ป.ป.ช.ประชุม อสส.หาแนวทางปฏิบัติงานร่วมกัน เห็นชอบ 3 แนวทางแก้ปัญหา หลังถูกมองประสานงากันตลอด “สรรเสริญ” ปัดงัดข้อ คาดถกคณะทำงานร่วมกันไม่เกินสิ้นปี เชื่อจะเห็นทิศทางมากขึ้น ย้ำปมจีทูจีไม่เกี่ยวสำนวน “ยิ่งลักษณ์”
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี วันนี้ (16 ธ.ค.) สำนักงาน ป.ป.ช.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหารือข้อราชการประจำปี 2557 ระหว่างผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช.และผู้บริหารสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อหารือแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง ป.ป.ช.กับ อสส.ที่ต้องประสานงานให้เกิดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.พร้อมกรรมการ ป.ป.ช. และผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. หารือร่วมกับนายตระกูล วินิจฉัยภาค อสส. และผู้บริหารสำนักงาน อสส.
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีการหารือ 3 ประเด็น คือ 1. จะมีแนวทางและความร่วมมือในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ปัจจุบันทางสำนักงาน อสส.ได้ตั้งสำนักงานสอบสวนขึ้นมา จึงจะนำมาช่วยในการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อลดปัญหาข้อไม่สมบูรณ์ เพราะหากต่างฝ่ายต่างทำจะเกิดปัญหาเหมือนกับที่ผ่านมา ดังนั้น อสส.จะต้องมาร่วมไต่สวนกับ ป.ป.ช.ตั้งแต่ต้นเลย
2. ในการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช.พบว่า มีพยานของ ป.ป.ช.ไม่ว่าจะเป็นผู้กล่าวหา ผู้เสียหาย ผู้ทำคำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเอกชนที่ร่วมกระทำผิดแล้ว ป.ป.ช.ได้กันเอาไว้เป็นพยานได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญาจำนวนมาก ต่อไป อสส.จะรับแก้ต่างคดีให้ โดยให้ ป.ป.ช.ทำข้อเสนอขึ้นไป
และ 3. เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานของคณะทำงานฝ่าย อสส. และ ป.ป.ช. เนื่องจากการตั้งข้อไม่สมบูรณ์บางเรื่องทางผู้แทนฝ่าย อสส.ตั้งเอาไว้จำนวนมากพอสมควร ทาง ป.ป.ช.อยากให้การตั้งข้อไม่สมบูรณ์เอาเฉพาะประเด็นหลักและสำคัญ และเมื่อตั้งข้อไม่สมบูรณ์มาแล้วทาง ป.ป.ช.จะต้องดำเนินการตามที่ตัวแทนฝ่าย อสส. หรือไม่ให้เป็นหน้าที่ของดุลพินิจของผู้แทนแต่ละฝ่ายพิจารณาว่า ข้อใดบ้างที่รับได้และทำร่วมกัน ส่วนตรงไหนรับไม่ได้ให้ดูเป็นรายกรณีตามที่คณะทำงานร่วมเห็นสมควร
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการประชุมครั้งนี้เรียบร้อยดี ไม่มีการโต้ถียงหรือว่ามาเอาชนะคะคานกัน เป็นในลักษณะที่ต่างฝ่ายต่างเสนอว่าเห็นควรว่าจะทำอย่างไร ทั้ง 3 ประเด็นทั้งสองฝ่ายรับได้ทุกแนวทาง
เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ส่วนการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น มีการหารือกัน เนื่องจากมีข่าวว่า อสส.จะขอเพิ่มประเด็นต่างๆ รวมถึงเรื่องการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แต่ในคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช.ยังไม่เห็นประเด็นดังกล่าวเลยว่าที่คณะทำงานฝ่าย อสส.จะขอเพิ่มคือประเด็นอะไร แต่เห็นด้วยกับพยานหลักฐาน 4 รายการที่ อสส.เคยขอให้ไต่สวนเพิ่มเติมก่อนหน้านี้เพื่อให้ข้อไม่สมบูรณ์มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดย อสส. เห็นด้วยในหลักเบื้องต้น แต่อยากจะขอให้เพิ่มเติมบางประเด็น
ส่วนกรณีการขายข้าวแบบจีทูจีกับจีน ที่ อสส.แถลงเอาไว้ ป.ป.ช.ไม่รู้เลยว่าความหมายที่ท่านพูดคืออะไร แล้วเกี่ยวข้องอยู่ในสำนวนหรือไม่ คงจะคุยกันอีกครั้งในการประชุมคณะทำงานร่วมนัดหน้า ซึ่งประสานกันไว้แล้วว่าจะประชุมให้ได้ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ อสส.ให้สอบพยานในคดีระบายข้าวจีทูจีเพิ่มเติมนั้น คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า คดีระบายข้าวแบบจีทูจีเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ป.ป.ช.กำลังไต่สวนอยู่แต่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เป็นประเด็นโดยตรงของผู้ถูกกล่าวหา เพราะที่ ป.ป.ช.กล่าวหาคือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แม้จะมีคำกล่าวหาในเรื่องนี้มาก็จริงแต่ ป.ป.ช.ไม่ได้ไต่สวน อย่างไรก็ตาม สำหรับการไต่สวนคดีระบายข้าวแบบจีทูจีใกล้เสร็จแล้ว
ส่วนการประชุมคณะทำงานร่วมสองฝ่ายครั้งหน้าจะได้ข้อยุติเลยหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะยังอยู่ในกระบวนการคุยกันอยู่ และอยู่ในกระบวนการที่ต่างฝ่ายต่างไปหารือ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรื่องเดินจนกระทั่งเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น ในการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างสองหน่วยงานในครั้งถัดไปที่จะมีขึ้นภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้น่าจะมีความชัดเจน แต่หากยังมีข้อสรุปที่ไม่ตรงกัน คณะทำงานแต่ละฝ่ายจะต้องรายงานเข้าคณะกรรมการของสำนักงานตัวเองในเดือน ม.ค. 58 แต่หากคณะทำร่วมฝ่าย ป.ป.ช.สามารถพิจารณารับข้อเสนอของฝ่าย อสส.ได้ กระบวนการอาจจะยืดออกไปอีก เพราะอาจจะต้องมีการสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ม.ค. 58 นี้หรือไม่
“ป.ป.ช.ได้หารือกับคณะทำงานร่วมฯ มาโดยตลอดว่าอยากให้ อสส.เป็นผู้ฟ้อง แต่ท่านยังติดใจก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของท่านโดยตรง มีภารกิจเรื่องนี้โดยตรงจึงต้องขึ้นอยู่กับท่าน แต่แนวทางเราได้แถลงมาตลอดยังยืนยันหลักการนี้อยู่ ไม่ได้ไปโต้แย้งหรือคัดค้าน อสส.แต่อย่างใด”
ผู้สื่อข่าวถามว่า อสส.ยังต้องการให้ ป.ป.ช.ยืนยันว่ากรณีนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ใช่ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ไม่ต้องยืนยันแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ฝ่าย อสส.จะต้องการ แต่ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องยืนยันแล้ว เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาสังคมมองว่า ป.ป.ช.กับ อสส.งัดข้อกันเป็นจริงดังกล่าวหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ไม่เคยเลย เพียงแต่กระบวนการต้องมีขั้นตอน มีรายละเอียดในการนัดประชุมเท่านั้น การประชุมคณะทำงานร่วมครั้งต่อไปทาง อสส.ได้เสนอว่าขอให้เป็นสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ด้วยตัวเอง โดยทาง ป.ป.ช.พร้อม เพียงแต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องวันประชุมในตอนนี้