ประธานองคมนตรีฯ เป็นประธานมอบประกาศนียบัตร นยปส.รุ่น 5 พร้อมให้โอวาท ยกยากจนปัญหาใหญ่ แต่ไม่ด่วนเท่าปัญหาโกงที่แก้ไม่ค่อยได้ผล เหตุมองธุระไม่ใช่ ติงเป็นความคิดที่แย่มากถึงขั้นไม่รักชาติ รับใช้ธรรมาภิบาลช้าเกินไป ปลุกตัวเองเป็นแบบอย่าง กล้ายืดอกไม่โกง ไม่ไหว้-ให้เกลียดคนโกง เหตุเป็นสิ่งสุดเลวร้าย ฝากเร่งคดีลงโทษแรง ให้กลัว ขอให้อายไทยถูกมองขี้โกง ปลุกสำนึกทำชาติไร้โกง
วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตร “นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง” (นยปส.) รุ่นที่ 5 จำนวน 72 คน โดย พล.อ.เปรมกล่าวให้โอวาทหลังมอบประกาศนียบัตรว่า ขอขอบคุณนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ที่ให้ตนได้พบคนสำคัญของชาติบ้านเมือง และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตร ซึ่งเป็นประกาศนียบัตรที่สำคัญมากที่สุดในบรรดาประกาศนียบัตรทั้งหลาย บ้านเมืองของเรามีปัญหาใหญ่อยู่ 2 อย่าง คือ 1. ความยากจน และ 2. ที่เรากำลังจะปราบปรามกันอยู่คือ การฉ้อราษฎร์บังหลวง สำหรับปัญหาความยากจนเป็นภาระของรัฐบาลที่จะต้องดูแลราษฎรที่ยากจนของเราให้ยากจนน้อยลง เรื่องยากจนสำคัญแต่ไม่เร่งด่วนเหมือนอย่างกับปัญหาที่เรากำลังศึกษากันอยู่คือ การฉ้อราษฎร์บังหลวงที่ยังมีอยู่มากในประเทศของเรา ยังแก้ไขให้หายไปหรือให้มีน้อยลงไม่ค่อยประสบความสำเร็จ หรือประสบความสำเร็จแต่น้อยมาก เพราะต่างคนต่างคิดว่าไม่ใช่ธุระของเขา ใครจะโกงอย่างไรเป็นเรื่องของคนนั้น ไม่ใช่เรื่องของคนที่ไม่โกง
“บางคนบอกไม่ใช่หน้าที่ของผม ไม่ใช่หน้าที่ของดิฉัน ใครมีหน้าที่ก็ทำไป บางคนก็บอกว่าจะไปเพาะศัตรูทำไม อยู่เฉยๆ ดีแล้ว อันนั้นเป็นความคิดที่แย่มาก ใครคิดอย่างนั้นถือว่าไม่ร่วมมือกันพัฒนาชาติ หรืออาจจะพูดว่าไม่รักชาติก็ได้ บางคนสอนว่าให้ใช้คุณธรรมจริยธรรมหรือการปกครองที่เราเรียกกันว่าธรรมาภิบาล ก็ใช้ได้ แต่ผมว่ามันช้า ช้าจนอาจจะเรียกว่าช้าเกินไป ไม่ทันกับความเลวร้ายในเรื่องของการฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากขอเรียนท่านทั้งหลายว่า เราจะต้องทำตัวเราเองให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องเงยหน้ากล้าพูดยืดอกว่า ผมไม่โกง ดิฉันไม่โกง ต้องกล้าหาญพอที่จะพูดอย่างนั้น แล้วทำให้เขาดูว่าที่ผมพูดและดิฉันพูด ผมทำและดิฉันทำ โดยสรุปคือ เราต้องกล้าหาญพอที่จะไม่ยกมือไหว้คนโกงชาติบ้านเมือง ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เป็นญาติพี่น้อง เป็นเพื่อนฝูงสนิทสนมกัน แต่ถ้าเขาร่ำรวยมาเพราะโกงคุณ โกงผม โกงดิฉัน ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้เขาหรอก” พล.อ.เปรมกล่าว
พล.อ.เปรมกล่าวว่า ตนอยากให้ทุกคนไปสอนคนอื่นให้เกลียดคนโกง ทำอย่างไรก็ได้ขอให้ทุกคนเกลียดคนโกง เพราะคนโกงคือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่มีในชาติบ้านเมืองของเรา ตนว่านักศึกษา นยปส.5 รุ่นที่เชิญมาอบรมล้วนแต่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นผู้ที่มีผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ เราต้องทำตัวอย่างให้คนเห็น ทั้งคนข้างบน คนข้างๆ คนข้างล่างเรา ต้องเห็นว่าเราไม่ใช่คนโกง สิ่งที่บอกว่าจะไปยุ่งทำไมไม่ใช่ธุระนั้นอยากให้ทุกคนเปลี่ยน เพราะสิ่งที่จะทำได้รวดเร็วที่สุดคือ ต้องใช้ความรวดเร็วและรุนแรง ทำคดีให้เร็วและลงโทษให้รุนแรง ไม่เช่นนั้นคิดว่าการจัดอันดับความโปร่งใสที่ไทยอยู่อันดับที่ 85 ก็อยู่เท่านี้ คิดว่ากฎหมายก็ดี ข้อบังคับก็ดี จะต้องทำด้วยความรวดเร็วและรุนแรง ให้คนกลัวการกระทำนั้นว่า เป็นการกระทำที่คุณจะต้องติดคุกติดตะรางนานๆ
ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษกล่าวว่า การฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่สิ่งหนึ่งสำคัญกว่าการกระทำผิดกฎหมายคือ ความอับอายของชาติบ้านเมืองของเรา ใครๆ ก็บอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศขี้โกง ตนอยากให้พวกคุณอาย อยากให้พวกเราทั้งหลายที่เป็นผู้ใหญ่รู้สึกว่าที่เขาว่าเราอย่างนั้นเราควรจะได้รับความอับอาย นายปานเทพกับพวกเราทั้งหลายอับอายแย่อยู่แล้ว แต่ถ้าประเทศของเราได้รับความอับอายตนคิดว่าเราปล่อยปละละเลยไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเราที่อาสาเข้ามาช่วยชาติบ้านเมือง ต้องแก้ไขความอับอายของชาติเราให้ได้ ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันทำเรื่องนี้ ตนคิดว่าเราไม่ได้รักชาติ เราไม่ได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน เราทำให้ชาติได้รับความอับอาย
“ตัวคุณ ตัวผม ตัวดิฉันอับอายไม่เป็นไร แต่ชาติต้องรับได้รับความอับอายเป็นสิ่งที่พวกเราต้องไม่ยอม ต้องทำให้ได้ว่าชาติเราไม่โกง หรือโกงแต่น้อย ความโกงในชาติของเราค่อยๆ หายไปทีละนิด หายไปในที่สุดด้วยฝีมือของพวกเรา ด้วยความพยายามของพวกเรา ความเสียสละของพวกเราที่จะทำให้ชาติที่มีเกียรติเป็นชาติที่ไม่โกง ผมขอร้องบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองว่าจะต้องยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยแล้วต้องพูดว่า ชาติไทยไม่โกง” พล.อ.เปรมกล่าว
