อดีต ส.ส.ปชป. ยื่น ป.ป.ช.สอบทุจริต โครงการ Road show สมัย รบ.ปู ที่ “สุรนันทน์” ดูแล ชี้จ้างประชาสัมพันธ์กว่า 240 ล้าน มติชนรับไป 140 ล้าน ข้องใจว่าจ้างโดยใช้วิธีพิเศษไม่เปิดโอกาสให้แข่ง ไร้ราคากลาง แถม “ยิ่งลักษณ์” โม้กู้ 2 ล้านล้าน สร้างรถไฟความเร็วสูงถึงหนองคาย และยังให้ ผอ.สนง. ลงนามแทนเลขาฯนายกฯ ทั้งที่โครงการงบสูง
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่าย ปี 56-57 เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าว สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการทุจริตการดำเนินโครงการ Road show สร้างอนาคตประเทศไทย 2020 ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในสมัยที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
นายวัชระกล่าวว่า การดำเนินการโครงการดังกล่าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งได้มอบให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินจัดนิทรรศการ สัมนา และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการลงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งของประเทศที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยมีการว่าจ้างงานประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว 240 ล้านบาท ปรากฏชื่อว่ามีบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างเป็นเงินมูลค่ากว่า 140 ล้านบาท ตนได้ตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการดำเนินงานและการใช้งบดังกล่าวว่าโครงการนี้จัดเป็นการว่าจ้างโดยใช้วิธีพิเศษไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเปิดเผยและเป็นธรรม ทั้งยังไม่มีการเปิดเผยราคากลาง รวมทั้งปรากฏข้อเท็จจริงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงไว้ว่าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งของประเทศว่า ได้บรรจุโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทาง กทม.-หนองคาย ในร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท แต่งบประมาณที่จัดเตรียมโครงการดังกล่าวเพียงพอแค่เส้นทาง กทม.-จ.นครราชสีมาเท่านั้น
นายวัชระกล่าวอีกว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดการลงนามอนุมัติงบประมาณที่มีจำนวนเงินสูงกว่า 100 ล้านบาท สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ข้าราชการตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเป็นผู้ลงนามแทนเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตนจึงเห็นว่าควรตรวจสอบข้อเท็จจริงและการปฏิบัติหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายสุรนันทน์ ว่าดำเนินการและใช้งบประมาณดังกล่าวเป็นไปตามกฎระเบียบและข้อบังคับทางราชการหรือไม่
ทั้งนี้ ตนจะไปยื่นข้าราชการที่เกี่ยวข้องในโครการดังกล่าวที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในเวลา 13.30 น.ต่อไป