xs
xsm
sm
md
lg

อวสานจำนำข้าว “ทีดีอาร์ไอ” ชี้โครงการเจอทางตัน แต่ยังไม่ถึงขั้นล้มละลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทีดีอาร์ไอ” แนะรัฐเทขายข้าว ชี้โครงการเจอทางตัน แต่ยังไม่ถึงขั้นล้มละลาย ปรับกลยุทธ์บีบให้คายเงินในส่วนคอร์รัปชันเพื่อช่วยปลดหนี้จากชาวนาได้ แม้จะได้คืนเพียงบางส่วน คาดในระยะยาวโครงการนี้จะต้องยกเลิก และหันกลับไปใช้ระบบเดิม เชื่อจะช่วยลดกระบวนการคอร์รัปชันได้ดีกว่า

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นโครงการที่ล้มละลายตั้งแต่เริ่มโครงการ เพราะรัฐบาลรับซื้อแพงแต่กลับขายถูก ขณะเดียวกัน แม้รัฐบาลจะนำข้าวบางส่วนไปขายเพื่อสร้างรายได้แต่มักจะมีปัญหาขาดทุนตลอด โดยเชื่อว่าจุดที่รัฐบาลรับซื้อกับจุดที่รัฐบาลขายข้าวเป็นจุดที่มีทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด ทำให้เงินที่ได้มาน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ขณะเดียวกัน เมื่อย้อนกลับไปดูโครงการนี้พบว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการไม่มีการทำบัญชีโครงการอย่างเป็นระบบ และหากทำบัญชีอย่างเป็นรูปธรรมพบว่า รัฐบาลมีภาระที่ต้องจ่ายเงินให้ชาวนาถึง 124,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้รัฐบาลจะขายข้าวได้เพียง 10,000-15,000 ล้านบาท หมายถึงรัฐบาลยังขาดเงินที่จะมาจ่ายชาวนาอีกนับแสนล้านบาท โดยรัฐบาลเตรียมหาเงินจากแหล่งต่างๆ มาหมุนเพื่อให้เกิดสภาพคล่อง หรือชะลอการขอกู้เงินของรัฐวิสาหกิจ เพื่อเปิดทางให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีเม็ดเงินไปกู้ ซึ่งพอจะทำให้หนี้โดยรวมของรัฐบาลไม่ใหญ่จนเกินไป

ประธานทีดีอาร์ไอ กล่าวอีกว่า ปัญหาจริงๆ ของโครงการรับจำนำข้าวมีมากกว่าเรื่องการขาดสภาพคล่อง ซึ่งถ้าหากทำบัญชีแล้วย้อนกลับไปดูผลการดำเนินการที่ผ่านมาตลอดฤดูกาลปี 2554-2556 รัฐบาลซื้อข้าวจากชาวนาโดยจ่ายเงินไปแล้ว 700,000 ล้านบาท แต่ขายข้าวได้เพียง 150,000 ล้านบาท ซึ่งยังขาดเงินกว่า 500,000 ล้านบาท โดยส่วนนี้รัฐบาลต้องไปกู้เพื่อมาถมส่วนต่างที่ขาดไป และเป็นการกู้จนเต็มวงเงินจนไม่สามารถทำได้อีก ซึ่งการดำเนินการระยะ 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าโครงการนี้มีรายจ่ายมหาศาล แต่กลับสวนทางกับรายรับที่มีไม่มาก รวมทั้งยังก่อให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจไทย ตั้งแต่การใช้งบประมาณมหาศาล การทำลายตลาดข้าวจากการที่รัฐบาลกลายเป็นผู้ผูกขาดการซื้อ-ขายข้าว ทำให้ตลาดการส่งออกข้าวไทยเสียหายไปด้วย และที่สำคัญโครงการนี้ไม่สามารถช่วยชาวนาได้อย่างยั่งยืน

ขณะที่ นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นการคอร์รัปชันแบบมีใบเสร็จ และเป็นกระบวนการคอร์รัปชันที่ใหญ่มาก โดยเฉพาะกระบวนการขายข้าวราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด และมีการออกใบเสร็จการขายโดยรัฐบาล ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในนโยบายประชานิยมของพรรคการเมืองที่ใช้หาเสียง เพื่อหวังผลคะแนนเสียงประชาชนระยะสั้น แต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาว โดยขณะนี้ รัฐบาลตกอยู่ในภาวะตันทุกๆ ด้าน ทั้งกฎหมายเลือกตั้ง และไม่มีเงินที่จะมาจ่ายหนี้แก่ชาวนา หรือเรียกว่าเข้าตาจน แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะอยู่ในภาวะล้มละลาย เนื่องจากรัฐบาลมีข้าวที่ขายไม่ออกซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินมหาศาลระยะสั้นที่สามารถนำมาแปลงเป็นเงินได้ แต่หากปล่อยทิ้งไว้ระยะยาว รัฐบาลอาจล้มละลายได้ เพราะข้าวที่เก็บในโกดังนานๆ ก็จะเสื่อมคุณภาพ ทางออกที่รัฐบาลสามารถทำได้ขณะนี้คือ การนำข้าวออกมาขาย เป็นอีกหนทางที่รัฐบาลจะมีเงินสดมาจ่ายหนี้สินให้ชาวนาขณะนี้

ด้านนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ ระบุว่า หากรัฐบาลยังยืนกรานที่จะดำเนินโครงการรับจำนำข้าวอีก สถานะในการส่งออกข้าวของประเทศไทยจะตกต่ำ และยังเป็นการกรุยทางให้เวียดนาม และอินเดีย ครองแชมป์ในการส่งออกข้าวในตลาดโลกด้วย ขณะที่ผู้ส่งออกข้าวของไทยเริ่มผันตัวไปทำธุรกิจในต่างประเทศบ้างแล้ว ส่วนผลกระทบในประเทศที่กำลังประสบปัญหาขณะนี้ คือ ชาวนายังไม่ได้เงิน ราคาข้าวตก แสดงให้เห็นถึงปัญหาการบริหารจัดการอย่างไม่มีระบบของรัฐบาล

ส่วนทางออกอีกทางของรัฐบาลในการหาเงินมาจ่ายหนี้สินนั้น นายนิพนธ์ เห็นด้วยกับแนวคิดของผู้นำเกษตรกรในจังหวัดพิจิตร คือ การให้ชาวนานำใบประทวนข้าวที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ออกให้เกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวเพื่อให้นำไปยื่นรับเงินจาก ธ.ก.ส. ไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินอื่น ทั้งนี้ รัฐบาลต้องไปขอร้องสถาบันการเงินให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งจะเป็นอีกวิธีที่ไม่ถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายรัฐธรรมนูญ เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลกำลังอยู่ในสถานะรัฐบาลรักษาการ

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการทีดีอาร์ไอเห็นตรงกันว่า แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ชาวนาไม่ได้รับเงินจากการขายข้าวให้รัฐบาล แต่สิ่งนี้คือบทเรียนราคาแพงที่จะทำให้รัฐบาลชุดต่อไปที่จะเข้ามาบริหารประเทศตระหนักถึงหนทางที่จะนำไปสู่การพัฒนาตลาดการส่งออกข้าวที่มีคุณภาพโดยการช่วยเหลืออาชีพชาวนาได้อย่างยั่งยืน และจริงจัง ด้วยการทำให้ชาวนาสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้ดี และมีคุณภาพ ทำให้ขายได้ราคาดีตามกลไกของตลาดที่มีอยู่ คือ รัฐบาลต้องพัฒนาการเพิ่มผลผลิตข้าว ด้วยโครงการวิจัยและการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ข้าวไทยกลับมาผงาดอีกครั้งกับการส่งออกข้าวในเวทีระดับโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น