บอร์ด ป.ป.ช.มีมติส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เรียกค่าเสียหายผู้ที่เกี่ยวข้องโครงการจำนำข้าว 5-6 แสนล้านบาท ส่วนการไต่สวนทุจริตขายข้าวแบบจีทูจี อนุกรรมการฯสอบเสร็จแล้ว รอส่งให้ ป.ป.ช.ลงมติต้นปี 58 แย้มมีเจ้าหน้าที่รัฐ 6 เอกชน 15 เอี่ยวทุจริต
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีความเห็นให้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อเรียกค่าเสียหายจำนวน 5-6 แสนล้านบาท กับผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหาย โดยขอให้กระทรวงการคลังรอดูผลสอบในสำนวนโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคดีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ ป.ป.ช.จะส่งสำนวนคดีไปให้กระทรวงการคลังเพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะเรียกค่าเสียหายในโครงการจากใครบ้าง
ส่วนความคืบหน้าของการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น นายวิชากล่าวว่า เตรียมเชิญนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) มาให้ข้อมูลตามมติของคณะทำงานร่วม หลังจากที่ได้ข้อมูลดังกล่าวแล้วคิดว่า อัยการสูงสุดไม่ควรมีปัญหาติดขัด
สำหรับการไต่สวนทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีนั้น นายวิชากล่าวว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนได้สอบข้อเท็จจริงครบถ้วนหมดแล้ว จะส่งเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ลงมติในช่วงต้นปี 2558 แม้ขณะนี้มีข้อมูลประเด็นต่างๆ เพิ่มเข้ามา แต่อย่างน้อย ป.ป.ช.จะเร่งชี้มูลความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ 6 คน และเอกชน 15 คน ให้ได้ก่อน ทั้งนี้ จากการไต่สวนพบว่า นอกจากบริษัทเอกชนของจีน 2 แห่ง คือ บริษัท ไห่หนาน และบริษัท กวางตุ้ง ที่ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาลจีนในการซื้อขายแล้วยังพบว่ามีบริษัทเอกชนของจีนอีก 4 แห่งเกี่ยวข้องด้วย โดยมีการส่งออกรวม 14 ล้านตัน
