xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ชี้เลือกตรงนายกฯ เพิ่มอำนาจบริหาร เสี่ยงรุนแรง จี้รัฐเลิกขายยางในสต๊อก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หน.ปชป.นำลูกพรรควางพานพุ่มวันรัฐธรรมนูญ แจงพรรคไร้มติเลือกตรงนายกฯ-ครม. เหตุประชุมพรรคไม่ได้ ชี้ไปเพิ่มอำนาจฝ่ายบริหาร จี้ กมธ.ยกร่างฯมองปัญหาให้ชัด หาทางป้องกันลุอำนาจ ไร้ปัญหา หากเป็น ปชต.-เป็นธรรม เตือนแยกอำนาจเสี่ยงรุนแรงขึ้น ชี้สถานการณ์ไม่นิ่งอย่างคุยล้างผิด หนุนลดวาระองค์กรอิสระ ตัดสินคดีการเมือง 6 เดือนจบ จี้เลิกขายยางในสต๊อก ใช้ยางในประเทศแก้เดือดร้อนชาวสวน

วันนี้ (10 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังนำสมาชิกพรรควางพานพุ่มดอกไม้ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ถึงกรณีที่คณะปฏิรูปการเมืองเสนอให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโดยตรงว่า พรรคคงมีมติไม่ได้เพราะเราไม่ใช่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ตนมาให้ความเห็นกับกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ให้ความเห็นชัดเจนไปแล้วว่า ถ้ามองปัญหาการเมืองที่ผ่านมาเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของฝ่ายบริหารที่เป็นที่มาของวิกฤต แต่การเลือกฝ่ายบริหารโดยตรงน่าจะทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น เพราะคนที่มาจาการเลือกตั้งโดยตรงก็จะอ้างคะแนนเสียงประชาชนตลอดเวลา ทำให้การตรวจสอบหรือใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบ จะทำให้เกิดความรับผิดชอบยากขึ้นอีก ตนมองว่าไม่ตรงกับการแก้ไขปัญหา เว้นแต่ว่าจะออกแบบระบบให้เกิดความรับผิดชอบที่ชัดเจน ตนคิดว่าความพยายามที่จะเปลี่ยนโครงสร้างโดยไม่ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น จะทำให้เหมือนกับเราเริ่มทดลองกันใหม่ แต่ถ้าคงรูปแบบของรัฐสภาแต่ทำอย่างไรให้คนที่จะเข้าสู่อำนาจต้องรับผิดชอบกับการกระทำที่เกินขอบเขต ผิดกฎหมาย ทุจริตคอร์รัปชัน น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่า

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้เป็นความเห็นของคณะหนึ่ง แต่ไม่ใช่ความเห็นของสภาและกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่ากลางเดือนนี้ สปช.จะต้องหาข้อสรุปเพราะต้องส่งกรอบความคิดให้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญตัดสินใจ เพราะกรอบที่ส่งไปไม่ใช่ตัวร่างจริง ยังมีเวลาที่จะทบทวน พิจารณาข้อดีข้อเสียอีกเยอะ ส่วนพรรคการเมืองไม่มีปัญหา ระบบไหนที่เป็นประชาธิปไตยที่เป็นธรรม เราก็ลงแข่งขันอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร และไม่ได้มีประเด็นที่จะเรียกร้องควรจะเป็นอย่างไร แต่ที่ให้ความเห็นเป็นห่วงในเชิงของการใช้อำนาจและกระทบปัญหาของประเทศมากกว่า

เมื่อถามว่ามีการเสนอให้ใช้วิธีการเลือกตั้งแบบประเทศเยอรมัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่อยู่ในระบบรัฐสภา ข้อดีคือทำให้คะแนนเสียงทุกเสียงที่เลือกพรรคการเมืองมีความหมาย และทำให้สัดส่วนในสภาสะท้อนเจตนาของประชาชน แต่จะมีความซับซ้อนพอสมควรเพราะฉะนั้นถ้าจะทำก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าแปลว่าอะไร วิธีการคำนวณคืออะไร โดยหลักของระบบนี้จำนวนของ ส.ส.จะคงที่ไม่ได้ จะมีผลกระทบกับการประชุมร่วมก็ต้องดูให้หมด ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่เพราะที่ผ่านมาเวลาเลือก ส.ส.สองระบบเราก็เลือกคู่ขนานกันไปแล้วเอาผลมารวมกัน แต่จะใช้ระบบเยอรมันจริงๆ คะแนนเสียงที่ลงให้พรรคการเมืองเป็นตัวชี้ขาด ใครจะเป็นรัฐบาล หรือใครจะมีจำนวน ส.ส.เท่าไหร่ในสภา ซึ่งจะทำให้เกิดความซับซ้อนที่ว่าต้องไปคำนวณว่าถ้า ส.ส.เขตเข้ามาไม่สะท้อนสัดส่วนตรงนี้จะต้องปรับ เติมอย่างไร ส่วนการเลือกตั้งพวงเล็ก พวงใหญ่ตนไม่ติดใจ ขอให้เป็นประชาธิปไตย และเป็นธรรม แต่ขอให้แก้ปัญหาการซื้อเสียง การทุจริต เข้ามาใช้อำนาจ พรรคการเมืองควรจะยอมรับกติกาอะไรที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นธรรม

ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมตนไม่ทราบว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่จะมาพูดขณะนี้ วิกฤตรอบสุดท้ายก็เกิดจากการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรม วันนี้ถ้าจะมาจำกัดขอบเขตไม่ใช่เรื่องง่าย สถานการณ์ยังไม่นิ่งจะพูดถึงความผิดทางการเมืองต้องมาถามต่อว่าถ้าอย่างนั้นคนที่ฝ่าฝืนกฎอัยการศึกวันนี้ก็ต้องได้รับการนิรโทษกรรมด้วยหรือเปล่า ความจริงเรื่องใหญ่ๆที่จะต้องทำวันนี้เยอะมาก เอาเรื่องนี้กลัวว่าจะไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง

เมื่อถามว่าจะนิรโทษกรรมเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองและทำความผิดอาญา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “แล้วพรุ่งนี้ถ้าเขาชุมนุมทางการเมืองคุณจะนิรโทษกรรมให้เขาไหม ถ้าทุกคนออกมาชู 3 นิ้วก็ต้องนิรโทษฯ ให้เขาไหม ถ้าไม่นิรโทษกรรมก็เท่ากับสองมาตรฐาน ถ้านิรโทษกรรมแล้วถามว่า คสช.จะดูแลบ้านเมืองอย่างไร”

ส่วนที่มีข้อเสนอให้ปรับลดบทบาทขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลายองค์กรลดลงมาก็เหมาะสม ยังได้เสนอว่าการตัดสินคดีสำคัญๆทางการเมืองใช้รูปแบบองค์คณะเฉพาะกิจคดีหรือไม่ เหมือนกับที่ศาลฎีกาเลือกองค์คณะสำหรับคดีอาญา เพราะเวลาที่คนไปดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระนาน ๆแล้วให้คุณให้โทษได้ ถูกเป็นเป้าของล็อบบี้ ถ้าล็อบบี้สำเร็จกลายเป็นพรรค พวกมาแล้วอยู่ยาว 9 ปี ก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้น แต่ถ้าใช้องค์กรอิสระทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อเท็จจริงสอบสวนเสนอ เหมือนทำสำนวนขึ้นไป แต่องค์คณะที่พิจารณาเป็นกรณีไป น่าจะทำให้โอกาสจะถูกแทรกแซงลดลง ตนเคยเสนอว่าคดีสำคัญๆ การพิจารณาไม่ควรเกิน 6 เดือนหรือ 1 ปี ถ้าใช้ 5 ปีนานมาก และเกิดปัญหา ที่ผ่านมาเกิดการประท้วงและขัดแย้งเพราะเกิดคดีสำคัญ ๆ แต่ปรากฏว่าองค์กรเหล่านี้ใช้เวลาทำงานนาน ประชาชนและสังคมช้าไม่ตอบสนอง และเกิดการประท้วง และเร่งไปภายหลังก็ถูกกล่าวหาไม่ได้มาตรฐาน เพราะฉะนั้นต้องพยายามลดงานองค์กรอิสระก่อน และให้ทำในเรื่องใหญ่ๆ แต่ต้องรวดเร็ว

หัวหน้าประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรณีที่ชาวสวนยางออกมาเรียกร้องให้พยุงราคายางกิโลกรัมละ 80 บาทว่า ชาวสวนยางเขาเดือดร้อนมาก อยากให้รัฐบาลทบทวนข้อเสนอที่เป็นประเด็นหลักที่ผ่านมา เหมือนยังไม่ชัดเจน ข้อแรกการจะให้ยางพาราคาขยับขึ้นต้องประกาศให้ชัดว่าจะทำอย่างไรยางที่อยู่ในสต๊อก เราเสนอไปแล้วว่าต้องประกาศไปเลยว่าไม่มีการขาย แต่จะเอามาใช้ทำถนนหรือจะทำลานกีฬา หรือโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ตอนนี้แม้แต่ท้องถิ่นทางภาคใต้ อบจ.สงขลา กำลังทำถนนโดยใช้ยางพาราอยู่ ซึ่งสำนักงบประมาณก็กำหนดราคามาเรียบร้อยแล้ว ถ้าทำตรงนี้จริงจังเราก็ดึงยางออกจากระบบได้เยอะส่วนความสำเร็จในการผลักดันราคายางในอดีตไม่ได้ใช้โครงการแทรกแซงเท่ากับการบริหารเรื่องของตลาด เพราะเราเป็นหนึ่งใน 3-4 ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกที่สามารถทำได้ ถ้ามีความชัดเจนยุทธศาสตร์อย่างนี้ อย่างน้อยที่สุดสัญญาณที่ส่งมายังตลาดต้องดีขึ้น แต่ผ่านมามีความสับสนเหมือนรัฐบาลก็ยังขายสต๊อกเก่าออกมา และยังพูดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องการนำเงินไปซื้อ จะซื้อจากตรงไหน ยางเก่า ยางใหม่ จึงทำให้ราคาขยับยาก

“ประชาชนเดือนร้อนมาก กำลังซื้อของประชาชนเป็นปัญหาหลักในระบบเศรษฐกิจตอนนี้เพราะฉะนั้นราคายาง ราคาข้าวต้องมีมาตรการ ยิ่งรัฐบาลบอกว่าไม่มีน้ำสำหรับทำนาปรัง ก็ยิ่งเป็นความเดือดร้อนเพิ่มเติมขึ้นไปอีก นโยบายอื่นๆก็ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจ พลังงานเป็นนโยบายที่ขณะนี้สวนทางกับการปฏิรูปโดยสิ้นเชิง สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจมหภาคโดยสิ้นเชิงและยังเป็นการใช้หลักให้ประชาชนแบกรับภาระแทนภาคเอกชน”





กำลังโหลดความคิดเห็น