ประธาน ป.ป.ช.เตรียมนำข้อมูลปิดโครงการรับจำนำข้าวของคลังไปขยายผลประกอบคำแถลงเปิดคดีถอดถอน “ยิ่งลักษณ์” ต่อ สนช. แต่ยังไม่มีมติส่งใครไปแถลง คาด “วิชา-สรรเสริญ” เชื่อคุยอัยการสูงสุดครั้งหน้าควรได้ข้อสรุปจะส่งฟ้องจำนำข้าวหรือไม่ ยันไม่สอบใครเพิ่มแล้ว ถ้ายังยึกยักจะฟ้องเอง ด้าน “ณรงค์” เผยตรวจสอบทรัพย์สิน 5 รมต.เสร็จแล้ว 80% ระบุต้นปีหน้าสมบูรณ์ ชี้ต้องให้ความสำคัญกับทุกฝ่าย ไม่ตอบยึดทรัพย์หรือไม่ อ้างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลชุดที่แล้ว แถลงผลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 47 ถึงวันที่ 22 พ.ค. 57 มีผลการขาดทุนถึง 6.8 แสนล้านบาทว่า ป.ป.ช.จะนำข้อมูลดังกล่าวไปขยายผลต่อ โดยจะนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการแถลงเปิดคดีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเลยไม่ยับยั้งความเสียหายโครงการจำนำข้าว เพื่อยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการขาดทุนเป็นจำนวนมาก ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่มีมติว่าจะส่งใครเป็นผู้แถลงเปิดคดีในส่วนของ ป.ป.ช. แต่คาดว่าน่าจะเป็นนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. และนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดีดังกล่าว นอกจากนี้จะนำข้อมูลของประธานอนุกรรมการปิดบัญชีฯไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาคดีไต่สวนการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย
นายปานเทพกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าของการทำงานของคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.และอัยการสูงสุด (อสส.) เรื่องการทบทวนความไม่สมบูรณ์สำนวนคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าวนั้น ขณะนี้คณะทำงานทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้กำหนดว่าจะประชุมคณะทำงานต่อไปเมื่อใด แต่คิดว่าการประชุมคณะทำงานนัดหน้าน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ควรจะได้ข้อสรุปว่า อสส.จะส่งฟ้องคดีรับจำนำข้าวให้ ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช.ยืนยันว่าจะไม่มีการสอบปากคำพยานบุคคลใดๆเพิ่มเติมให้อีกแล้ว เพราะเห็นว่า หลักฐานที่ ป.ป.ช.ไต่สวนมา มีความครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว หากประชุมนัดหน้า คณะทำงานฝ่ายอัยการสูงสุดยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่า จะส่งฟ้องคดีให้ ป.ป.ช.หรือไม่ ป.ป.ช.ก็จะเป็นผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเอง
ด้านนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเชิงลึกของ 5 รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ว่าขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ และกำลังรอข้อมูลจากธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การตรวจสอบคืบหน้าไป 80% แล้ว คาดว่าประมาณต้นปี 58 น่าจะเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ เหตุที่การตรวจสอบล่าช้าเป็นเพราะการตรวจสอบมันไม่เร็วเหมือนการขายโอเลี้ยง การให้ความเป็นธรรมกับทุกคนถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพที่ ป.ป.ช.จะต้องคำนึงถึง และต้องให้ความสำคัญกับบุคคลที่ถูกตรวจสอบด้วย จะมาทำอะไรลวกๆ ไม่ได้ ความยุติธรรมหรือการอำนวยความยุติธรรมนับเป็นหัวใจของการทำงานของ ป.ป.ช.ช้าไม่เป็นไร แต่ช้าแล้วเขาต้องได้รับความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตรวจสอบพบว่ามีความร่ำรวยผิดปกติจะสามารถยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินเลยได้หรือไม่ นายณรงค์กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมายยังตอบไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องก็ว่าไปตามกฎหมาย