xs
xsm
sm
md
lg

ข้อมูลTDRIหลักฐานแน่นมัด‘ปู’ทุจริตข้าวป.ป.ช.เชื่ออัยการสูงสุดส่งฟ้องแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ป.ป.ช.มั่นใจพยานหลักฐานแน่น เอาผิด “ยิ่งลักษณ์” คดีโกงจำนำข้าว เชื่อ อสส.รับลูก-ส่งฟ้องศาลฎีกาฯทันที ไม่ต้องตั้งคณะทำงานร่วมฯ ย้ำอีกหนไม่ได้เร่งปิดเกม ด้าน “วิชา” สวดนักการเมืองหวังผลประโยชน์คลอดประชานิยมไม่ยั้ง สบช่องโกงจนประเทศชาติเสียหาย ห่วง ปชช.ตก“กับดักของความไม่เท่าเทียม คิดว่าได้ส่วนแบ่ง-ไม่สนคอร์รัปชั่น ตอกอดีตนายกฯโอดโอยโดนชี้มูล ให้เครดิต “ทีดีอาร์ไอ” ขุดคุ้ยจำนำข้าวจนลาก “ปู” ขึ้นเขียงได้

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ป.ป.ช.เรื่องกระบวนการไต่สวนในคดีรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการ ป.ป.ช.ได้เตรียมการยกร่างคำชี้แจงและคำแถลงการณ์เกี่ยวกับการพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวแล้ว คาดว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.จะสามารถพิจารณาได้ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ โดยขอยืนยันว่าการทำงานของ ป.ป.ช.ไม่ได้เป็นการเร่งรัดปิดเกมแต่อย่างใด เพราะ ป.ป.ช.ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย

** หลักฐานแน่น-ไม่ต้องตั้ง กก.ร่วม

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าอัยการสูงสุด (อสส.) จะส่งฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายวิชัย กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ทำเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วโดยได้มีพยานหลักฐานและเอกสารชัดเจนครบถ้วน และมีความแน่นหนามาก จึงคิดว่าไม่น่าจะต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง อสส.กับ ป.ป.ช. ซึ่งขั้นตอนขณะนี้ ป.ป.ช.กำลังเร่งทำเอกสารและรายงานส่งให้กับ อสส.ให้ทันภายใน 14 วันตามกรอบของกฎหมายโดยไม่สามารถขยายเวลาไปมากกว่านี้ได้

เมื่อถามว่า ป.ป.ช.จะสามารถดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้หรือไม่ หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีการให้ความเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าประมาณ 5 แสนล้านบาท นายวิชัย กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงประเด็นนี้ แต่คิดว่าคงต้องมาพิจารณากันในรายละเอียดอีกครั้ง

** ห่วง ปชช.ติดกับดักประชานิยม

วันเดียวกัน นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ “ปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทย : บทบาทของนักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์” ในการอบรมหลักสูตรนิติศาสตร์ระยะสั้นแก่เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตอนหนึ่งว่า หากมองในทางเศรษฐศาสตร์เหตุผลที่การทุจริตคอร์รัปชั่นยังอยู่ในสังคมไทยมาจากความไม่เท่าเทียมกันในทางเศรษฐกิจที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยตลอดมา ยิ่งกว่านั้นผู้มีพลังทางเศรษฐกิจสูงกว่า แม้กระทำผิดต่อการทุจริตก็ไม่จำเป็นต้องรับโทษ เพราะสามารถจ่ายเงินสินบนใต้โต๊ะก็รอดพ้นจากคดี รวมทั้งคดีความที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจมักไร้ประสิทธิภาพเต็มไปด้วยความล่าช้า

“ในสภาพเช่นนี้รัฐบาลจึงได้จัดทำนโยบายประชานิยมที่มีการแจกของและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ประชาชนอย่างแพร่หลาย ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าตนเองได้ส่วนแบ่งต่างๆจากรัฐบาล โดยไม่สนใจโครงการเหล่านั้นจะทุจริตคอร์รัปชั่นจนเกิด “กับดักของความไม่เท่าเทียมกัน” หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดความทุจริตคอร์รัปชั่นมากขึ้น จนยากที่จะแก้ไขกลายเป็นกับดักทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ที่ไร้ความยุติธรรม” นายวิชา ระบุ

** เผยใช้หลักเศรษฐศาสตร์ทำคดีข้าว

นายวิชา กล่าวว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายคือ การให้ความเป็นธรรม แต่คนบางกลุ่มคิดว่ากฎหมายไม่ให้ความเป็นธรรมกับตนเองจึงเกิดการตั้งคำถาม และออกมาโวยวายว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากนั้นจะเกิดการโต้แย้งไปเรื่อย เช่น กรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งออกมาระบุว่าไม่รับความเป็นธรรมในกระบวนการไต่สวนและพิจารณา ทั้งที่กฎหมายที่ใช้ในประเทศไทยในปัจจุบันเป็นกฎหมายในรูปแบบรัฏฐาธิปัตย์คือ กฎหมายไม่มีการแบ่งแยกในระดับชนชั้น โดยใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันจึงจะเกิดการเสมอภาคในสังคม รวมทั้งกฎหมายที่บังคับใช้ต้องตอบสนองสังคม หากตอบโจทย์ไม่ได้จะเกิดการโต้แย้งของการใช้กฎหมายในสังคมทันที

นายวิชา กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายสาธารณะเป็นเศรษฐศาสตร์การเมือง ถ้ารัฐบาลมุ่งประสงค์หารายได้โดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของประชาชนหรือสาธารณะนั่นคือความพินาศ หรือความตายของทุกรัฐบาลซึ่งถ้าไม่มีการริเริ่มของผู้ทรงคุณวุฒิทางเศรษฐศาสตร์ที่ได้วิเคราะห์วิจัยเอาไว้ เช่น ผลการศึกษาเรื่องมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ที่ นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ แสวงหาคำตอบเอาไว้ ตนฟันธงว่า ป.ป.ช.จะไม่สามารถที่จะชี้มูลความผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เลย หากขาดมิติทางเศรษฐศาสตร์ที่มีความสำคัญมาก ขณะที่การทำงานของ ป.ป.ช.ต่อจากนี้จะใช้สหสาขาวิชาศาสตร์คือ การผนึกกำลังระหว่างนิติศาสตร์กับเศรษฐศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เกิดผลมากยิ่งขึ้น

** “ทนายปู” ไม่รู้กำหนดการทัวร์นอก

ด้าน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความที่ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการสู้คดีจำนำข้าว กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจเลื่อนวันเดินทางไปต่างประเทศ เท่าที่ตนทราบกำหนดการเดินทางไปยุโรปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีการยกเลิก หรือเลื่อนการเดินทางออกไป หลังจากที่ คสช.ได้อนุญาตให้อดีตนายกฯเดินทางออกนอกประเทศได้ ยืนยันยังอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 20 ก.ค.-10 ส.ค. 2557 เช่นเดิม ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ยุโรปวันใดนั้น ตนยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจเลื่อนวันเดินทางออกไป อย่างอาจเป็นวันที่ 23 - 24 ก.ค. แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่า ยกเลิกกำหนดการเดินทางแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น