องค์กรความโปร่งใส ขยับอันดับ CPI ไทยดีขึ้นจาก 102 ลงมาอยู่ที่ 85 และเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน ประธาน ป.ป.ช.ปลื้มวางเป้าปี 2560 คะแนนดีขึ้นติดอันดับ 1 ใน 50 ของโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค.) มูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ได้เผยแพร่เอกสารการจัดอันดับภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 2557 ระบุว่ามูลนิธิได้รับผลการจัดอันดับภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ประจำปี 2557 (CPI) ซึ่งจัดทำโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ โดยประเทศไทยได้คะแนน CPI 38 คะแนน จาก 100 คะแนน อยู่อันดับที่ 85 จากการจัดอันดับทั้งหมด 175 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 12 จาก 28 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย กล่าวว่า ผลการจัดอันดับปีนี้เรามีคะแนนดีขึ้นเล็กน้อย จาก 35 คะแนนในปีที่แล้วมาเป็น 38 คะแนน และขยับอันดับขึ้นมาจากอันดับที่ 102 เป็นอันดับที่ 85 และอันดับที่ 16 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อพิจารณาเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน มีเพียงประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียเท่านั้นที่มีคะแนนเกิน 50 คะแนน โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 จาก 9 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ทั้งนี้ การที่อันดับของประเทศไทยเลื่อนขึ้นเป็นเพราะหลายประเทศที่เคยมีคะแนนเท่ากันหรือมากกว่าเราในปีที่แล้วได้คะแนนเท่าเดิม หรือบางประเทศกลับได้คะแนนลดลงหรือเพิ่มขึ้น
ดร.จุรีกล่าวว่า ทั้งนี้ ผลที่ค่า CPI ของไทยดีขึ้นอาจหมายถึงในช่วงปีที่ผ่านมาหลายภาคส่วนได้พยายามมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และเห็นผลของการแก้ปัญหาบางด้าน เช่น การปลูกฝังความดีให้เด็กๆ ในการเรียนการสอนหลักสูตร “โตไปไม่โกง” และการดำเนิน “โรงเรียนคุณธรรม” รวมถึงการตื่นตัวของภาคธุรกิจในการต่อต้านการทุจริต อีกทั้งคนไทยจำนวนมากได้แสดงความรู้สึกไม่พอใจต่อการทุจริตคอร์รัปชัน และแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชั่น
“การที่คนในสังคมตื่นตัวต่อปัญหาร่วมกันเช่นนี้เป็นสัญญาณที่ดีว่าประเทศไทย ได้นำพลังร่วมของคนในสังคมมาผลักดันการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้เป็นวาระแห่งชาติที่แท้จริง รวมถึงการไม่ยอมรับการโกงทุกรูปแบบและไม่ให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม และมีการกลั่นกรองและตรวจสอบผู้บริหารประเทศให้ทำงานด้วยความรับผิดชอบและโปร่งใส นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง”
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ตนรู้สึกพอใจกับผลคะแนนที่ออกมา หากเทียบกับปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าคะแนนในปีนี้ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 38 คะแนน จากปีที่แล้ว 35 คะแนน นอกจากนี้อันดับก็ได้เพิ่มขึ้นมาจากอันดับที่ 102 เป็น 85 ซึ่งอยู่ในลำดับเดียวกับประเทศฟิลิปินส์ แม้ตัวเลขลำดับคะแนนจะเพิ่มไม่มากแต่ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยปัจจัยทางบวก โดยอาศัยจากนโยบายรัฐบาลที่มีความชัดเจนมากขึ้นในการปราบปรามทุจริต รวมทั้งการปฏิรูปไม่ว่าจะด้านไหนจะมีเรื่องการปราบปรามทุจริตแทรกอยู่ทุกด้าน
นอกจากนี้ยังเห็นว่ากฎหมายในช่วงที่ยังมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จนถึงการมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ได้เน้นประโยชน์ให้การปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.ทำงานได้ดีขึ้น เวลาขออนุญาตก็ทำได้รวดเร็วมากขึ้น ภาคประชาชนได้เห็นการขับเคลื่อนภาพรวมการบังคับใช้กฎหมายย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี
“ในปี 2560 ที่เราได้ตั้งเป้ายุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 2 ก็หวังว่า CPI ของเราจะต้องถึง 50 คะแนน และติดอันดับ 1 ใน 50 ซึ่งก็มีทิศทางความเป็นไปได้ว่าการเอื้ออำนวยให้การทุจริตต่างๆ มีลักษณะที่ดีขึ้นและการทุจริตลดลง”