก.ปรองดอง สปช.ชี้อดีตนายกฯ ทำชาติเสียหายยังไงก็ต้องรับผิด การถูกลงโทษเป็นเรื่องปกติ แต่วอนญาติอย่าปลุกระดม
วันนี้ (24 ม.ค.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ภายหลังการที่สภานิติบัญญัญติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าผลของการถอดถอนคงไม่นำไปสู่ความขัดแย้งถ้าทุกคนเคารพกระบวนการยุติธรรมภายใต้หลักนิติธรรม เพราะความยุติธรรมภายใต้หลักนิติธรรมจะค่อยๆ เยียวยาความแตกแยกในประเทศ การทำงานของ สนช.ในเรื่องของการถอดถอนนั้น ถือว่าทางสนช.ได้ให้ความยุติธรรมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาโดยตลอด ทั้งการเปิดโอกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาชี้แจง แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ปฏิเสธไม่มา ที่สำคัญการแถลงปิดคดีเป็นการให้ข้อมูลด้านเดียวไม่ตรงประเด็นจึงไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาโดย ป.ป.ช.ได้แม้แต่น้อย
นายเอกนัฏกล่าวว่า กปปส.ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งในเรื่องของตัวบุคคล และเข้าใจดีว่า ครอบครัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรู้สึกเสียใจเพราะคนที่ถูกถอดถอนเป็นคนในครอบครัว แต่ทุกคนก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและหลักนิติธรรม ตนและพระกำนันสุเทพ รวมถึงแกนนำ กปปส.ก็เช่นกัน เราอยากให้ประเทศเดินหน้าไปสู่การปฏิรูป ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งใดๆ อีก จึงขอให้ทุกฝ่ายเคารพมติของ สนช.โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มต่างๆอย่าออกมาเคลื่อนไหวใด เรารู้ดีว่าที่ผ่านมามวลชนเสื้อแดงที่ออกมาชุมนุมมีเป้าหมายเพื่อส่วนรวมเพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่ตัวบุคคล แม้ระยะหลังแกนนำบางคนจะยอมตกเป็นเครื่องมือหรือเป็นกันชนให้กับนักการเมืองบางคนก็ตาม วันนี้อยากให้ทุกคนคำนึงถึงประเทศชาติเป็นสำคัญ ถ้าหากจะออกมาเคลื่อนไหวก็ขอให้เป็นความเห็นในเรื่องประเด็นการปฏิรูปก็มีช่องทางอยู่แล้ว
ด้านนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ กรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฎิรูปแห่งชาติ กล่าวถึงการสร้างความปรองดองหลัง สนช.มีมติดังกล่าวว่า ต้องขอแสดงความเห็นใจต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ถูก สนช.ถอดถอน แต่เมื่อเทียบความเสียหายของบ้านเมือง นายกฯ ในฐานะผู้นำบริหารสูงสุด ไม่ใช่แค่คนไทยคนหนึ่ง ถึงอย่างไรก็ต้องรับผิดชอบต่อจากความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าว ต้องถือว่าการถูกลงโทษถอดถอนเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ขณะเดียวกันก็เห็นใจและเข้าใจเหล่ากองเชียร์และญาติพี่น้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นอย่างมาก แต่ขอให้ท่านเหล่านั้นเห็นใจและเข้าใจหัวอกของผู้สูญเสียบาดเจ็บล้มตายซึ่งเป็นประชาชนทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นชาวบ้านรากหญ้าทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบเสียหายจากการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองตลอด 10 ปีที่ผ่านมาด้วยความจำยอม อย่าปลุกระดมให้ความขัดแย้ง เกลียดชังกลับคืนมาอีก เพื่อให้โอกาสความปรองดองได้เกิดขึ้นในสังคมไทย
“ขอเรียกร้องความเห็นใจให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ ได้มีโอกาสคลายความรู้สึกกดดัน มีโอกาสของเวลาในการใตร่ตรองพิจารณาถึงเหตุและผล มีโอกาสกลับสู่สังคมแบบไทยซึ่งเต็มไปด้วยความรัก สามัคคี เอื้ออาทร ให้อภัย อโหสิต่อกัน” นายอดุลย์กล่าว